เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 77

องครักษ์หนุ่มผู้รับคำสั่งให้ตามดูแลคุณหนูชิงอยู่ห่างๆ จึงมิกล้าย่างกรายเข้าไปในจวนสกุลชิงโดยพลการ ในเมื่อคืนนี้คุณชายน้อยจั๋วมาส่งนางแล้ว เขาก็กลับเรือนพักรับรองได้ องครักษ์ประจำตัวองค์ชายสิบห้ามีเขากับสหายอีกผู้หนึ่งที่ต้องอยู่รอที่อำเภอเฉินมิได้ตามเสด็จ อีกคนต้องคอยตรวจตราความเรียบร้อยในวัดลู่เซี่ยนเพราะองค์ชายไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดกับภาพวาดฝาผนังในวิหารเก้าเทพและส่วนที่ต้องบูรณะ

หลังจากได้เห็นฝีมือจัดการกับโจรย่องเบาของเหล่าลู่แล้ว กังซือเฉินก็รู้สึกข้องใจในฝีมือของคนผู้นี้ในตอนสายหลังจากคุณหนูชิงไปนั่งวาดภาพที่วัดแล้ว เขาจึงลอบมาดูที่จวนสกุลชิงดูว่าแต่ละวันของเหล่าลู่นั้นทำสิ่งใดบ้าง? เมื่อเห็นว่าพ่อบ้านประจำจวนหาบน้ำผ่าฟืนด้วยความคล่องแคล่วก็รู้สึกประหลาดใจ ก่อนตะวันจะตรงหัว เหล่าลู่จะอุ่นอาหารแล้วตั้งโต๊ะไว้ส่วนตัวเขาจะเข้าไปกินในครัวเพียงผู้เดียว จากนั้นก็ย่องออกไปทางประตูเล็กหลังจวน วันนั้นครบกำหนดที่คุณหนูชิงจะต้องตามศิษย์พี่ไปหาอาจารย์หลังป่าไผ่ชานเมือง

เหล่าลู่ซ่อนม้าตัวเก่งไว้เรือนเล็กที่อยู่ห่างกำแพงจวนไปเล็กน้อย เขาควบม้าด้วยความคล่องแคล่วไปยังป่าชานเมืองก่อนจะเข้าไปตามทางที่ซับซ้อนด้านหลังศาลาป่าไผ่ กังซือเฉินเคยได้ยินว่าที่นี่วางค่ายกลเอาไว้โดยยังไม่เคยมีผู้ใดเข้าไปแล้วออกมาได้เองโดยไม่ต้องให้ศิษย์เอกของจอมยุทธ์ลู่นำทาง

‘พ่อบ้านลู่กล้าควบม้าเข้าไปในป่าไผ่ เขาไม่รู้หรือไรว่าค่ายกลที่นี่ร่ำลือกันว่าอย่างไร?’

เฝ้ารออยู่จนบ่ายแก่ กังซือเฉินเผลอหลับใหลในศาลา ยามนั้นสายลมพัดพาเอาต้นไผ่เสียดสีกันเกิดดนตรีธรรมชาติที่ฟังแล้วเพลิดเพลินนัก อากาศเย็นสบายทำให้องครักษ์หนุ่มผล็อยร่วงไปไม่รู้ตัว กระทั่งเขาได้ยินเสียงฝีเท้าม้าเข้ามาใกล้จึงได้สะดุ้งแล้วกระโจนไปแอบอยู่ด้านหลังศาลา

“วันนี้เจ้ามาเร็วจริง! ดีที่ข้าเตรียมตัวรอนานแล้ว” คุณชายน้อยจั๋วชะลอฝีเท้าม้าลงเพราะมาถึงป่าไผ่ที่ทางแคบจนม้าเข้าไปได้ทีละตัว

“ปัดโธ่ศิษย์พี่! ข้าอุตส่าห์เร่งมือวาดภาพเพื่อจะได้มาหาอาจารย์ได้เร็วขึ้น วาดจนมือหงิกมืองอไปหมดแล้ว ท่านดูสิ!” เผยมู่ซีปล่อยมือข้างขวาออกจากบังเหียนม้าเพื่อยกให้จั๋วเหรินหาวได้ดูมือของนางที่ยังเลอะสีหลายส่วน

“นี่เจ้าไม่คิดจะล้างมือให้สะอาดก่อนหรือ?”

