เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 40

ตั้งแต่ชิงหลานกลับมาจากเมืองหลวง สาวน้อยก็กินได้มากขึ้น ร่างกายของเริ่มมีเนื้อมีหนังและเลือดฝาดบนใบหน้า จังฮูหยินเห็นเช่นนั้นก็ยินดียิ่งนักจึงใช้ให้ เสี่ยวลิ่งนำเงินไปซื้อเนื้อหมูมาผัดให้บุตรสาวกิน

“ท่านแม่ เงินของท่านหมดไปกับการรักษาข้ามิใช่น้อยยังเหลือเงินพอซื้อหมูมากขนาดนี้เลยหรือ?” เผยมู่ซีแอบเห็นจังฮูหยินนับเงินอีแปะร้อยเป็นพวงในยามค่ำคืนก็พอจะรู้ว่าเงินที่แม่ของชิงหลานเก็บเอาไว้คงจะมิได้มีมากนัก

“ยังพอจะซื้อให้เจ้ากินได้บ้าง อีกไม่กี่วันแม่ก็จะไปขอรับงานจากเถ้าแก่เนี้ยจางเพิ่ม เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงไปดอก”

เผยมู่ซีนึกเห็นใจจังฮูหยินที่ต้องสูญเสียบุตรสาวเพียงคนเดียวไป ทั้งสภาพการใช้ชีวิตก็ยากแค้นลำเค็ญจึงอยากจะหาหนทางช่วยเหลือนาง

“ยามท่านไปร้านเถ้าแก่จางให้ข้าไปด้วยได้หรือไม่?”

“เจ้าอยากไปทำไมกัน? เพิ่งหายป่วยมาหยกๆ พักให้เยอะๆ เถอะนะ”

“ท่านแม่ดูสิ ข้าอ้วนขึ้นตั้งเยอะ กินข้าวทีละสองถ้วยก็ไหวให้ข้าไปด้วยนะ ข้าอยากเห็นตลาด”

จังฮูหยินดูสีหน้าบุตรสาวที่เริ่มมีเนื้อที่แก้ม ท่าทางดูแข็งแรงมากขึ้นกว่าแต่ก่อนราวกับคนละคนก็พยักหน้ารับ “อันที่จริงสีหน้าของเจ้าก็ดีขึ้นมากแล้ว ไปแค่นี้คงไม่เป็นไร”

จวนตระกูลชิงอยู่ห่างจากตลาดระยะเดินพอได้เหงื่อ จังฮูหยินเดินจูงมือบุตรสาวทั้งชี้ชวนให้ดูข้างทางด้วยความสุขใจ

“หลานเอ๋อร์ ดูลำคลองสายนี้สิ ตอนเจ้าเป็นเด็กในยามฝนตกพวกเราเคยออกมารอจับปลาที่มันหาน้ำใหม่ได้ตั้งหลายตัวนะ”

“น่าสนุกจังเลยนะเจ้าคะ” เผยมู่ซียิ้มกว้าง ความทรงจำของชิงหลานที่ได้รับรู้คือความสุขในวัยเด็กที่ได้ออกมาจับปลาตามท้องถนนกับมารดาและเสี่ยวลิ่ง เหล่าลู่เองก็ออกมาช่วยจับปลาด้วย พวกเขาจับปลาได้มากจนกินไม่หมด เหล่าลู่จึงแนะนำให้ทำปลาตากแห้งเพื่อเก็บเอาไว้กินได้นาน

“สนุกสิ! เจ้าน่ะสนุกกว่าผู้ใด จับปลาจนเสื้อผ้าเปียกปอนเลอะโคลนตมไปหมด เหนื่อยจนแทบหมดแรงกลับมาก็นอนอยู่เป็นวัน” จังฮูหยินรู้สึกว่าหลังจากฟื้นขึ้นมาครั้งนี้ บุตรสาวดูเปลี่ยนไปมากราวกับมิใช่คนเดิม นางเคยนอนร่วมห้องกับบุตรสาวแต่คราวนี้หลานเอ๋อร์กลับยืนยันว่านอนคนเดียวได้ บุตรสาวที่เคยอ่อนแอและต้องการที่พึ่งทั้งทางกายและทางใจกลายเป็นสาวน้อยที่เข็มแข็งและร่าเริงอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว

