ใต้เท้าจางเห็นองค์ชายสิบห้าเดินทางเข้ามายังสำนักมือปราบก็รีบเข้าไปสอบถามเรื่องขององครักษ์จง
“ก็เหมือนกับที่ท่านได้ข่าวมานั่นล่ะ! ยามนี้อาการบาดเจ็บภายนอกดีขึ้นแล้ว แต่พิษแล่นไปทั่วร่างทำให้ยังขยับตัวและพูดไม่ได้ ข้าให้คนอารักขาไว้อย่างแข็งขัน ยังไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปเยี่ยม”
“ผู้ใดทำร้ายองครักษ์จงหรือพะยะค่ะ?”
“มือปราบจั๋วได้ยินว่าเขาถูกอู่ฉางชิงกับลูกน้องรุมทำร้ายจนตกน้ำที่สะพาน ไท่หยาง ตอนนี้ข้ากำลังให้คนออกไปตามล่าเจ้านักโทษผู้นี้อยู่”
จางหยงหย่วนตีสีหน้าเศร้า ไม่รู้ว่าจงเหยียนตามติดอู่ฉางชิงไปตั้งแต่เมื่อใด? หวังว่าองครักษ์หนุ่มผู้นั้นคงจะมิได้เห็นตนเองนัดหมายกับนักโทษจับตายผู้นั้น
“อาการขององครักษ์จงหนักมากเลยหรือพะยะค่ะ?”
“ท่านหมอบอกกับข้าว่าอาการเป็นตายเท่ากัน ยามนี้ก็แค่ประคับประคองเอาไว้ สงสารก็แต่ว่าที่เจ้าสาวอย่างมู่เยี่ยนฟางนี่ล่ะ ไม่รู้ว่านางจะมีโอกาสได้เข้าพิธีวิวาห์กับจงเหยียนหรือไม่?”
“น่าเห็นใจนักพะยะค่ะ จงเหยียนยังหนุ่มยังแน่นไม่น่าจะต้องมาเจอสภาพเช่นนี้ ซ้ำยังเป็นช่วงก่อนจะแต่งงานอีกด้วย”
“ระยะนี้ข้าอาจจะต้องระดมคนออกตามล่าอู่ฉางชิงไม่ได้เข้ามาสำนักมือปราบนัก งานทางนี้ก็ฝากใต้เท้าช่วยดูแลก็แล้วกัน”
“กระหม่อมยินดีรับใช้องค์ชายพะยะค่ะ”
“ดี!”
จินวั่งซู่หลังจากกลับไปสงบสติอารมณ์ที่คฤหาสน์ตนเองเรียบร้อยก็ออกมายังสำนักข่าวในยามบ่าย ชิงหลานนั่งรออยู่ก่อนด้วยใบหน้ายิ้มๆ เจ้าของสำนักข่าวเห็นแล้วรู้สึกหงุดหงิดกับใบหน้าคล้ายจะยิ้มเย้าของลูกน้อง
“คุณหนูชิง เจ้าไม่ยิ้มเช่นนั้นจะได้หรือไม่?”
“หากข้าไม่ยิ้มอย่างนี้แล้วท่านจะเลี้ยงขนมดอกกุ้ยฮวาข้าหรือไม่?”
“ได้! ขอเพียงเจ้าไม่พูดถึงเรื่องนั้น ข้าจะซื้อให้เจ้ากินทั้งเดือนนี้เลยก็ได้”
ชิงหลานอดจะหัวเราะออกมามิได้
“ฮ่าๆ คุณชายจิน ข้าเพิ่งรู้ว่าหมอเกาเมิ่งเจี๋ยคือจุดอ่อนของท่าน ข้านึกว่าใต้หล้าคนอย่างจินวั่งซู่จะไม่หวาดกลัวสิ่งใดเสียอีก”
“พอๆ เจ้าหยุดพูดได้แล้ว! เมื่อคืนข้าเจอเรื่องสยองขวัญมามากจนไม่อยากจะให้ผู้ใดรื้อฟื้นขึ้นมากล่าวอีก” จินวั่งซู่ยกสองมือขึ้นเป็นการห้ามชิงหลาน
วันนี้มู่เยี่ยนฟางต้องอยู่ดูแลคู่หมั้นหนุ่มที่ยังอ่อนแรงอยู่บนเตียงหลังโรงหมอของท่านหมอเกา จินวั่งซู่อยากไปเยี่ยมมากทว่าเมื่อคิดถึงเกาเมิ่งเจี๋ยผู้นั้นก็ได้แต่ตัดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)