เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 44

เผยมู่ซีก้มหน้าก้มตาวาดรูปตั้งแต่ยามเฉินไปจนถึงยามอู่ ส่วนจังฮูหยินกับเสี่ยวลิ่งก็อยู่ในห้องปักเย็บ เสี่ยวลิ่งรู้สึกว่าตนเองเริ่มหิวจึงเงยหน้าขึ้น

“ฮูหยินเจ้าคะ ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้วเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าไปอุ่นอาหารสักครู่”

“เจ้าไปเถอะ ประเดี๋ยวข้าไปเรียกหลานเอ๋อร์เอง”

ท่อนแขนผอมแห้งของชิงหลานตวัดปลายพู่กันครั้งสุดท้ายเสร็จก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ ภาพที่นางกำลังก้มหน้าก้มตาวาดนับได้ว่าเป็นภาพที่นิยมยิ่งนักในเมืองหลวง วิวทิวทัศน์อันสวยงามของน้ำตกเขตเทือกเขามังกรทะยานมักจะมีผู้นิยมเดินทางไปวาดเป็นจำนวนมากแต่บรรดาจิตรกรมีชื่อเสียงเหล่านั้น ไม่มีผู้ใดสามารถเลียนภาพลายเส้นอันทรงพลังของจิตรกรฉาน คนผู้นี้ไม่เคยเปิดเผยตัวตนแต่ภาพที่เขาวาดเอาไว้หลายภาพได้รับการประดับประดาไว้ในวังหลวง โดยเฉพาะภาพที่มีชื่อว่า “น้ำตกสวรรค์”

จังฮูหยินเดินผ่านเข้าประตูห้องหนังสือที่มิได้ปิดไปยืนดูบุตรสาวที่ใช้ผ้าคาดศีรษะกำลังวางพู่กันลงพอดี

“เจ้าวาดภาพนี้ได้สวยงามยิ่งนัก!” นางเอ่ยชมเมื่อมองต้นฉบับแล้วหันไปทางผลงานที่บุตรสาวเพิ่งรังสรรค์เสร็จ หากไม่คิดว่าเข้าข้างหลานเอ๋อร์นางเห็นว่าภาพวาดที่หมึกยังไม่แห้งดีนี่งดงามยิ่งกว่าต้นฉบับเสียอีก

“ท่านแม่ บ่ายนี้ข้าจะเอาภาพนี้ไปขาย คงจะพอจะซื้อเครื่องนอนใหม่ให้พวกเราคนละชุด” เผยมู่ซีที่นอนกลิ้งอยู่บนฟูกนอนเก่าคร่ำคร่า ผ้าห่มที่ซีดเปื่อยจนแทบจะไม่เห็นสีเดิมรู้สึกไม่สบายตัวยิ่งนัก จริงอยู่ที่เสี่ยวลิ่งคอยซักและทำความสะอาดเครื่องนอนพวกนั้นให้นางอยู่ไม่ขาด ทว่าของใช้พวกนั้นล้วนสิ้นสภาพไปหมดแล้ว

จังฮูหยินใบหน้าสลด “แม่ขอโทษที่ไม่มีเงินจะซื้อใหม่ให้เจ้า”

“ท่านแม่...ข้ามิได้กล่าวโทษท่าน ที่ข้าป่วยก็เป็นภาระยิ่งแล้ว ยามนี้ข้ามีเรี่ยวแรงและสามารถวาดภาพขายได้ก็ขอให้ข้าได้ช่วยท่านบ้างเถิด”

“เช่นนั้นรอให้แดดหายร้อนเสียก่อน แม่จะพาเจ้าไปตลาดเอง ยามนี้ไปกินของอร่อยให้อุ่นท้องก่อนเถิด”

“เจ้าค่ะ”

ยามบ่ายจังฮูหยินจึงออกไปหาท่านหมอฉินเพื่อบอกให้รู้อาการของบุตรสาวของตน เมื่อหมอฉินได้ยินว่าชิงหลานสามารถเดินเหินได้สะดวกกระทั่งเดินไปตลาดเองได้ก็ดีใจยิ่งนัก จึงนำสมุนไพรบำรุงกำลังมาให้จังฮูหยินหนึ่งห่อ จังฮูหยินหยิบเงินสองพวงออกมาให้ท่านหมอฉิน

