บทที่ 61
แผ่นหลังที่ยืนขวางหน้าเธอเอาไว้ราวกับจะปกป้องเธอจากทุกสิ่ง มันช่างดูกว้างใหญ่เหลือเกิน ไม่มีสั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
“เหอะ!”
อาสทาน่าจ้องเฟเรสเขม็ง ไม่ยอมวางมือ
“เล็งดาบมาที่…ข้าอย่างนั้นหรือ”
คงจะลืมดาบที่ตัวเองถือเอาไว้ในมือไปแล้วละมั้ง
อาสทาน่ากัดฟันกรอดในขณะที่พูดด้วยความโมโห
ฟีเรนเทียแสร้งทำเป็นมองท่านพ่อ ลอบประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านหลัง
ท่านปู่ลุกขึ้นจากที่นั่งและกำลังจ้องอาสทาน่าราวกับจะเผาเขาให้ตาย ส่วนท่านพ่อใบหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว พยายามจะวิ่งเข้ามาช่วยเธอแต่กลับมีมือหนึ่งรั้งแขนเอาไว้ทำให้ท่านพ่อต้องหยุดชะงัก
เจ้าของมือข้างนั้นคือจักรพรรดิโยบาเนส
“ฝ่าบาท?”
ท่านพ่อเอ่ยเรียกด้วยความตกใจ แต่จักรพรรดิกลับไม่แม้แต่จะมองหน้าท่านพ่อด้วยซ้ำ
พระองค์กำลังเฝ้ามองโอรสทั้งสองที่ยืนเล็งดาบเข้าหากันด้วยใบหน้าสนอกสนใจ
พอเห็นว่าองค์จักรพรรดิมีปฏิกิริยาเช่นนั้น พวกอัศวินที่ตั้งใจจะยื่นมือเข้ามายุ่งจึงถอยหลังกลับไป
เพราะแบบนี้เองถึงทำให้อาสทาน่ายิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเดิม
ท่าทางจะคิดว่าจักรพรรดิเปิดโอกาสให้เขาได้เหยียบเฟเรสให้จมดินละมั้ง
ปลายดาบที่ยังคงชี้ตรงมาที่เธอมันโคลงเคลงไปมาไม่มั่นคง
“เจ้าจะทำอะไร ท่าทางจะสติหลุดเพราะเรื่องวันนี้สินะ เจ้าควรจะเจียมตัวเสียบ้าง…”
อาสทาน่าที่กำลังพูดจาเย้ยหยันเฟเรสหยุดชะงัก ก่อนที่จะมองเธอสลับไปมากับเฟเรส
“โอ้ พวกเจ้าเกิดจากมารดาชั้นต่ำเหมือนกัน เลยรู้สึกเหมือนได้เจอพวกเดียวกันหรือไง”
ด่ามารดาของคนสองคนในประโยคเดียว
ว่าแล้วเชียว เจ้าอาสทาน่านี่มันอันธพาลจริงๆ
“พวกเลือดผสมจะกินกันเองงั้นเหรอ”
“เจ้าชายลำดับที่หนึ่ง!”
สุดท้ายท่านพ่อก็ทนไม่ไหว ระเบิดอารมณ์โกรธออกมา
แต่อาสทาน่าเพียงแค่ใช้หางตาเหลือบมองท่านพ่อ ก่อนจะมองจักรพรรดิที่ยังคงยืนนิ่งไม่พูดอะไรเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็พูดจาเสียดสีต่อ
“กล้าดียังไงชี้ดาบใส่ข้าผู้เป็นโอรสผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของอาณาจักร”
อาสทาน่ากล่าวเช่นนั้น ในขณะที่แกว่งดาบขึ้น
คงคิดว่าจะต้องชนะอย่างแน่นอน
เพราะเฟเรสนั้นตั้งแต่เด็กก็ตัวเล็กมาก ทั้งระยะเวลาในการเรียนฟันดาบอย่างเป็นกิจจะลักษณะก็ห่างชั้นกันจนเทียบไม่ติด
ดาบที่ถูกยกขึ้นด้วยแรงทั้งหมดที่มีนั่น มันกำลังฟาดฟันลงมาที่เธอกับเฟเรส
ไม่สิ เป้าหมายของคมดาบนั่นยังคงเป็นเธอที่ยืนอยู่ข้างหลังเฟเรสอย่างชัดเจน
เธอไม่ถอยหนี แต่จ้องอาสทาน่าเขม็ง
“อะ…อะไรกัน”
เพื่อที่จะมองใบหน้านั่นยังไงล่ะ
ตุบ!
ดาบของอาสทาน่าที่ฟาดฟันลงมาด้วยความมั่นใจถูกตัดขาดออกเป็นสองท่อน ก่อนที่จะร่วงหล่นลงบนพรม
ผิวหน้าของส่วนที่ถูกฟันขาดยังถูกตัดได้อย่างประณีตมากเสียด้วย
“นี่มัน…”
อาสทาน่าได้แต่เหม่อมองดาบของตัวเองที่ถูกตัดขาดเป็นสองท่อนจนใช้การต่อไม่ได้ เขาพูดอะไรไม่ออกไปพักใหญ่แล้วก็เปิดปากด่าทอเฟเรส
“จะ…เจ้า ไอ้เวรนี่! ใช้วิธีขี้ขลาดอันใด!”
“ถอยไป”
“ข้าถามว่าใช้วิธีขี้ขลาดอันใด!”
เสียงเย็นชาของเฟเรสไม่ต่างอะไรจากราดน้ำมันลงกองไฟ อาสทาน่ายิ่งคลั่งไปมากกว่าเดิม
ดูไอ้บ้านั่นสิ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...