เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 2

บทที่ 55

“สมบูรณ์แบบ!”

ลอรีลทุ่มเทถักเปียครึ่งศีรษะให้เธอ ก่อนจะติดกิ๊บติดผมที่ทำจากอัญมณีสีแดงสดลงไป ภาพของตัวเองที่สะท้อนออกมาจากในกระจกขนาดเธอเห็นยังคิดว่าน่ารักเลย

เสื้อผ้าสำเร็จรูปจากร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันที่ท่านพ่อเป็นคนสร้างขึ้น ผสานกับความมั่งคั่งของลอมบาร์เดีย มันจึงออกมาเป็นชุดเดรสสำหรับงานเลี้ยงที่สมบูรณ์แบบ

“เป็นไงลอรีล ดูดีมากเลยใช่มั้ย”

“คุณหนู ทราบมั้ยคะว่ามรกตที่ติดอยู่นี่อันเดียวราคาปาไปเท่าไหร่แล้ว บางทีในงานเลี้ยงวันนี้คงจะไม่มีใครสวมชุดหรูเท่าคุณหนูแล้วละมั้งคะ”

“แบบนั้นก็ดีสิ”

เธอตั้งใจแต่งตัวอย่างหรูหรา เพื่อเปลี่ยนความคิดของผู้คนที่คิดว่าเสื้อผ้าสำเร็จรูปเป็นของราคาถูก

“อา ตอนนี้ต่อให้ตายข้าก็ยินดีค่ะ”

ลอรีลลูบเส้นผมของเธอที่นางทุ่มเทถักเปียให้ด้วยความใส่ใจ ในขณะที่เอ่ยพูดด้วยความปลาบปลื้ม

“ได้เห็นภาพคุณหนูเติบโตจนเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้”

หากใครมาเห็นเข้าจะเข้าใจผิดว่าเจ้าเป็นคนเลี้ยงข้ามานะ

แต่เพราะเธอเองก็เข้าใจความรู้สึกของลอรีลที่เป็นห่วงเป็นใยเธอมาตลอด เธอจึงยิ้มตอบกลับไป

“วันนี้คุณหนูสวยมากเลยค่ะ ที่งานเลี้ยงคงจะเป็นที่ฮือฮากันน่าดูเลยนะคะ”

“ไม่ขนาดนั้นเสียหน่อย อย่าโอเวอร์นักสิ”

“ไม่นะคะ! คุณหนูน่ะไม่ได้รู้ตัวหรอกค่ะว่าตัวเองงดงามขนาดไหน! ถึงจุดนี้จะทำให้ยิ่งดูน่ารักก็เถอะ แต่ว่า…”

ลอรีลส่งเสียงร้อง ‘อู้ว’ มองเธอด้วยความมันเขี้ยวราวกับจะดึงเธอเข้าไปกัดสักคำ

“อีกอย่างวันนี้น่ะ ไม่ว่ายังไงก็เป็นวันที่คุณหนูจะได้เผยโฉมให้คนภายนอกได้ยลเป็นครั้งแรกไม่ใช่เหรอคะ”

“อย่างนั้นหรือ…”

จะว่าไปที่ลอรีลพูดก็ถูก

ครั้งนี้ค่อนข้างแตกต่างจากพวกลูกพี่ลูกน้องของเธอที่เที่ยวไปร่วมงานเลี้ยงหลากหลายงาน ก่อนที่จะได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในแวดวงสังคม

เธอไม่เคยไปเข้าร่วมงานแบบนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ตัวท่านพ่อเองก็ไม่ได้สนใจงานแบบนั้นเท่าไหร่ อีกทั้งช่วงหลังมานี่ยังยุ่งมากเสียจนแทบจะไม่ได้เห็นหน้าค่าตา

ชานาเนสเคยแนะนำให้ไปร่วมงานด้วยกันก็จริง แต่เธอก็ปฏิเสธไปหลายครั้งหลายครา

“หลังจากที่ท่านลาลาเน่เปิดตัวในงานสังคมเมื่อไม่นานมานี้ ก็เป็นที่ฮือฮากันพักใหญ่เลยทีเดียวนะคะ! ว่ากันว่าคุณหนูของตระกูลลอมบาร์เดียมีดีแม้กระทั่งหน้าตา! นี่ข้าไม่ได้พูดเพราะข้าคอยรับใช้คุณหนูหรอกนะคะ แต่คุณหนูน่ะทั้งงาม ทั้งน่ารักกว่าท่านลาลาเน่ตั้งเยอะ…”

ลอรีลพูดต่อว่า ‘น่าเสียดายจริงๆ ที่ข้าไม่ได้ไปเห็นด้วยตัวเอง’ พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเสียดาย

“ไว้อนาคตก็ต้องไปร่วมงานเลี้ยงน่าเบื่อพวกนั้นด้วยกันอยู่ดี”

คำที่เธอพูดออกไปทำให้ใบหน้าของลอรีลเบิกบานไปด้วยรอยยิ้ม

“ใช่แล้วค่ะ จริงด้วย”

หลังจากที่มองกระจกเป็นครั้งสุดท้ายพลางตรวจเช็กให้ดีอีกรอบ เธอก็เดินออกไปจากห้อง

ในห้องรับรองท่านปู่กับท่านพ่อกำลังดื่มชารอเธออยู่

“คุณหนูเตรียมตัวพร้อมแล้วค่ะ”

เสียงของลอรีลทำให้ทั้งสองท่านเงยหน้าขึ้นมามอง

และ

“เฮือก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]