….องค์ชายสิบห้าอาจจะฆ่าว่าที่เจ้าสาว!...
คำพูดของจิตรกรหนุ่มยังคงตามหลอกหลอนกระทั่งยามที่นางนอนหลับในยามบ่ายแก่ๆ เหงื่อกาฬโทรมกายในตอนที่เผยมู่ซีตื่นขึ้นมา นางฝันเห็นร่างสูงโปร่งขององค์ชายสิบห้ายืนถือดาบจังก้าอยู่บนหน้าผา กระโดดขึ้นถีบร่างของคนขับรถม้าลงจากรถก่อนกระโจนขึ้นบนหลังม้าแล้วเอี้ยวตัวตัดเชือกที่รั้งตัวม้ากับรถเทียมม้าออกจากกัน จากนั้นก็ควบม้าหลบไป ปล่อยให้รถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วในทางลงจากเนินเตลิดลงจากหน้าผาลงไปเบื้องล่าง
“อย่า! อย่าฆ่าข้า!” เสียงหวีดร้องของคุณหนูทำเอาเสี่ยวลิ่งวางเข็มปักวิ่งเข้ามาดูในห้องนอนของนาง
“คุณหนู! คุณหนู! ท่านเป็นอันใด?”
ร่างของชิงหลานถูกเขย่าอย่างแรง เมื่อเผยมู่ซีลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าตื่นตระหนกของเสี่ยวลิ่งที่ยืนมองนาง สองมือยังคงจับอยู่ที่แขนด้านซ้ายของแน่น
“ข้าหรือ?...” นางลุกขึ้นงุนงงอยู่ครู่ “ข้าฝันร้าย...ไม่เป็นไรข้าแค่ฝันร้าย”
“ข้าว่าแล้วเชียววันนี้ครบหนึ่งชั่วยามแล้วข้าก็ว่าจะเดินเข้ามาปลุก แต่ฮูหยิน บอกว่าคุณหนูอาจจะยังนอนสบายจึงได้ห้ามข้าเอาไว้ รู้ว่าท่านจะฝันร้ายเช่นนี้ข้ารีบมาปลุกเสียก็ดี”
อากาศที่หนาวเย็นทำให้มารดาไม่อนุญาตให้นางอาบน้ำบ่อยนัก นางรู้สึกเหนียวเหนอะหนะส่วนใหญ่ก็ทำเพียงเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้สะอาด หากแต่วันนี้เผยมู่ซีเอ่ยปากขอร้องให้เสี่ยวลิ่งเตรียมน้ำอุ่นให้นางอาบ
“ข้าอยากแช่น้ำอุ่นเหลือเกิน เสี่ยวลิ่งเจ้าช่วยเตรียมน้ำให้หน่อยได้หรือไม่?”
“ดีเหมือนกันนะเจ้าคะ จะได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า” เสี่ยวลิ่งค่อยๆ ประคองคุณหนูของนางให้ลุกขึ้นนั่ง “แขนคุณหนูเริ่มมีเนื้อเพิ่มมากขึ้นแล้วเจ้าค่ะ”
“อืม...เจ้าดูอาหารที่ท่านแม่ทำให้ข้ากินสิ...เยอะแยะขนาดนั้นข้าไม่อ้วนก็คงจะแปลกแล้ว”
จังฮูหยินเดินเข้ามาดูในห้องนอนของบุตรสาว สีหน้าของชิงหลานมิค่อยสู้ดี เสี่ยวลิ่งจึงหันไปเป็นผู้บอกฮูหยินของตนว่าชิงหลานฝันร้าย นางจะออกไปเตรียมน้ำอุ่นเพื่อให้เด็กหญิงได้แช่ผ่อนคลายร่างกาย
“พอดีแม่ได้สมุนไพรสำหรับแช่น้ำอาบมาจากท่านหมอฉิน เจ้าแช่แล้วจะได้หลับกลางคืนได้สบายยิ่งขึ้น หากยิ่งหลับลึกก็ยิ่งดีต่อไปเมื่อร่างกายเจ้าแข็งแรงแล้วการนอนยามบ่ายก็อาจจะไม่จำเป็น”
“ดีจริงเจ้าค่ะ ข้าอยากจะวาดภาพให้เสร็จเร็วๆ หากว่าไม่ต้องนอนยามบ่ายก็คงจะวาดได้อีกหลายผนัง” แต่ละวันเผยมู่ซีจะคอยสังเกตดูว่าจิตรกรผู้อื่นวาดภาพได้มากน้อยเพียงใด หากว่านางเร่งวาดให้เร็วขึ้นย่อมสามารถจับจองผนังอื่นได้ด้วย จากการสอบถามราคาที่จิตรกรหลูวาดได้นางประเมินว่าฝีมือตนเองหากแม้นได้เงินสักครึ่งหนึ่งของจิตรกรหลูก็นับว่ามากพอที่จะใช้ชีวิตได้สบายอีกหลายเดือน
“เจ้าไม่ต้องหักโหมมากนักก็ได้ แม่กับเสี่ยวลิ่งก็ปักผ้าได้มากพอสมควรแล้ว อีกไม่นานก็คงจะส่งงานแรกให้เถ้าแก่เนี้ยจางได้” จังฮูหยินยิ้มให้บุตรสาวอย่างอ่อนหวาน
ปีแรกที่นางพาหลานเอ๋อร์มาอยู่ที่จวนแห่งนี้ สามีแอบฝากเงินให้คนรู้จักนำมาให้ ปีหลังแม้จะให้น้อยลงแต่ก็ยังถือว่าพอได้ กระทั่งบุตรสาวเริ่มเจ็บป่วยสามีที่เคยลอบมาหาบ้างกลับหายหน้า นางเคยส่งเหล่าลู่ให้ไปแจ้งต่อจวนใหญ่มาบุตรสาวของนางต้องการค่ารักษาสิ่งที่เป็นคำตอบกลายเป็นใบหน้าที่เศร้าสร้อยของเหล่าลู่ ครั้งที่สองที่ส่งเหล่าลู่ไปกับเสี่ยวลิ่งนับเป็นครั้งสุดท้าย สีหน้าเจ็บแค้นและคำบอกเล่าที่เสียดแทงใจทำให้จังฮูหยินสิ้นหวังที่จะพึ่งพาสามี
“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าเห็นท่านซื้ออาหารการกินดีๆ มาบำรุงข้า เงินทองพวกเราก็มิได้มีมากนัก พรุ่งนี้ข้าจะไปถามจิตรกรหลูว่าพอจะขอเบิกเงินสักส่วนก่อนได้หรือไม่?”
“หลานเอ๋อร์ เจ้าเพิ่งทำงานไม่กี่วันหากไปขอเบิกค่าจ้างก่อนเช่นนี้จะไม่ถูกตำหนิหรอกหรือ?”
“ข้าวาดเสร็จไปหนึ่งผนังแล้วนะเจ้าคะท่านแม่ ก็น่าจะพอได้เงินบ้าง?”
เผยมู่ซีรู้ว่าจังฮูหยินก็คงจะควักเงินเป็นค่ายาไปอีก เงินสองตำลึงที่เบิกมาล่วงหน้าคงหร่อยหรอไปมาก หากนางไม่รีบหามาช่วยหญิงทั้งสองอาจจะต้องหลังขดหลังแข็งปักผ้าเพิ่มในยามค่ำคืนแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)