ขบวนคุ้มกันมือปราบที่กลายเป็นคนร้าย เข้าเมืองหลวงไปอย่างเงียบๆ องค์ชายสิบห้าสั่งให้นำคนผู้นั้นเข้าไปขังไว้ยังสำนักองครักษ์เสื้อแพรที่อยู่ใกล้กับวังหลวง ที่นั่นพวกเขาได้ซ่อนตวนเจี้ยนโจรป่าที่เก็บจดหมายของเกาสงคนขับรถม้าตระกูลเผยมาส่งองค์ชายสิบห้าเอาไว้ด้วย
คุณชายจินวั่งซู่ได้ยินข่าวก็รีบมาเข้าเฝ้าหมิงเฉิงอวี่
“หม่อมฉันสืบข่าวเรื่องภายในตระกูลชิงมาแล้วพะยะค่ะ”
“คุณชายจิน ท่านช่างยอดเยี่ยมในการหาข่าวยิ่งนัก!”
จินวั่งซู่จึงเล่าเรื่องที่เขาใช้สายข่าวเข้าไปสืบเสาะจนพบว่าฮูหยินเอกของ ใต้เท้าชิงที่ชื่อซิวซีชวนนั้นคือหลานของขุนนางเก่าแก่ผู้หนึ่งที่มีส่วนทำให้ชิงเว่ยก้าวหน้าในราชการได้อย่างรวดเร็ว
“อันที่จริงแล้วใต้เท้าชิงก็นับว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถผู้หนึ่งพะยะค่ะ แต่ในวงการขุนนางจำต้องมีผู้หนุนหลัง ผู้เฒ่าสกุลซิวนั้นมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับขุนนางหลายตระกูลในกรมกลาโหม ชิงเว่ยจึงกลายเป็นบุคคลที่ได้รับการผลักดันและก้าวขึ้นมาเป็นเจ้ากรมกลาโหมพะยะค่ะ”
“อืม...ข้าเองก็นึกสงสัยเพราะก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของเขามิได้โดดเด่นจนถูกกล่าวถึง จู่ๆ ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้ากรมกลาโหมเช่นนี้ช่างน่าแปลกนัก”
“ยังมีอีกนะพะยะค่ะ ภรรยาคนแรกของใต้เท้าชิงมีชื่อว่า จังเยว่ เป็นบุตรเจ้าหน้าที่เล็กๆ ที่เมืองพยัคฆ์เหิน เห็นว่าฮูหยินเฒ่าของตระกูลชิงไม่ยินยอมให้แต่งนางเป็นอนุภรรยา กระทั่งใต้เท้าชิงยอมแต่งงานกับซิวฮูหยิน จังเยว่ผู้นั้นก็ถูกไล่ออกจากจวนจนใต้เท้าชิงต้องพาไปเช่าบ้านอยู่ ภายหลังซิวฮูหยิน คลอดบุตรชายแล้ว จังเยว่ผู้นี้จึงได้มีบุตรสาว แต่ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใดจึงต้องระเห็จออกจากเมืองหลวงไปอยู่จวนเก่าสกุลชิงที่อำเภอเฉิน”
“ท่านสืบได้ละเอียดลออนัก” หมิงเฉิงอวี่ทรงหันไปหากังเฉินให้จ่ายเงินค่าสืบข่าวตามที่ตกลงกันไว้ให้กับจินวั่งซู่
“องค์ชาย ท่านอยู่ที่อำเภอเฉินตั้งนาน ไม่ทราบว่าทรงเคยได้ยินเรื่องจวนสกุลชิงที่นั่นหรือไม่พะยะค่ะ?”
