เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 3

รถม้าติดสัญลักษณ์ลอมบาร์เดียหยุดจอดอยู่หน้าวังโฟอิรัค

และคนที่ลงมาจากรถม้าคันนั้นไม่ใช่ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย สหายเพื่อนเล่นของเจ้าชายลำดับที่สองแต่อย่างใด

แคทเธอรีนยืนรออยู่หน้ารถม้า นางก้มศีรษะอย่างนอบน้อม กล่าวทักทายอีกฝ่าย

“มาแล้วหรือคะ ท่านเจ้าตระกูล”

“อืม สบายดีมั้ย”

รูลลัก ลอมบาร์เดียตบไหล่แคทเธอรีนเบาๆ สองสามครั้งพลางพูดขึ้น

“เจ้าชายลำดับที่สองรออยู่ที่ห้องรับรองค่ะ เชิญทางด้านนี้เลยนะคะ”

รูลลักเดินตามหลังนางเข้าไปในวังโฟอิรัคอย่างว่าง่าย

แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ถามคำถามแคทเธอรีนจากด้านหลัง

“ดูแลเด็กเล็กเป็นเช่นไรบ้าง พอไหวมั้ย”

“…ได้แต่หวังมากกว่าค่ะ ถ้าเจ้าชายลำดับที่สองทรงทำตัวเหมือนเด็กบ้างก็คงจะดี”

“ก็นะ เด็กนั่นนิสัยเป็นเช่นนั้นนี่นา แต่ถ้าเจ้าเบื่องานนี้ ก็มาลอมบาร์เดียได้ทุกเมื่อละ ข้าเก็บตำแหน่งของเจ้าเอาไว้ให้เสมอ”

“ขอบคุณค่ะ ท่านเจ้าตระกูล”

หลังพูดคุยบทสนทนาสั้นๆ ทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในห้องรับรอง

“ไม่ได้พบกันเสียนาน”

เฟเรสเพียงแค่ค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของรูลลักเท่านั้น

รูลลักเองก็ได้รับรายงานสถานการณ์ล่าสุดของเฟเรสจากแคทเธอรีนแล้ว เพราะฉะนั้นเขาเองก็รู้ดีว่าที่ผ่านมาพวกผู้ดูแลประจำตัวจักรพรรดินีเข้าออกวังโฟอิรัคบ่อยแค่ไหน

เก็บซ่อนตัวให้ต้องอยู่อย่างยากลำบาก หลังจากนั้นก็ยังคิดขับไสไล่ส่งไปยังอะคาเดมีในแต่ละวันจักรพรรดินีจะย่างกรายมายังวังแห่งนี้ด้วยตัวเอง หรือไม่ก็สั่งให้คนนำเอกสารมาโน้มน้าวให้เฟเรสเขียนใบสมัครเข้าเรียน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เฟเรสเองก็จัดการขัดขวางได้เป็นอย่างดี แต่ในมุมมองของแคทเธอรีนแล้ว การจะเอาแต่เมินเฉย แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน มันถึงทางตันเข้าแล้ว

เพราะฉะนั้นนางถึงได้ส่งเรื่องไปขอร้องให้รูลลักซึ่งเป็นผู้ปกครองอย่างเป็นทางการ ช่วยเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ให้

รูลลักมองเฟเรสด้วยความไม่พอใจนัก ก่อนจะเปิดปากพูดธุระที่มาหาในวันนี้ทันที

“เจ้า ทำไมถึงได้ดื้อรั้นไม่ยอมไปอะคาเดมีขนาดนั้นกัน”

คำว่า ‘อะคาเดมี’ ทำให้คิ้วเข้มของเฟเรสกระตุกหนึ่งครั้ง

รูลลักอยากจะตำหนิเสียเหลือเกินว่าไอ้นิสัยปิดปากเงียบเหมือนหอยนั่น มันแก้ไขไม่ได้หรือยังไง แต่เสียงทุ้มต่ำที่ดังตามมาทีหลังกลับยิ่งทำให้เขาไม่พอใจมากกว่าเดิม

“ไม่อยากไปครับ”

หากเป็นหลานชายของตน รูลลักคงลงมือตบเสียงดังไปแล้ว

แต่หากลงไม้ลงมือกับเจ้าชายในพระราชวัง เรื่องที่ต้องตามเช็ดตามล้างหลังจากนั้นคงน่ารำคาญน่าดู

“เหตุผลอะไร”

คำถามของรูลลักทำให้เฟเรสต้องเงยหน้าขึ้น

และมองรูลลักตรงๆ ไม่หลบตาด้วยนัยน์ตาสีแดงคู่นั้น ในขณะที่ตอบอย่างหนักแน่น

“ไม่อยากถูกผลักไสไปจากพระราชวังครับ”

เสียงนั้นค่อนข้างดื้อดึงพอสมควร

แต่คำตอบที่ได้รับกลับมา กลับเป็นเพียงแค่คำพูดเสียดสีเหน็บแนมกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]