ร้านเย็บปักสกุลจางอยู่คู่อำเภอเฉินมายาวนาน ช่างของร้านล้วนได้รับการถ่ายทอดฝีมือจากรุ่นสู่รุ่น เครื่องเย็บปักถูกนำไปจำหน่ายในเมืองหลวงด้วย คหบดีผู้ร่ำรวยแห่งเมืองหมิงคือผู้เฒ่าจินเคยเดินทางผ่านมายังเมืองนี้ ครั้นเห็นว่างานฝีมือสกุลจางดีเยี่ยมจึงติดต่อขอนำไปขายทำให้รายได้ของร้านสกุลจางมาขึ้นจนต้องเปิดรับคนงานเพิ่มอีกจำนวนมาก จังฮูหยินเอางานเย็บปักของตนมาให้เถ้าแก่เนี้ยจางได้ดูเป็นครั้งแรกก็ได้รับคำชมและเชิญชวนให้นางนำเอางานปักมาวางจำหน่าย งานปักเป็นสอดผสานสีของจังฮูหยินเป็นภูมิรู้ที่ถูกถ่ายทอดกันมาในสกุลจังโดยเฉพาะจึงยากจะมีผู้เลียนแบบได้ แม้จะใช้เวลาในการปักอยู่นานแต่เมื่อทำเสร็จกลับคุ้มค่ายิ่ง เงินค่าจ้างที่ได้มามากพอที่จะดูแลทั้งสามชีวิตให้อยู่รอดในแต่ละเดือน

“ท่านแม่ของในร้านเหล่านี้งดงามยิ่งนัก” เผยมู่ซีในร่างของเด็กสาวผอมบางยืนลูบไล้ผ้าปักงดงามด้วยสายตาหลงใหล หากยามนี้นางยังเป็นเผยมู่ซีก็คงพอจะมีโอกาสได้รับผ้างดงามเช่นนี้สักพับแต่ในยามที่เป็นชิงหลานเห็นทีแม้แต่ลูบไล้ก็ยังต้องรู้สึกผิด

“คุณหนูชิงสายตาแหลมคมนัก ผ้าพวกนี้เป็นฝีมือของช่างเก่าแก่สกุลจาง พับนี้มีไว้เพื่อส่งเข้าวัง” เถ้าแก่เนี้ยจางรู้ว่าจังฮูหยินคือคนของสกุลชิงก็พูดคุยอย่างให้เกียรติเสมอมาแม้จะรู้ว่านางเป็นเพียงอนุภรรยาที่ถูกส่งออกมาอยู่นอกจวน

ถ้อยคำนินทาของคนเฝ้าจวนสกุลชิงเดิมก่อนจะย้ายออกจากอำเภอเฉินได้พูดถึงจังฮูหยินเอาไว้ว่านางเป็นเพียงอนุภรรยาที่มิได้มีการตบแต่งเข้าสู่สกุลชิงอย่างถูกต้อง ชิงหลานเองก็ไม่รู้ว่าเป็นบุตรีของใต้เท้าชิงจริงหรือไม่? แต่เท่าที่เถ้าแก่เนี้ยจางได้พูดคุยและรู้จักนิสัยใจคอของจังฮูหยินนางจึงไม่ปักเชื่อคำให้ร้ายเหล่านั้น อีกทั้งยังคอยแก้ต่างเพื่อให้คนในอำเภอมองจังฮูหยินในทางที่ดีขึ้น

เผยมู่ซีกวาดตามองไปรอบๆ ร้านก็พบว่าตามฝาผนังมีอักษรมงคลและภาพวาดแขวนขายอยู่จึงมองด้วยความชื่นชม ในชาติที่นางยังเป็นเผยมู่ซีท่านย่าเชิญอาจารย์ที่มีฝีมือด้านการเขียนอักษรและวาดภาพมาสอนนางหลายคนทำให้นางเองก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง

“เถ้าแก่เนี้ยเจ้าคะ ท่านรับซื้อภาพวาดพวกนี้ด้วยหรือ?”

หญิงวัยกลางคนผิวพรรณผุดผ่องหันกลับมามองเด็กหญิงที่ยืนมองภาพวาดด้วยความชื่นชม “คุณหนูชิง เจ้าชอบภาพพวกนี้หรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)