เสี่ยวลิ่งลอบถอนหายใจ เมื่อครู่นางประหม่าแทบแย่เกรงว่าจะถูกคนกลุ่มนั้นซักไซ้ไล่เลียง จงเหยียนชักม้าพานางไปส่งยังประตูจวนโดยมีเหล่าลู่เปิดประตูต้อนรับ เมื่อเห็นองครักษ์หนุ่มประคองเสี่ยวลิ่งลงจากหลังม้า ผู้ดูแลจวนสกุลชิงชะงักเล็กน้อยแต่ไม่กล้าเอ่ยคำใดออกมา ปล่อยให้เสี่ยวลิ่งที่หน้าแดงก่ำก้มหน้าขอบคุณองครักษ์หนุ่มก่อนจะวิ่งตื๋อเข้าเรือนไป
“ขอบคุณองครักษ์จงมากขอรับที่มาส่งเสี่ยวลิ่ง”
“มิได้ๆ จวนนี้มีท่านดูแลเพียงคนเดียวหรือ?”
“ขอรับ! ข้าน้อยเป็นเพียงบุรุษคนเดียวในเรือนนี้”
“เช่นนั้นก็ปิดรอบด้านให้แข็งแรงเถิด ท่านดูแลสตรีทั้งสามคนย่อมเป็นงานที่น่าหนักใจมากเทียว”
“ขอรับ! ข้าน้อยจะระมัดระวัง”
จงเหยียนแทบไม่เชื่อว่าจวนสกุลชิงที่อำเภอเฉินจะน่าสงสารถึงเพียงนี้ ครั้งก่อนที่ตามองค์ชายกลับเมืองหลวงเขาบังเอิญได้ยินเรื่องราวของคนสกุลชิงจากปากสหายผู้หนึ่งที่เคยเรียนร่วมกันที่สถาบันเค่อเฉิงในช่วงเยาว์วัย
สกุลชิงมีรากฐานอยู่อำเภอเฉิน ผู้เฒ่าสกุลชิงเป็นขุนนางขั้นสามที่เกษียณไปแล้ว นำพาครอบครัวใหญ่ย้ายเข้าเมืองหลวง พวกเขาเพิ่งเป็นขุนนางสืบกันได้สองรุ่นเท่านั้น เมื่อจงเหยียนสอบถามเรื่องภายในกลับไม่มีผู้ใดเคยได้ยินว่าใต้เท้าชิงมี ฮูหยินสกุลจังหรือมีบุตรสาวนามชิงหลาน
“มิใช่ว่าคุณหนูชิงที่เจ้าเห็นเป็นบุตรนอกสมรสของใต้เท้าชิงหรอกหรือ?”
“หา! เหตุใดยังต้องมีบุตรนอกสมรสอีก? ฐานะและยศฐามากมายขนาดนี้จะรับอนุภรรยาอีกกี่คนก็ได้”
“เจ้าไม่รู้อะไร! บางครอบครัวหากฮูหยินร้ายกาจมากๆ อนุที่ถูกรังเกียจอาจจะมิได้ถูกตบแต่งเข้าเรือนน่ะสิ! สามีทั้งหลายจำต้องเอาพวกนางไปซ่อนไว้ที่เรือนอื่น นานวันเข้าก็พาลลืมภรรยาผู้นั้นไปเสีย รับเอาอนุภรรยาที่ฮูหยินเอกหาให้มาอยู่ในเรือนแทน”
จงเหยียนซึ่งมิใคร่ใส่ใจเรื่องในครอบครัวและการมีภรรยามาก่อนถึงกับส่ายหน้า ปีนี้เขาเองก็อายุยี่สิบสี่แล้วยังมิได้แต่งงานด้วยเอาองค์ชายสิบห้ามาอ้างกับครอบครัวตลอด แม้พี่ชายคนโตของเขาจะมีบุตรหลายคนแต่บิดามารดาก็ยังคาดโทษเอาไว้ว่าหากปีนี้เขายังเลือกภรรยาไม่ได้ จำต้องให้มารดาเป็นผู้เลือกแทนและต้องยอมตบแต่งเสียแต่โดยดี มิฉะนั้นยังมิได้รับอนุญาตให้เหยียบเท้าเข้าเรือนอีก!
“บางทีอาจจะเป็นอย่างที่เจ้าพูด จังฮูหยินกับคุณหนูชิงคงจะถูกฮูหยินเอกเล่นงานเอาเป็นแน่ สภาพความเป็นอยู่ของพวกนางช่างรันทดนัก คุณหนูที่เพิ่งฟื้นจากอาการป่วยเรื้อรังยังต้องถ่อสังขารไปรับจ้างวาดภาพหาเลี้ยงชีพ”
สหายของจงเหยียนได้แต่หัวเราะหึๆ ในลำคอ...เรื่องราวเช่นนี้มีให้ได้ยินได้ฟังถมไป ครอบครัวใหญ่ที่มีภรรยาหลายคนย่อมมีเรื่องมีราวซุกซ่อนอยู่มากมาย
“เอาไว้ข้าจะลองสืบไว้ให้เจ้าก็แล้วกัน...ว่าแต่เหตุใดจึงสนใจเรื่องของคนสกุลชิงนักเล่า?”
“เป็นเพราะคุณหนูผู้นั้นทำงานให้กับองค์ชายน่ะสิ ข้าจึงต้องรู้เรื่องราวรอบตัวของนางให้มาก จะได้ไม่เป็นภัยกับองค์ชายในภายหลัง”
องครักษ์จงมองเหล่าลู่ที่ปิดประตูหน้าจวนอย่างแข็งขัน บ่าวเรือนนี้ดูทีคงมิได้แต่งงานกันสักคน...เขาคาดไว้ในใจว่าครั้งหน้าจะลองหาทางเข้าไปสำรวจในจวนนี้ดูสักครั้งว่าสภาพความเป็นอยู่ภายในจวนนี้เป็นอย่างไรกันแน่?
องค์ชายสิบห้าผงกพระเศียรรับทราบรายงานจากจงเหยียน
“เจ้าทำได้ดีมาก นอกจากจะส่งพวกนางได้ปลอดภัยแล้วยังจับโจรที่ทางการต้องการตัวได้ด้วย ว่าแต่...โจรผู้นั้นถูกจับคดีอะไรล่ะ?”
“เรื่องนี้กระหม่อมยังมิได้ตรวจสอบพะยะค่ะ แต่เห็นว่าคนผู้นี้เป็นโจรป่าที่แฝงกายอยู่เส้นทางระหว่างอำเภอเฉินไปเมืองฉู่จิ้ง ตอนที่กระหม่อมจับกุมตัวมา เขาพูดกับกระหม่อมว่ามีคนหวังกำจัดเพราะเขารู้ความลับมากเกินไป”
หมิงเฉิงอวี่ทรงขมวดพระขนงเข้าหากัน “อย่างไรหรือ?”
“เขาพร่ำพูดอยู่แค่นั้นพะยะค่ะ หม่อมฉันซักไซ้เขาก็ไม่ยอมพูดต่อ”
“เช่นนั้นเจ้าก็คงไปสืบเรื่องโจรผู้นั้นให้ดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)