เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 2

ณ พื้นที่เล็กๆ ในมุมหนึ่งของกระทรวงเศรษฐกิจประจำเมืองหลวง

มันเป็นห้องที่มีสิ่งของเพียงแค่เวทียกระดับที่ถูกจัดเตรียมไว้อยู่ด้านหน้า กับเก้าอี้ที่ถูกจัดวางเรียงเป็นแถวประมาณสิบตัวเท่านั้น

วันนี้ที่นี่เองก็ได้ทำการเปิดประมูลสาธารณะเหมือนเฉกเช่นทุกวัน

มันคือ ‘การประมูลสาธารณะ’ ที่ชนชั้นสูงหรือพ่อค้าที่มีเงินมากเสียหน่อยมักจะใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อทำการประมูลขายทรัพย์สินของตนเองอย่างปลอดภัย

หากแบ่งค่าธรรมเนียมจำนวนเล็กน้อยออกมาจากราคาของที่ประมูลขายออกไปได้ละก็ ขั้นตอนทุกอย่างตั้งแต่เริ่มจนจบจะถูกควบคุมดูแลภายใต้การบริหารจัดการของราชวงศ์ ดังนั้นจึงไม่มีการลอบกัดหรือนินทากันลับหลังอย่างแน่นอน วิธีการดังกล่าวจึงกลายเป็นวิธีที่ผู้คนต่างก็พึงพอใจที่จะใช้บริการกันเป็นอย่างยิ่ง

เจ้าหน้าที่ราชการของกระทรวงหยิบเอกสารสำหรับการประมูลที่เขาต้องเป็นคนดำเนินการในวันนี้ขึ้นมาอ่านด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย

ชนชั้นสูงรายหนึ่งจากทางเหนือต้องการขายเหมืองแร่ที่ไม่ได้ใช้งานทิ้งเพราะติดหนี้สินนี่เอง

ช่างเกิดมาโชคดีกันจริงๆ

เพราะมีทรัพย์สินในครอบครองมากมาย หากเงินไม่พอใช้ ก็แค่ขายมันทิ้งไปทีละอย่างแบบนี้ก็เรียบร้อยแล้ว

มันเป็นเรื่องธรรมดาน่าเบื่อที่เขาต้องเจออยู่ทุกวัน

โดยเฉพาะการประมูลในวันนี้ พวกนั้นเลือกที่จะใช้วิธีการเขียนราคาที่ต้องการประมูลใส่ซอง จึงไม่มีอะไรให้ต้องเตรียมการเพิ่มเติมกันอีก

“ต้องไม่ให้การประมูลถูกยกเลิก…”

เขาจัดการประมูลสาธารณะแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และเคยมีอยู่หลายกรณีที่บางครั้งผู้เข้าร่วมการประมูลไม่โผล่หัวมา การประมูลจึงถูกยกเลิกไป

แถมนี่ยังเป็นเหมืองแร่ที่ถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้นานอีก

สินค้าสำหรับการประมูลไม่น่าพอใจเท่าไหร่แบบนี้ ยิ่งน่ากังวลเข้าไปใหญ่ และถ้าหากการประมูลล้มเหลว ก็ต้องเปิดการประมูลกันใหม่อีกรอบ เท่ากับว่างานที่เขาต้องทำจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

แกรก

ในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงใครบางคนเปิดประตูออก เป็นการปลุกเขาให้ตื่นจากความกังวล

“นั่งทางด้านนี้เลย…”

เจ้าหน้าที่การประมูลกล่าวนำทางตามความเคยชิน แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงักคำพูด

“อะ…อังเกนัส…”

“ใช่แล้ว ข้ามาจากกลุ่มการค้าดิวรัก”

คนคนนี้คือ โครอีธาน อังเกนัส หัวหน้ากลุ่มการค้าอังเกนัส

หลังจากกิจการผ้าฝ้ายโคโรอีเป็นที่นิยมไปทั่วอาณาจักร เขาคนนี้ก็มีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าคนในเมืองหลวงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา

รัศมีคนรวยแผ่ไปทั่วเลยทีเดียว

ผิวราวกับมีแสงระยิบระยับเปล่งประกายออกมา เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็แตกต่างกับคนทั่วไปตั้งแต่สีของเนื้อผ้า

“ชะ…เชิญนั่งทางด้านนี้เลยครับ”

“ขอบใจ”

ถึงแม้จะนำทางให้ไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าหน้าที่ประมูลก็ยังคงงุนงงไม่หาย

หลังจากนั้นก็มีตัวแทนจากร้านค้าเล็กใหญ่หลายคนเดินทางมาถึงแต่ปฏิกิริยาของผู้เข้าร่วมการประมูลทั้งหลายต่างก็เหมือนกับเจ้าหน้าที่

“อังเกนัสทำไมมาอยู่ที่นี่”

คนพวกนั้นไม่อาจเข้าไปใกล้เกินไปได้ จึงได้แต่กระซิบกระซาบกันอยู่ไกลๆ

เนื้อหาของบทสนทนาคือ ดูจากที่แม้แต่อังเกนัสก็มาเข้าร่วมด้วย แสดงว่าบางทีปริมาณถ่านหินที่เหลืออยู่ในเหมืองลีลาร์อาจจะมีปริมาณมากกว่าที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้หรือเปล่า

หัวหน้ากลุ่มการค้าดิวรักเพียงแค่นั่งกอดอก ยกยิ้มด้วยความพอใจราวกับสนุกกับปฏิกิริยาของคนพวกนั้น เขาหลับตานิ่งไม่พูดอะไร

ในตอนนั้นเอง ประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง

สายตาของทุกคนที่เหม่อมองหัวหน้ากลุ่มการค้าหันไปมองทางด้านนั้นโดยไม่ได้คิดอะไร แต่เพียงไม่นานนัยน์ตาของพวกเขาก็เบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมา

“เฮือก!”

