โครม!
ประตูสำนักงานร้านค้าเพลเลสเปิดออกอย่างแรง
“แฮกแฮก…”
คนที่ยืนหอบหายใจอยู่หน้าประตูไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเบ๊ต
“ทราบได้ยังไง…กันครับ”
เบ๊ตเดินตรงดิ่งเข้ามาหาเธอขณะที่ถามขึ้น
“นั่นอะไรเหรอคะ”
เธอชี้ไปยังกล่องสีแดงที่เบ๊ตหอบหิ้วไว้เต็มสองมือแทนคำตอบ
“ขนมครับ ถ้าจะแวะมาร้านค้าเพลเลสกลางวันแสกๆ ต้องแกล้งทำเป็นมาส่งขนมนี่ครับ”
ว่าแล้วเชียว สมกับเป็นเบ๊ตผู้รอบคอบจริงๆ
ในระหว่างที่เธอพยักหน้าด้วยความประทับใจ เบ๊ตก็วางกล่องหนักๆ สองใบลงบนโต๊ะ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามเธอ
“บอกมาสิครับ ทราบได้ยังไงครับ”
“อา ได้ยินเรื่องทางตะวันออกแล้วสินะคะเนี่ย”
เธอถามเบ๊ตกลับไป ในขณะเดียวกันเครย์ลีบันก็ส่ายหน้าไปมา เธอมองเห็นเขาเดินไปหยิบจานใบเล็ก ตักขนมหวานหน้าตาน่ากิน
“เรื่องนั้น…อ๊ะ ข้าเอาชิ้นที่มีสตรอว์เบอร์รี่ชิ้นนั้นค่ะ เครย์ลีบัน”
“ครับ ท่านฟีเรนเทีย”
“อ๊า จริงๆ เลย! ”
เบ๊ตไม่อาจอดใจรอไหว เขามองเธอด้วยนัยน์ตากล่าวโทษ
คงต้องเลิกล้อเล่นได้แล้วมั้ง
จะร้องไห้อยู่แล้วนั่น
“เบ๊ต ตั้งแต่แรกทำไมถึงได้คิดว่าจักรพรรดิจะเก็บภาษีฝั่งตะวันออกล่ะคะ”
“เรื่องนั้น…”
เบ๊ตตอบคำถามของเธออย่างง่ายดาย
“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หากไม่เก็บภาษี ท้องพระคลังก็จะว่างเปล่าไม่ใช่หรือครับ อีกอย่างครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย ภาระจะยิ่งหนักมากกว่าเดิมครับ”
และคำอธิบายของเบ๊ตก็ยืดยาวกว่านั้นอีกสักพัก
เพราะเขารู้ข้อมูลมากมาย ก็ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
จนกระทั่งเธอกินเค้กหมดไปแล้วหนึ่งชิ้น รู้สึกอยากกินอีกหน่อย สุดท้ายเลยเอาอีกชิ้นมาแบ่งกันกับไวโอเล็ตคนละครึ่ง เบ๊ตถึงได้อธิบายจบ
“อืม ที่พูดมาก็ถูกทั้งหมดเลยค่ะ”
“ใช่สิครับ! แต่ทำไม! องค์จักรพรรดิถึงได้เมินเหตุผลพวกนั้น แล้วตัดสินใจเช่นนั้นได้ละครับ ท่านฟีเรนเทียทราบอยู่แล้วหรือครับ!”
“อันที่จริงครั้งนี้จะต้องเก็บภาษีฝั่งตะวันออกตามที่เบ๊ตพูดนั่นแหละค่ะ แต่ยังมีความจริงอีกอย่างที่เบ๊ตไม่ทราบ”
คำพูดของเธอทำให้ใบหน้าของเบ๊ตเริ่มซีเรียสยิ่งขึ้น
“อะไรหรือครับ สิ่งนั้น”
“เรื่องที่จักรพรรดิโยบาเนสเป็นมนุษย์ที่โลภมากยังไงล่ะคะ”
“โลภ…?”
“ค่ะ ทั้งยังโลภมากยิ่งกว่าคนทั่วไปด้วยค่ะ”
เหมือนกับความโลภที่ว่านั่น มันถ่ายทอดต่อกันมาผ่านทางดีเอ็นเอจากรุ่นสู่รุ่นแก่จักรพรรดิแห่งอาณาจักร
แต่โยบาเนสเป็นประเภทที่โลภมากเป็นพิเศษยิ่งกว่าจักรพรรดิรุ่นไหนๆ อย่างเห็นได้ชัด
“แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็น่าจะยิ่งเก็บภาษี…! ”
“ถ้าหากมีวิธีให้จักรพรรดิโยบาเนสรักษาหน้าตาเอาไว้ได้ โดยบอกว่า ‘ปีนี้จะไม่เก็บภาษีฝั่งตะวันออก เพื่อช่วยเหลือประชาชน’ แต่ยังสามารถเสพสุขกับผลประโยชน์ได้ละคะ”
“วิธี…อื่นเหรอครับ”
เธอยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้แก่เบ๊ตที่ยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก
มันคือรายงานส่วนหนึ่งที่ไวโอเล็ตมอบให้เธอ
“นี่เป็นรายงานสถานการณ์ปริมาณธัญพืช ที่กลุ่มการค้าหลักของอาณาจักรครอบครองอยู่ค่ะ”
เบ๊ตกวาดสายตาไล่อ่านกระดาษใบนั้นอย่างช้าๆ
“ดูจากใบนี้แล้วก็จะเห็นชื่อที่พอคุ้นเคยอยู่บ้างค่ะ มีร้านค้าเพลเลสของพวกเรา ส่วนกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียเองก็อยู่ประมาณลำดับที่สี่ใช่มั้ยคะ”
“ครับ แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกันหรือครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...