เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 2

คนที่เดินเข้ามาในสถานที่จัดการประมูลคนเดียวเป็นชายหนุ่มรูปงามร่างสูงใหญ่

ชายคนนั้นหันไปมองรอบๆ ห้อง ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างในด้วยท่วงท่าผ่อนคลาย

แตกต่างจากตอนที่เห็นคนจากสองตระกูลชื่อดังทักทายกันและกัน ผู้คนภายในห้องไม่ได้กระตือรือร้นอะไรนัก

แต่ผิดคาดที่มีปฏิกิริยาไม่คาดคิดดังขึ้นมา

และมันยังดังมาจากคนของอังเกนัสกับลอมบาร์เดียเสียด้วย

“มะ…ไม่สิ!”

“เจ้าทำไมถึง…”

“เครย์ลีบัน เพลเลส?”

เครย์ลีบันนิ่งสงบต่างจากทั้งสามคนที่สะดุ้งตกใจจนนั่งไม่ติดที่

เครย์ลีบันเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทาย ก่อนที่จะก้าวขาเดินตรงไปยังที่นั่งตรงกลางที่ไม่มีใครนั่งอยู่แถวนั้น

“เฮ้อ…”

โดยเฉพาะโรมาเชีย ดิลลาร์ด เขาตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของบุตรชายมากเสียจนทรงตัวแทบไม่อยู่

หัวหน้ากลุ่มการค้าดิวรักกับเวสตินที่ลอบส่งสัญญาณทางสายตาโดยไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งเองก็ขมวดคิ้วแน่นจนหน้าผากยับย่นเป็นริ้ว

“ถะ…ถ้าเช่นนั้น จะเริ่มการประมูลแล้วนะครับ”

เจ้าหน้าที่ทำการประมูลลอบสังเกตทุกคน หลังจากตรวจเช็กเวลาจนแน่ใจ ก็ประกาศด้วยเสียงสั่นเทา

“ราคาเริ่มประมูลอยู่ที่เจ็ดร้อยเหรียญทองครับ”

ซองและกระดาษเปล่าแผ่นหนึ่งถูกแจกจ่ายให้กับผู้เข้าร่วมการประมูลคนละหนึ่งชุด

วิธีการง่ายๆ แค่เขียนยอดที่ตัวเองต้องการประมูลลงกระดาษ ใส่ซองปิดผนึกให้เรียบร้อย หลังจากเจ้าหน้าที่ประมูลตรวจสอบเสร็จ ก็จะทำการประกาศผลให้ทราบว่า ใครเป็นผู้เขียนราคาสูงสุดและชนะการประมูล

ทั้งกลุ่มการค้าดิวรัก ทั้งลอมบาร์เดีย ทั้งเครย์ลีบัน ไม่มีใครลังเลว่าควรที่จะเขียนราคาประมูลลงไปเท่าไหร่

ทันทีที่ได้รับกระดาษกับปากกา พวกเขาก็เขียนตัวเลขลงไป ปิดผนึกซองในทันที

อังเกนัสและคนจากลอมบาร์เดียโดยเฉพาะเวสตินเอาแต่เหลือบมองเครย์ลีบัน แต่ตัวคนถูกมองกลับเพียงแค่มองตรงไปข้างหน้าอย่างสันโดษเท่านั้น

ไม่นานหลังจากนั้น

เจ้าหน้าที่ก็ได้เก็บซองจากทุกคน

มีเพียงเสียงกรอบแกรบจากการเปิดผนึกซองเท่านั้นที่ดังขึ้น ภายในห้องจัดงานประมูลมีเพียงแค่ความเงียบอันแสนตึงเครียดไหลเวียนอยู่เท่านั้น

“จะประกาศ…ผลการประมูลนะครับ”

เจ้าหน้าที่ทำการประกาศราคาประมูลที่สูงสุดที่สุดสามอันดับแรกตามระเบียบขั้นตอน

“ท่านแรก กลุ่มการค้าดิวรัก… สองพันเหรียญทอง”

เวสตินเหล่ตามองหัวหน้ากลุ่มการค้าดิวรักด้วยใบหน้าที่ยังคงยิ้มแย้มเหมือนเดิม

ทั้งๆ ที่เขาบอกไว้แล้วแท้ๆ ว่าแค่หนึ่งพันแปดร้อยเหรียญทองก็มากพอแล้ว

ดูเหมือนว่าหัวหน้ากลุ่มการค้าดิวรักที่ทึ่มทื่อคนนั้นไม่เชื่อใจในตัวเวสตินถึงได้เขียนเพิ่มลงไปอีกสองร้อยเหรียญทองอย่างไร้ค่า

“และท่านที่สอง กลุ่มการค้าลอมบาร์เดียหนึ่งพันหกร้อยเหรียญทอง”

ภายในห้องจัดงานประมูลเกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นอังเกนัสก็ชนะหรือ”

“ใช่สิ ก็เขียนมากกว่าสี่ร้อยเหรียญทองนี่หว่า”

“ลอมบาร์เดียโดนอังเกนัสแย่งประมูลไปได้หรือเนี่ย…!”

เพราะไม่มีใครไม่ทราบเรื่องความสัมพันธ์ที่เป็นศัตรูกันระหว่างลอมบาร์เดียกับอังเกนัส เสียงฮือฮาจึงยิ่งดังมากขึ้นไปอีก

โรมาเชีย ดิลลาร์ดหันไปมองเวสตินด้วยใบหน้าแดงก่ำ เอ่ยถามอีกฝ่ายเสียงค่อย

“นี่มันเรื่องอะไรกันครับ ท่านเวสติน”

“ไม่ทราบเลยครับ…”

เวสตินส่ายหน้า แสร้งทำเป็นว่าตัวเองก็หนักใจเหมือนกัน เพราะไม่อาจรู้สาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นนี่ได้ เขาแสดงละครได้อย่างเป็นธรรมชาติ

“ไหนว่าแค่หนึ่งพันหกร้อยเหรียญทองก็มากเหลือเฟือ…”

“ไว้ค่อยคุยกันเถอะครับ”

โรมาเชีย ดิลลาร์ดโมโหมากจริงๆ แต่เพราะอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาถึงได้อดกลั้นความโกรธที่เดือดพล่านไว้ข้างใน

“การประกาศผลยังไม่จบครับ ท่านสุดท้าย…”

เจ้าหน้าที่พูดเสียงดัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]