ทุกคนตกใจมากเสียจนพูดอะไรไม่ออก แทบลืมหายใจกันเลยทีเดียว

และปฏิกิริยาของทุกคนที่อยู่ในงานประมูลต่างก็เป็นเหมือนกันหมด

“นี่ข้ากำลังฝันกลางวันอยู่หรือ”

“ไม่นะ ข้า ข้าเองก็เห็นเหมือนกัน…”

ข้างในสถานที่จัดงานประมูลแคบๆ เกิดความโกลาหลไปทั่ว

หัวหน้ากลุ่มการค้าที่หลับตาดื่มด่ำกับความสนุก ในขณะที่รับความสนใจจากผู้คนมาไว้ทั่วร่างค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า

“อืมมากันแล้วสินะ”

คนที่เพิ่งเข้ามาในงานประมูลเมื่อครู่นี้คือคนจากตระกูลลอมบาร์เดีย

หัวหน้ากลุ่มการค้าลอมบาร์เดีย โรมาเชีย ดิลลาร์ด และเวสติน ชูลส์ จากธุรกิจอุตสาหกรรมการขุดเจาะเหมืองแร่

ความสนใจที่จนถึงเมื่อครู่นี้ยังเทไปที่หัวหน้ากลุ่มการค้าดิวรักอยู่เลย เพียงแค่พริบตาก็ย้ายไปทางอีกฝ่ายเสียแล้ว

หัวหน้ากลุ่มการค้าดิวรักรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่อีกไม่นานหลังจากนี้เขาจะได้กำไรที่มากยิ่งกว่านั้น จึงไม่ได้สนใจอะไรนัก

เขาเพียงแค่ลุกขึ้นจากที่นั่ง กล่าวทักทายทั้งสองคน

“สวัสดีครับ ทั้งสองท่าน”

“โอ้ มาพบกันที่นี่เสียได้”

“ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะครับ หัวหน้ากลุ่มการค้าดิวรัก”

โรมาเชีย ดิลลาร์ดหัวเราะเสียงดังฮ่าๆ ในขณะที่จับมือทักทายอีกฝ่าย

ระหว่างนั้น โครอีธานกับเวสตินก็แอบลอบแลกเปลี่ยนสายตากันอย่างลับๆ

มันมีความหมายว่า ให้ดำเนินการไปตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้

เวสตินแสร้งทำเป็นทักทาย แต่ที่จริงแล้วเขาแอบพยักหน้ายืนยันกับโครอีธาน

เมื่อหลายวันก่อนแผนการของพวกเขาเกือบถูกจับได้แล้วก็จริง แต่เวสตินไม่ได้เปลี่ยนแผนการที่วางไว้แต่อย่างใด

ตอนที่เห็นปฏิกิริยาของฟีเรนเทีย เขาเชื่อว่าเด็กคนนั้นไม่ได้ยินเรื่องอะไรทั้งสิ้นเพราะถ้าหากได้ยินขึ้นมา เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งย่อมไม่มีทางหัวเราะอย่างสดใสแบบนั้นได้แน่

“ไม่สิ นี่มันเรื่องอะไรกัน ไม่รู้ด้วยแล้ว…”

“นั่นสิ ทั้งอังเกนัส ทั้งลอมบาร์เดียเนี่ยนะ ท่าทางเหมืองแร่ลีลาร์จะเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่พวกเราคิดไว้เยอะ”

“เฮ้อ การประมูลวันนี้คงแห้วแล้วสินะ”

หลังจากที่ตระกูลลอมบาร์เดียปรากฏตัวขึ้น ผู้เข้าร่วมการประมูลคนอื่นๆ ต่างก็ยกมือยอมแพ้ที่จะเข้าร่วมประมูลกันแล้ว

หากเป็นกลุ่มการค้าอังเกนัส บางทีอาจจะพอลุ้นให้ลงมือต่อสู้แย่งชิงได้อยู่บ้าง แต่ลอมบาร์เดียเป็นคู่แข่งที่ต่างระดับชั้นกันเกินไปเพราะพวกเขาเองก็ทราบวิธีการของลอมบาร์เดีย ที่ถ้าหากเป็นของที่พวกนั้นต้องการแล้วละก็ ต่อให้ต้องเพิ่มเงินหลายเท่า พวกนั้นก็พร้อมที่จะลงมือโดยไม่คิดเสียดายเงินทอง

เจ้าหน้าที่ประมูลเหม่อมองลอมบาร์เดียกับอังเกนัสที่นั่งอยู่ข้างกัน แล้วก็ตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นั่ง

ถึงแม้จะเหลือเวลาอีกหลายนาทีกว่าการประมูลจะเริ่มขึ้น แต่ในสถานการณ์ที่ลอมบาร์เดียเข้าร่วมด้วย ลองกล้าให้พวกเขารอต่ออีกสิ

พอเห็นว่าท่าทางการประมูลกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เสียงดังจอแจภายในห้องเองก็เงียบลงทันที

แกรก

และในตอนนั้นเอง เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]