“ที่ผ่านมา ท่านให้ยาข้ามาหลายห่อ เงินทองข้าก็มิเคยมีให้ ยามนี้ข้าก็พอหาเงินได้แล้วจึงอยากจะตอบแทนท่านบ้าง ข้ารู้ว่าท่านหมอเองก็มิค่อยได้เก็บเงินคนป่วยที่ยากไร้ โปรดรับไว้ด้วยเถิด”

หมอฉินดูอึกอัก ชายชราสังเกตสีหน้าของจังฮูหยินดูแช่มชื่นก็พอจะรู้ว่านางน่าจะพูดความจริง “ในเมื่อพวกเจ้าดีขึ้นแล้ว ข้าก็จะรับเอาไว้ก็แล้วกัน”

“ข้าอยากจะถามท่านหมอว่ายามนี้หากหลานเอ๋อร์เดินบ่อยๆ จะมีปัญหาใดหรือไม่?”

“นางเพิ่งฟื้นตัว หากรับประทานอาหารได้ปกติ ได้ออกกำลังเสียบ้างหากไม่มากเกินไปก็คงไม่มีปัญหา ดีเสียอีกกำลังขาของนางจะได้เพิ่มมากขึ้น”

ได้ยินเช่นนั้นจังฮูหยินก็ยิ้มออกมา นางกล่าวขอบคุณท่านหมอฉินแล้วก็กลับจวนไป ยามบ่ายเผยมู่ซีไม่อาจฝืนร่างกายที่อ่อนแอของตนเองได้ นางจึงต้องนอนพักอยู่ร่วมหนึ่งชั่วยาม จังฮูหยินให้เสี่ยวลิ่งไปเคี่ยวยาบำรุงที่เพิ่งได้มา เสี่ยวลิ่งเห็นถ้วยยาที่เรียงอยู่ในถาดถึงสามถ้วยแล้วก็ส่ายหัวเบาๆ

“เห็นทีคุณหนูคงไม่อยากป่วยก็คราวนี้ ยาแต่ละขนานขมลืมตายเลยเทียว”

“เจ้ารู้แล้วก็ไปเตรียมน้ำตาลกรวดมาไว้ให้คุณหนูเสียสิ”

เสี่ยวลิ่งยิ้มออก นางรีบเปิดฝาโถน้ำตาลกรวดก้อนเล็กๆ ที่อยู่มุมห้องหยิบออกมาวางสามก้อนไว้บนถาดก่อนจะยกออกไปรอคุณหนูตื่น

เผยมู่ซีเองก็ไม่อยากอิดออดเหมือนเด็กๆ ที่ได้เห็นถาดยา ถ้วยแรกนางได้ดื่มติดกันหลายวันหลังกลับมาจากเมืองหลวงเพราะเป็นยาฟื้นกล้ามเนื้อที่ท่านหมอเกาสั่งไว้ให้นาง ถ้วยต่อมาเป็นยาบำรุงที่ท่านแม่แอบซื้อมาจากเมืองหลวงที่เพิ่งต้มให้นางกินเพิ่มเมื่อวาน แต่...ถ้วนที่สามเล่า?

“ท่านแม่เจ้าคะ ยาถ้วยที่สามมาจากที่ใดกัน?”

จังฮูหยินยิ้มน้อยๆ “ท่านหมอฉินเห็นว่าเจ้ายังไม่แข็งแรงดีจึงให้ยาบำรุง เลือดลมมา เจ้าจะได้แข็งแรงเร็วขึ้น ที่ผ่านมาหลายครั้งที่ท่านหมอฉินรักษาเจ้าโดยที่แม่ไม่มีเงินจ่ายค่ายา หากต่อไปแม่หาเงินได้เพิ่มขึ้นก็จะตอบแทนคุณท่านหมอฉินแน่นอน”

เมื่อเห็นสีหน้าภาคภูมิใจของท่านแม่ เผยมู่ซีก็จำใจต้องกลืนยาขมแต่ละถ้วยสลับกับหยิบน้ำตาลกรวดมาอมกระทั่งนางดื่มยาหมดทั้งสามถ้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)