กัวเฉินนึกถึงวันที่องค์ชายทรงได้รับรายงานว่ามีผู้พบรถม้าแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ใต้หน้าผาสูง ศพของว่าที่เจ้าสาวที่พาดอยู่บนโขดหินและศพของสาวใช้คนสนิทของว่าที่พระชายาที่อยู่ในซอกหินห่างออกไป ทุกคนล้วนสรุปว่านี่เป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับคนในราชวงศ์ในรอบหลายสิบปี หน้าผาที่รถม้าตกลงไปนั้นสูงชันยิ่ง ไม่ว่าสิ่งใดตกลงไปย่อมแหลกสลายอย่างไม่มีข้อสงสัย ทว่า...บริเวณโดยรอบนั้นกลับไม่พบซากศพม้าแม้สักตัว
องค์ชายสิบห้าทรงสังเกตเห็นว่าเชือกด้านหน้ารถม้าที่รุ่ยกระจายอยู่ตามหาดหินริมแม่น้ำนั้นมีสิ่งปกติซ่อนอยู่
“พวกเจ้าดูเก็บเชือกพวกนี้ใส่ห่อผ้ากลับไปด้วย”
คำสั่งขององค์ชายทำให้กัวเฉินกับจงเหยียนรู้สึกงุนงง แต่พวกเขารู้ว่าองค์ชายมิใช่ผู้ที่จะสั่งการโดยไร้เหตุผล ครั้นสังเกตให้ดีจึงได้รู้ว่าเชือกพวกนั้นมีร่องรอยถูกมีดคมกริบตัดขาด!
ท่าทีของใต้เท้าเผยนั้นมีความเสียดายที่ไม่อาจสานสัมพันธ์นับญาติกับราชวงศ์ได้สำเร็จ ส่วนในเรื่องคดีความคนผู้นั้นมิได้ใส่ใจเท่าใดนัก
“ในเมื่อรถม้าตกลงมาสูงขนาดนั้น พวกนางย่อมไม่รอดอยู่แล้ว อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ท่านแม่ของข้าถึงกับล้มป่วย พวกท่านจัดการตามสมควรเถิด ตระกูลเผยจะเร่งจัดงานศพให้บุตรสาวข้าให้เรียบร้อย”
หัวหน้ากองปราบเมืองหลวงพอจะคุ้นหน้าใต้เท้าเผยอยู่บ้าง เมื่อได้ยินขุนนางขั้นสามที่สามารถเข้าประชุมในท้องพระโรงเอ่ยเช่นนั้นก็พยักหน้ารับและรีบจัดการโดยเร่งด่วน ส่วนถังฮูหยินมีเพียงสีหน้าเรียบเฉยในยามที่ยืนดูโลงศพของคุณหนูใหญ่เผย แม้ยากจะตีความสีหน้าของนางแต่สิ่งที่องค์ชายสิบห้าทรงแน่พระทัยคือถังหนิงหวงมิได้มีความเสียใจอยู่แม้แต่น้อย
กัวเฉินกับจงเหยียนได้รับคำสั่งให้ตรวจตราเศษซากรถม้าอย่างละเอียด จากนั้นหมิงเฉิงอวี่ก็นำทางไปยังถนนบนหน้าผา
“หากม้าที่เทียมรถมานั้นตกลงไปตายกับพวกนางด้วย ข้าคงมิคิดสงสัย”
“ร่องรอยล้อรถคงถูกกลบเกลื่อนไปก่อนหน้านั้นแล้วพะยะค่ะ หาไม่แล้วเหล่ามือปราบคงตามหานางเจอตั้งนานแล้ว”
หัวหน้ามือปราบเมืองหลวงทูลรายงานต่อองค์ชายสิบห้าว่าในช่วงนั้นเกิดฝนตกติดต่อกันหลายวัน แม้จะไม่ตกหนักแต่ก็ทำให้ถนนลื่น รถม้าของว่าที่พระชายาคงวิ่งด้วยความเร็วสูงจนเชือกขาดและรถม้าตกลงจากหน้าผาสูง ที่หาร่องรอยล้อรถไม่เห็นเป็นเพราะฝนยังคงตกต่อเนื่องกันตลอดสองวันต่อมา ทำให้ร่องรอยรถสูญหายไป ซ้ำใต้ผานั้นยังมีหมอกขาวลอยต่ำๆ บังทัศนียภาพเบื้องล่างเอาไว้ทำให้มองไม่เห็นด้านล่าง กระทั่งส่งคนออกตรวจตรารอบๆ ในสองวันถัดมาจึงพบศพของพวกนาง
หมิงเฉิงอวี่ทอดพระเนตรบุรุษกลางคนตรงหน้าอย่างเอือมระอา การทำงานอย่างขอไปทีของคนผู้นี้ทำเอาพระองค์อยากจะเฉดหัวส่งนัก แต่ติดที่ยังหาความผิดซึ่งหน้าชัดเจนยังมิได้
“ใต้เท้าจวง ลูกน้องของท่านไม่พบร่องรอยน่าสงสัยอื่นใดเลยหรือ?”
“ไม่พบพะยะค่ะ ทางครอบครัวของว่าที่พระชายาก็มิได้ติดใจอันใด? ซ้ำยังบอกกล่าวให้กระหม่อมเร่งรีบปิดคดีเสียโดยเร็ว”
“เอาเถิด...ท่านสรุปตามที่ท่านเห็นก็แล้วกัน” ท่าทีของคนตระกูลเผยทำให้ องค์ชายสิบห้ารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง ใต้เท้าเผยดูเหมือนมิได้ใส่ใจบุตรสาวผู้นี้นัก จากการสืบทราบก็มิเคยพาบุตรสาวคนโตออกงานที่ใดเลย มีเพียงบุตรสาวคนรองที่เกิดจากถังฮูหยินเท่านั้นที่ได้ติดตามไปงานเลี้ยงที่สำคัญต่างๆ
‘เผยมู่ซี ความจริงชีวิตเจ้าในจวนสกุลเผยก็คงไม่ราบรื่นนัก’
เดิมทีหมิงเฉิงอวี่ก็มิได้คิดจะใส่ใจการตายของนาง แต่เมื่อพบพิรุธแล้วผู้คนรอบข้างดูเหมือนจะกลบเกลื่อนเรื่องให้กลายเป็นอุบัติเหตุ แม้แต่การตามหาคนขับรถม้าเพื่อมาสอบสวนก็ยังไม่กระทำ พระองค์ก็รู้สึกทนไม่ได้นึกอยากจะทำสิ่งใดสักอย่างหนึ่งให้กับผู้ตาย....อา...ใช่! เรียกร้องความยุติธรรม!
องครักษ์กัวถูกมอบหมายให้ส่งคนไปสืบหาคนขับรถม้าคันนั้น ทว่าน่าแปลกยิ่งผ่านไปนับเดือนแล้วข่าวคราวก็เหมือนจะสลายไปราวสายหมอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)