เผยมู่ซีตื่นก่อนฟ้าสางเพื่อฝึกกระบวนท่าที่จอมยุทธ์ลู่คอยสอนให้ทุกๆ สามวัน ในยามที่ต้องเดินทางไปเรือนของอาจารย์ ศิษย์พี่จะเป็นเตรียมม้าอีกตัวไว้รอนางที่หน้าเหลาสุรา และเพื่อมิให้รบกวนเวลาวาดภาพของนาง อาจารย์จึงได้กำหนดให้นางไปพบในตอนเลิกงาน จอมยุทธ์ลู่และศิษย์พี่คอยสอนนางอยู่จนมืดค่ำ หลังจากที่ทะลวงการเดินลมปราณให้นางแล้ว เผยมู่ซีสามารถต่อกระบวนท่าได้อย่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว นางจดจำวิทยายุทธ์ในชาติก่อนของตนได้ทั้งหมด เพียงแต่ไม่อาจจะแสดงตนให้ผู้ใดรู้ว่าเก่งกาจในเวลาอันสั้นด้วยเกรงจะผิดสังเกต
“เจ้าก้าวหน้าเร็วนัก! เพิ่งฝึกไม่ถึงสิบวันฝีมือของเจ้าเท่ากับข้าตอนที่เรียนปีแรกเทียว” จั๋วเหรินหาวทั้งแปลกใจทั้งดีใจ เขามีภาระทางใจอันลึกซึ้งที่ต้องดูแลนางให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
“เย็นนี้ ศิษย์พี่จะเลี้ยงเนื้อข้าอีกหรือไม่?”
“เจ้าอยากกินอะไรข้าก็เลี้ยงทั้งนั้น”
เผยมู่ซีดวงตาเป็นประกายวาววับหลังจากที่ไปพบอาจารย์แล้ว ศิษย์พี่ก็จะเลี้ยงอาหารอร่อยๆ นางทุกครั้ง ของโปรดของนางคือเนื้อวัวอบของเหลาสุราของ จั๋วเหรินหาว ยามได้กินก็รู้สึกเหมือนมีพละกำลังมากขึ้น นางรู้สึกว่าตนเองร่างกายแข็งแรงและเนื้อตัวไม่เหลวอีกแล้ว
“เช่นนั้นข้า...”
“อยากกินเนื้อวัวอบ”
“ท่านรู้ทันข้าเกินไปแล้ว!” นางยิ้มกว้างอย่างถูกใจ
“เจ้าสั่งอย่างเดิมทุกครั้งอยู่แล้ว...จะทำท่าคิดทำไมกัน?”
จั๋วเหรินหาวรู้สึกผิดปกติที่องค์ชายสิบห้าทรงหายเข้าเมืองหลวงไปเกือบสิบวันแล้วยังไม่มีทีท่าจะกลับมา นับตั้งแต่มาดูแลการวาดภาพและปฏิสังขรณ์วัดลู่เซี่ยน องค์ชายก็ไม่เคยออกจากอำเภอเฉินไปนานเกินเจ็ดวัน อำเภอเฉินนับว่าเป็นอำเภอที่อยู่ใกล้เมืองหลวงใช้เวลานั่งรถม้าจากเช้าจรดบ่ายก็ถึง
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดองค์ชายจึงเข้าเมืองหลวงนานกว่าปกติ?”
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร? ข้าเป็นแค่ลูกจ้าง นี่ก็เร่งวาดภาพให้เสร็จก่อนองค์ชายจะเสด็จกลับมาจะได้ไม่ถูกตำหนิ”
“เจ้ารับผิดชอบงานเยอะหรือไม่?” คุณชายน้อยจั๋วรู้แต่เพียงว่าทุกครั้งที่เขาไปดูนางทำงานก็เห็นนางวาดภาพไปเรื่อยๆ เมื่อผนังหนึ่งเสร็จนางก็จะขยับไปผนังต่อไป ดูเหมือนงานของนางจะไม่มีที่สิ้นสุด
“ยิ่งได้งานเยอะสิยิ่งดี ที่ข้าเร่งทำก็เพราะว่าหากจิตรกรคนใดวาดเสร็จแล้วก็สามารถรับงานเพิ่มและได้เงินเพิ่มด้วย”
“มิน่าเล่า! ข้าเห็นเจ้าวาดเสร็จแล้วก็ขยับไปวาดอีกผนัง ที่แท้เจ้าก็งกนี่เอง”
เผยมู่ซียิ้มเจ้าเล่ห์ “ทำงานให้องค์ชายรายได้เยอะนี่นา! ถ้าไม่เร่งมือก็เท่ากับทิ้งโอกาสน่ะสิ ศิษย์พี่ลองคิดดู! การบูรณะวัดจะมีสักกี่คราวกัน ข้าจึงต้องรีบฉวยโอกาสไว้”
“เจ้าพูดได้ดี! เช่นนั้นคงเป็นข้าที่พูดผิด เจ้ามิได้งกต้องเรียกว่ามองการณ์ไกลต่างหาก”
เผยมู่ซีรีบยกนิ้วโป้งขึ้น “ท่านฉลาดมากศิษย์พี่!”
เสี่ยวเอ้อถือจานเนื้ออบหอมอบอวลยั่วน้ำลายเข้ามาพอดี สายตาของนางจับจ้องแต่จานเนื้อไม่วางตา จั๋วเหรินหาวมองตามแล้วได้แต่ส่ายหน้า
“ที่แท้เจ้าประจบกินอาหารข้าโดยไม่เสียสักอีแปะ!”
“ศิษย์พี่ วันนี้วันคล้ายวันเกิดข้า ท่านก็ยอมให้ข้าสักหน่อยก็แล้วกัน”
จั๋วเหรินหาวยิ้มกริ่ม “ได้ๆ เจ้ากินให้อร่อยข้าขอตัวสักครู่”
เผยมู่ซีพยักหน้างึกงักตั้งใจคีบเนื้อวัวอบที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ บนจานอย่างตั้งใจ นางทั้งเคี้ยวทั้งยิ้มจนมิได้สนใจเจ้าของเหลาที่หายไปแม้แต่น้อย จั๋วเหรินหาวหยิบกล่องไม้ขนาดสองฝ่ามือเดินออกมาวางบนโต๊ะ
“ของขวัญที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า...ลองเปิดดูสิว่าชอบหรือไม่?”
สาวน้อยจิ้มเนื้อวัวชิ้นสุดท้ายเข้าปากเงยหน้ามองดูศิษย์พี่ที่นั่งลุ้นอยู่เบื้องหน้ารอให้นางเปิดของขวัญ สายตาของนางกล่าวคำขอบคุณพร้อมกับพยักหน้ารับอย่างยินดี นางวางตะเกียบ เลื่อนจานเปล่าออกไปด้านข้างแล้วดึงกล่องไม้มาตรงหน้า เมื่อเปิดฝาออกดูก็ถึงกับตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)