“ก็เคยมาบ้าง”
ท่าทางเคอะเขินของหมิงเฉิงอวี่ทำเอาจินวั่งซู่ดูผิดปกติ
“ครั้งก่อน หม่อมฉันเคยทูลขอตามเสด็จไปอำเภอเฉินแต่องค์ชายกลับไม่ทรงรอ ครั้งนี้หม่อมฉันจะไม่พลาดนะพะยะค่ะ”
“คุณชายจิน หากท่านไปแล้วผู้ใดจะช่วยข้าสืบเรื่องเผยมู่ซีเล่า?”
จินวั่งซู่ทำยิ้มกริ่ม “อย่าได้ทรงเป็นห่วงพะยะค่ะ หม่อมฉันให้คนแฝงกายไปอยู่ในเรือนสกุลเผยแล้ว ตื้นลึกหนาบางใดต่อไปน่าจะได้รู้ แต่ในเบื้องต้นนี้หม่อมฉันได้รับรายงานมาว่าฮูหยินเอกของใต้เท้าเผยเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง นางมีโทสะง่าย มักจะลงโทษบ่าวและสาวใช้รุนแรง ยามนี้นางมักจะโอ้อวดกับผู้อื่นเสมอว่าบุตรีของนาง เผยหนิงเอ๋อร์มีสัญญาหมั้นหมายกับองค์ชายพะยะค่ะ”
หมิงเฉิงอวี่ส่ายพระพักตร์ “ข้ากับพี่เก้าไปปฏิเสธครอบครัวนางอย่างชัดเจนถึงที่จวนแล้วแท้ๆ เหตุใดยังไม่หยุดพูดเรื่องเท็จพวกนี้อีก?”
“ตราบใดที่พระองค์ยังไม่ทรงมีคู่หมายใหม่อย่างเป็นทางการก็อย่าหวังว่าตระกูลเผยจะรามือพะยะค่ะ ในหมู่ขุนนางรู้จักกันดีว่าสองสามีภรรยาคู่นี้มีอุปนิสัยเช่นใด? พวกเขาหวังใช้ความเกี่ยวพันนี้สร้างประโยชน์ไปเรื่อยๆ พะยะค่ะ”
“น่ารังเกียจนัก!”
“แต่ก็แปลกนะพะยะค่ะ ในจวนตระกูลเผยไม่มีผู้ใดเอ่ยถึงเกาสงให้ได้ยิน บัดนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเผยก็ยังคงร่างกายกระเสาะกระแสะอยู่ในเรือน คดีของเผยมู่ซีที่พระองค์หวังจะค้นหาความจริงดูความหวังริบหรี่พะยะค่ะ”
องค์ชายสิบห้าเล่าเรื่องของตวนเจี้ยนกับเฉาอวิ๋นจือให้คุณชายจินได้ฟัง
“หากตามหาเฉาอวิ๋นจือไม่เจอล่ะก็...เห็นทีเบาะแสคดีเผยมู่ซีต้องขาดสะบั้นแน่พะยะค่ะ!”
“นั่นคือเรื่องที่ข้ากังวลอยู่...มือปราบเฉาผู้นี้ไม่เพียงแต่รับจ้างสังหารคนเท่านั้น หากแต่ยังลอบค้าหญิง และจับคนโดยผิดกฎหมายอีกด้วย”
ยามนี้ชัดแจ้งแล้วว่านางถูกคนฆ่าตายโดยการปล่อยรถม้าให้ตกเขาลงไปพร้อมกับสาวใช้คนสนิท ส่วนคนขับรถม้าที่ชื่อเกาสงแม้จะหนีกลับบ้านเกิดแต่ก็ถูกฆ่าปิดปาก มีเพียงจดหมายที่เขียนด้วยลายมือทิ้งไว้กับสหายสนิทที่เป็นโจรป่าชื่อตวนเจี้ยนเป็นหลักฐานยืนยันว่าเขาถูกคนชื่อเฉาอวิ๋นจือมือปราบเมืองหลวงตามล่า
....แล้วผู้ใดคือคนที่ว่าจ้างให้มือปราบเฉาไปฆ่าเกาสง?....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)