เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 3

ในตอนนั้นเอง เสียงแผ่วเบาจากด้านข้างก็พูดกับเธอ

“คือ ท่าน…คุณหนูลอมบาร์เดีย”

“เรียกแค่คุณหนูก็ได้ค่ะ”

“อ๊ะ ค่ะ! คุณหนูลอมบาร์เดีย!”

เด็กผู้หญิงที่ดูอ่อนแอคนนี้ นางคือเด็กหญิงเจ้าของเรือนผมสีแดงและรอยกระจางๆ บริเวณจมูกนั่นเอง

“ข้ามาจากทางตะวันออก มีนามว่า ทิลเลียน่าคีทอเวลค่ะ”

อ๊ะ คีทอเวล?

ในขณะที่เธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด เมื่อได้ยินชื่อตระกูลที่ทำให้นึกถึงข้อมูลหลายเรื่องเชื่อมโยงปะติดปะต่อเข้าด้วยกันได้ในทันทีทิลเลียน่าก็ถามด้วยใบหน้าแดงระเรื่อเพราะความขวยเขิน

“หากไม่เป็นการรบกวน จะช่วยสอนวิธีการทักทายตามแบบราชวงศ์อย่างที่ทำเมื่อครู่ให้ข้าหน่อยได้มั้ยคะ”

มันไม่ใช่คำขอร้องที่ยากเย็นอะไรนัก แต่ว่า

“เรื่องแบบนั้น เอาไว้เดี๋ยวหัวหน้านางกำนัลอิมพีกร้าก็น่าจะช่วยสอนให้ทั้งหมดอยู่แล้วนี่คะ”

“นั่นก็ใช่ค่ะแต่… ไม่รู้ทำไมการทักทายของคุณหนูลอมบาร์เดียมันดูสง่าและงดงามมากเลยน่ะค่ะ…”

เรื่องนั้นน่าจะเป็นเพราะได้อิทธิพลมาจากชานาเนสละมั้ง

ต่อให้เป็นการทักทายแบบเดียวกัน บรรยากาศและท่วงท่าก็ยังแตกต่างไปตามแต่ละบุคคลอยู่ดี

“ถะ ถ้าหากลำบากใจ ก็ไม่เป็นไรนะคะ แต่ถ้าได้ก็…รบกวนด้วยค่ะ”

ถึงจะลังเล แต่ทิลเลียน่าก็กำหมัดแน่นเพื่อรวบรวมความกล้าก่อนจะพูดขึ้น

“ในงานเปิดตัวครั้งนี้ ทุกคนในครอบครัวต่างก็จะเดินทางจากทางตะวันออกอันแสนห่างไกลเพื่อมาที่พระราชวังน่ะค่ะ… ข้าเลยอยากให้พวกเขาได้เห็นภาพลักษณ์ที่ดีของข้าค่ะ”

มันไม่ใช่ข้ออ้างข้างๆ คูๆ แต่ดูเหมือนทิลเลียน่าจะพูดจากใจจริง

แรกเริ่มนิสัยก็ดูไม่เหมือนคนที่พูดจาให้ดูสวยหรูไปอย่างนั้นเสียด้วย

“ขะ ข้าจะเลี้ยงของอร่อยนะคะ! ”

“ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้น”

เธอไม่ได้ตอบตกลงเพราะเห็นแก่กินหรอก

ก็แค่ตั้งใจจะช่วยสอนให้อยู่แล้ว จริงๆ นะ

ในขณะที่เธอกับทิลเลียน่ากำลังสนทนากันต่ออีกหลายประโยค กลุ่มคุณหนูริมหน้าต่างก็เดินเข้ามาใกล้พวกเราตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“คุณหนูลอมบาร์เดีย”

เมฟ คาโพเลีย หญิงสาวที่เมื่อครู่ก้าวเท้าออกมากล่าวทักทายหัวหน้านางกำนัลอิมพีกร้านั่นเอง

ตระกูลคาโพเลียเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตระกูลของนางยังเป็นสมาชิกสภาขุนนางอีกด้วย

และล่าสุดมานี้คุณหญิงคาโพเลียก็เริ่มสนิทสนมกับจักรพรรดินีราวีนี่ เรียกได้ว่าพวกเขากลายเป็นตระกูลที่เริ่มเข้ามามีบทบาทและอิทธิพลในแวดวงสังคม

“อย่ามัวแต่อยู่ตรงนั้นเลยค่ะ มาสนทนากับพวกเราทางด้านนี้สิคะ”

เมื่อครู่นี้ยังระแวงไม่ชอบขี้หน้าเธออยู่เลยไม่ใช่หรือไง

“ริมหน้าต่างแสงแดดส่องเข้ามาอบอุ่นมากเลยนะคะ”

เมฟ คาโพเลีย ไม่แม้แต่จะเหลือบมองทิลเลียน่า นางเมินเฉยตัดทิลเลียน่าออกจากวงสนทนา

เธอเหลือบมองทิลเลียน่าเล็กน้อยทิลเลียน่าเพียงแค่ยิ้มกระอักกระอ่วนใจ หลุบตาก้มหน้ามองโต๊ะว่างเปล่าเท่านั้น

ถึงแม้จะแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รู้สึกอะไร

เธอส่งยิ้มให้เมฟ คาโพเลีย ก่อนจะพูดขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]