ฟีเรนเทียยื่นมือออกไปหาใบหน้านั้น
ผิวหน้าขาวซีดนั้นเย็นเฉียบเป็นอย่างมาก
“ช่วยไปเอาผ้าขนหนูแห้งๆ มาให้หน่อยนะคะ”
“อ๊ะ ครับ คุณหนู”
พ่อบ้านเองก็ตกใจเช่นกัน เขารีบวิ่งไปเอาผ้าขนหนูมาให้หลายผืน
ผืนหนึ่งพันไว้บนไหล่ของเฟเรสที่เปียกฝนจนชุ่ม อีกผืนหนึ่งคลุมไว้บนศีรษะของเด็กหนุ่มอย่างแน่นหนา
“หนาวขนาดนี้ ทำไม…ถึงได้ฝ่าฝนมาล่ะ”
“กลัวว่าดอกไม้นี่จะร่วงเพราะฝนน่ะ”
“อา…”
“ต้องเป็นดอกนี่เท่านั้น ท่านพ่อของเทียถึงจะหายไม่ใช่เหรอ”
“…คนโง่”
ฟีเรนเทียจับมือเฟเรสลากเขาเดินขึ้นบันได
แต่เด็กนี่ก็ไม่ถามเลยสักครั้งว่า ‘จะไปไหน’ ด้วยซ้ำ เพียงแค่เดินตามหลังเธอมา ปรับระยะก้าวให้เข้ากับจังหวะก้าวเดินของเธอ เพื่อไม่ให้เธอต้องลำบากเท่านั้น
เธอพาเฟเรสเข้าไปในห้องของตัวเอง ก่อนจะดันตัวเขานั่งลงตรงหน้าเตาผิง
“ช่วยจุดไฟเตาผิงเพิ่มให้หน่อยนะคะ”
พ่อบ้านรีบหยิบฟืนหลายท่อนโยนเพิ่มเข้าไปในกองไฟ
“แคทเธอรีนล่ะ คาอิลรัสรู้หรือเปล่าว่าเจ้ามาที่นี่น่ะ”
“…น่าจะไม่รู้”
“หรือว่านี่คงไม่ใช่ว่าหลังจากได้รับสารของข้า เจ้าก็ถือเอาดอกบอมเนียมากลางดึกกลางดื่นคนเดียวทันทีเลยหรอกนะ”
“…”
“ฝนตกแต่ไม่ได้คิดว่าควรจะล้มเลิกแล้วกลับเข้าวัง เอาแต่ก้มหน้าก้มตาขุดดินเพื่อที่จะได้ขุดดอกนี่ขึ้นมาก่อนที่มันจะร่วงเพราะฝน คงไม่ได้ทำแบบนั้นหรอกใช่มั้ย”
“…”
“เอาบอมเนียใส่กล่องไม้ ไม่บอกกล่าวแคทเธอรีนหรือคาอิลรัส แต่ตรงไปปลุกสารถีรถม้าให้ช่วยพามาส่งที่นี่…คงไม่ใช่ใช่มั้ย”
เฟเรสหลบสายตาหันไปมองเปลวไฟในเตาผิงที่ลุกโชนแทน
“…คงต้องส่งคนไปแจ้งที่วังก่อนแล้วละค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
“จะ…จะส่งคนไปที่วังโฟอิรัคให้ครับ”
บางทีตอนนี้คงจะรู้กันแล้วว่าเฟเรสหายตัวไป และกำลังพลิกวังตามหากันอยู่แน่
เฟเรสกำลังลอบสังเกตเธออยู่
หยดน้ำฝนหยดลงมาจากผมสีดำสนิทของเด็กหนุ่ม
เธอใช้ผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เฟเรสในขณะที่เอ่ยพูดไปด้วย
“เอาไว้ข้าจะขอโทษแคทเธอรีนกับคาอิลรัสทีหลังก็แล้วกัน”
“เทียเหรอ…ทำไมล่ะ”
“ก็เจ้าทำแบบนั้นเพราะเอาบอมเนียมาให้ข้าไม่ใช่หรือไง ทำแบบนั้นเพราะอยากช่วยข้า”
“แต่ว่า…”
เฟเรสตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็ปิดปากลงอีกครั้งเหมือนเปลือกหอยและหยิบกล่องที่วางไว้มุมหนึ่งเลื่อนส่งให้เธอ
ทว่าเธอส่ายหน้าปฏิเสธ
“ให้แน่ใจก่อนว่าร่างกายเจ้าอบอุ่นแล้วค่อยไปดู”
คำพูดของเธอทำให้เฟเรสครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เตาผิง แล้วเริ่มลงมือเช็ดผมของตัวเองให้แห้ง
ระหว่างนั้นพ่อบ้านก็ช่วยเอาซุปอุ่นๆ กับชาร้อนกรุ่นมาให้ รวมถึงช่วยจัดเตรียมเสื้อผ้าแห้งสำหรับเปลี่ยนด้วย
“เอาละ อุ่นขึ้นแล้ว”
เฟเรสเดินเข้ามา ยื่นมือของตัวเองแนบแก้มของเธอพลางเอ่ยพูด
เป็นอย่างที่เด็กนี่พูดจริงๆ
มือที่เมื่อครู่ยังเย็นเฉียบเหมือนเลือดส่งไปไม่ถึง เพียงครู่เดียวก็กลับมามีอุณหภูมิอบอุ่นอย่างที่ควรเป็น
“เพราะงั้นรีบไปสิ”
ครั้งนี้ฟีเรนเทียไม่ปฏิเสธ
เธอถือกล่องใส่ดอกบอมเนีย แล้วพูดย้ำกับเฟเรส
“รีบๆ ไปเปลี่ยนชุด แล้วนั่งกินอะไรอุ่นๆ รอไปก่อนนะ”
“อื้อ”
เฟเรสตอบอย่างรวดเร็วเหมือนสุนัขที่เชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี
เธอเดินออกไปจากห้อง
บนโถงทางเดินมืดสนิท มีเพียงเสียงก้าวเดินของเธอกับเสียงกล่องกระทบกันดังแกรกๆ เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...