“เอาไว้พบท่านอาจารย์ก่อนค่อยล้างก็ได้ ข้าร้อนใจนัก! วันนี้ท่านอาจารย์บอกว่าหากข้าทดสอบกระบวนท่าเดิมผ่าน ท่านจะสอนเพลงกระบี่ใหม่ให้ข้า”

“หากเจ้ายังฝึกได้เช่นนี้ไม่ถึงปีก็คงเก่งกว่าศิษย์พี่อย่างข้าแล้ว!”

“ไม่ดีหรือ? หากท่านเข้าไปเป็นมือปราบในเมืองหลวง ในเมื่อข้าฝีมือดีก็จะได้ช่วยท่านจับคนร้ายได้อย่างไรเล่า?”

กังซือเฉินได้ยินบทสนทนาแค่นั้นม้าทั้งสองตัวก็ลับสายตาไปแล้ว เขาขยี้ตาซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ‘เมื่อครู่ยังเห็นพวกเขาอยู่เลยนี่? เหตุใดแค่ผ่านต้นไผ่ต้นนั้นก็หายไปแล้ว? นี่กระมังค่ายกลอันร้ายกาจของจอมยุทธ์ลู่?’

องครักษ์หนุ่มเคยอ่านในหนังสือตำนานจอมยุทธ์ที่ซื้อมาจากตรอกคนโฉดเมื่อปีก่อน เขาพบตำนานของจอมยุทธ์ลู่ผู้ลึกลับ กล่าวขานกันว่าจอมยุทธ์ลู่ผู้นี้เก่งกาจในการสร้างค่ายกลและทำอาวุธแปลกใหม่ มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งห้าแคว้น หากแต่น้อยคนจะได้เคยตัวจริง

...หรือว่าจอมยุทธ์ลู่ที่ร่ำลือกันผู้นั้นแท้จริงซ่อนตัวอยู่ในอำเภอเฉิน?

คิดมาถึงตรงนี้ กังซือเฉินก็รู้สึกตื่นเต้นอยากจะเห็นโฉมหน้าของอาจารย์ลู่ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่านี้ยิ่งนัก แต่เขายังไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไปในค่ายกลที่แสนจะซับซ้อนแห่งนี้ หากว่าออกมาไม่ได้เกรงว่าจะขายหน้าไปถึงองค์ชายสิบห้า อีกทั้งยังอาจจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงโทษฐานทำเกินคำสั่ง...ว่าแต่พ่อบ้านลู่คนนั้นไม่เห็นกลับออกมาจากในป่าหรือว่าจะออกมาตอนที่เขาเผลอหลับอยู่?

กังซือเฉินเฝ้ารอกระทั่งถึงเวลาที่คุณหนูชิงกับคุณชายน้อยจั๋วขี่ม้าตามกันออกมาจากป่าค่ายกล เขาจึงตามไปห่างๆ ร่างสูงของเหล่าลู่ยืนรออยู่หน้าประตูเช่นเคย ฟังจากการทักทายพูดคุยของคนทั้งสาม องครักษ์กังผู้น้องรู้สึกว่าชิงหลานกับ จั๋วเหรินหาวมิได้รู้ว่าเหล่าลู่แอบเข้าไปในป่าค่ายกลแห่งนั้นได้

“เจ้าดูเหม่อลอยตั้งแต่กลับมา เป็นอันใดไปหรือ?”

กังซือเฉินหันไปหาสหายองครักษ์ที่ถูกทิ้งไว้ที่อำเภอเฉินแล้วส่ายศีรษะ “ข้าเจอเรื่องที่น่าสงสัยแต่ยังสืบไม่แน่ชัด เอาไว้ให้ข้ากราบทูลองค์ชายก่อนแล้วจะเล่าให้เจ้าฟังทีหลัง”

“แสดงว่าเจ้าพบเรื่องไม่ชอบมาพากลที่จวนสกุลชิงสินะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)