เหล่าลู่เข้าไปแจ้งให้จังฮูหยินรู้ว่าองค์ชายทรงเสด็จมาด้วย จังฮูหยินจึงรีบออกมา ครั้นเห็นบุรุษรูปงามไม่คุ้นตายืนอยู่ข้างหลังองค์ชายนางก็รู้สึกสงสัย คนผู้นี้นางมิเคยเห็นหน้ามาก่อนดูจากการแต่งกายคงจะเป็นคุณชายตระกูลสูงศักดิ์
“ถวายบังคมองค์ชายเพคะ”
“ได้ยินว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของท่าน ข้าได้สั่งอาหารและสุราจากเหลาของคุณชายจั๋วมาเพิ่มแล้ว พวกเราขอร่วมฉลองให้กับจังฮูหยินด้วยก็แล้วกันนะ”
องค์ชายรีบหันไปแนะนำให้เจ้าของจวนได้รู้จักกับคุณชายจินที่ตามเสด็จ จินวั่งซู่จึงได้รู้ว่าที่แท้องค์ชายก็ทรงคุ้นเคยกับคนในจวนเก่าสกุลชิง
‘ร้ายนัก! ที่แท้ก็อยากจะรู้เรื่องของสองแม่ลูกนี่เอง จึงได้ยมเสียเงินว่าจ้างข้าหาข่าวเกี่ยวกับพวกนาง’’
จังฮูหยินรู้ว่าบุตรสาวของตนต้องไม่พอใจ หากแต่ไม่อาจจะพระประสงค์ขององค์ชายได้ จึงได้ผายมือเชิญเสด็จองค์ชายและคุณชายที่ตามเสด็จเข้าไปด้านใน
“เชิญองค์ชายเสวยสุราและอาหารที่มีก่อนก็แล้วกันเพคะ”
หมิงเฉิงอวี่ทรงยิ้มอย่างพอพระทัย จินวั่งซู่ที่เดินตามหลัง ครั้นไปถึงโต๊ะที่เตรียมอาหารไว้แล้วได้กลิ่นหอมยวนใจของเป็ดอบก็น้ำลายสอทันที หมิงเฉิงอวี่ที่ประทับผู้แรกมองเป็ดอบตัวใหญ่บนโต๊ะ
“เป็ดอบเห็ดหอมนี่คงเป็นฝีมือของจังฮูหยินเป็นแน่!”
“เพคะ”
องค์ชายทรงหยิบตะเกียบแล้วคีบอย่างไม่รั้งรอ เมื่อเนื้อเป็ดแตะปลายพระชิวหารสชาติกลมกล่อมก็กำซาบเข้าไปทันที เนื้ออันอ่อนนุ่มแทบละลายในพระโอษฐ์ทำเอาจินวั่งซู่กลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง
“เป็นอย่างไรบ้างพะยะค่ะ?”
“เจ้าก็ชิมเองดูสิ!”
จินวั่งซู่ได้รับอนุญาตก็รีบคีบเนื้อเป็ดมาชิมในทันที เขาจึงได้รู้ว่ารสมือของ จังฮูหยินนับว่าเทียบฝีมือพ่อครัวหลวงได้เลยทีเดียว
“จังฮูหยิน อาหารของท่านช่างอร่อยเหมือนในวังหลวงเลยเทียวขอรับ!” จินวั่งซู่รู้ว่าจังฮูหยินเป็นผู้มีความสำคัญในพระทัยองค์ชายจึงต้องให้เกียรตินางอย่างเต็มที่
“ขอบคุณ คุณชายจินที่ชมเจ้าค่ะ”
“ข้ามิได้กล่าวเอาใจท่านหรอกนะ! แต่เป็ดอบเห็ดหอมของท่านช่างรสชาติดียิ่งนัก คราวหน้าข้าขอมากินอาหารที่จวนท่านได้หรือไม่ขอรับ?”
สีหน้าของจังฮูหยินทั้งปลาบปลื้มทั้งยุ่งยากใจ นางไม่อยากรับปากเพราะบุตรสาวได้กล่าวห้ามเอาไว้ว่าอย่าให้ผู้ใดเข้ามารับประทานอาหารที่จวนอีกซึ่งนางรู้ว่าชิงหลานหมายถึงองค์ชายสิบห้า ทว่าวันนี้องค์ชายกลับเสด็จมาด้วยตนเอง ยากยิ่งที่นางจะปฏิเสธ บัดนี้ยังจะมีคุณชายจินที่อยากจะมาเยือนจวนของนางอีก
“เอ๊ะ! ไม่สิ ข้าไม่อาจจะมาเปล่าๆ เอาเป็นว่าข้าจะขอซื้อวัตถุดิบทำอาหารมาแลกอาหารที่จวนท่านก็แล้วกันนะขอรับ”
องค์ชายทรงชักสีหน้าในทันที พระองค์ยังไม่กล้าตื้อจะมาเสวยอาหารที่เรือนนี้ไฉนจินวั่งซู่จึงกล้าข้ามหน้าข้ามตาไปได้ เสียงตะเกียบในพระหัตถ์กระทบขอบชามดังกึก! ทำเอาจินวั่งซู่หันไปมององค์ชายทันที
“กระหม่อมลืมตัวไปพะยะค่ะ คุณหนูชิงเป็นลูกจ้างขององค์ชาย ควรต้องขอประทานอนุญาตก่อน”
ชิงหลานได้ยินก็หน้าตึงบ้าง คนทั้งสองคิดอยากมาก็มาเช่นนั้นหรือ? ตกลงที่จวนนี้เป็นขององค์ชายหรือไร? นางชะงักตะเกียบในมือหันไปหาจินวั่งซู่
“คุณชายเห็นทีคงไม่เหมาะกระมังเจ้าคะ? จวนของข้าน้อยเก่ามาก เรือนก็ทรุดโทรมอันที่จริงไม่เหมาะกับการต้อนรับแขกเลยสักนิด”
จินวั่งซู่พยักหน้ารับ ตั้งแต่เขาเดินตามหลังองค์ชายเข้ามาในจวนสกุลชิง ใช่ว่าจะไม่สังเกตรอบข้าง เรือนข้างในดูเหมือนจะใช้ได้เพียงเรือนกลางและเรือนด้านข้างอีกสองเรือนเท่านั้น ที่เหลือโยกเยก อีกเรือนก็มีร่องรอยไฟไหม้จนเหี้ยนเตียน
“คุณหนูชิง ข้าว่าสภาพเรือนของพวกท่านมิได้เกี่ยวกับรสชาติอาหารเลยนะ”
“หากท่านสนใจอาหารที่ท่านแม่ข้าทำก็สอบถามกับเสี่ยวลิ่งเถอะ”
จงเหยียนได้ยินเช่นนั้นก็หงุดหงิด เหตุใดคุณหนูชิงจึงได้โยนคุณชายจินผู้รูปงามให้ไปคุยกับเสี่ยวลิ่งของเขาเล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)