“สมบูรณ์แบบมากค่ะ คุณหนูลอมบาร์เดีย สมบูรณ์แบบจริงๆ”
หัวหน้านางกำนัลอิมพีกร้าพยักหน้าด้วยความพอใจเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่เอ่ยชมเธอไม่หยุดปาก
แปะ แปะ แปะ
เหล่านางกำนัลประจำพระราชวังที่ยืนอยู่ด้านหลังหัวหน้านางกำนัล ต่างก็ช่วยกันปรบมือเสียงค่อยเช่นกัน
“ฮึ่ย!”
เมฟ คาโพเลียถลึงตาจ้องเธอเขม็งราวกับจะฆ่ากันให้ตาย
“ว้าวว่าแล้วเชียวท่านฟีเรนเทีย! สุดยอดไปเลยค่ะ!”
ทิลเลียน่าพูดชมเธอด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย เด็กสาวคนนี้กลายเป็น ‘เครนีย์ เบอร์ 2’ ไปแล้ว
นี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา ทุกครั้งที่ฝึกซ้อมสำหรับงานเปิดตัวมาได้หลายครั้งแล้ว
ชมกันบ่อยเกินไป มันก็น่าเบื่อเหมือนกันนะ
หึ
เธอส่ายหน้าไปมา แน่นอนว่าภายนอกยังคงไม่ลืมแสดงความถ่อมเนื้อถ่อมตัวออกมาให้เห็น
“ชมกันเกินไปแล้วค่ะ เป็นเพราะท่านหัวหน้านางกำนัลอิมพีกร้าช่วยสั่งสอนให้เป็นอย่างดีต่างหากล่ะคะ”
นั่นแหละ
ผิดคาดเหมือนกันที่เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมชั้นสูงไปแล้ว
ที่ผ่านมาเธอเครียดแทบแย่ เพราะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับสังคมชั้นสูงที่เขาว่ากันว่าเป็นเหมือน ‘สนามรบไร้คมดาบ’ หรือไม่ก็ ‘หน้าผาสูงชัน วันนี้เป็นผู้ชนะ พรุ่งนี้อาจจะเป็นผู้แพ้ก็เป็นได้’ มามากมาย
ดาบของเธอคมกว่าที่คิด และเธอก็ไม่ใช่คนที่จะตกลงจากหน้าผา แต่เป็นฝ่ายผลักคนอื่นให้ตกลงไปต่างหาก
ไม่นึกเลยว่า การได้เอาชนะพวกคุณหนูตัวน้อยที่เพิ่งจะอายุได้แค่สิบกว่าขวบ มันจะทำให้รู้สึกดีได้ถึงขนาดนี้
แต่ยังไงเธอก็จำเป็นต้องทำให้หัวหน้านางกำนัลอิมพีกร้าประทับใจในตัวเธอให้ได้
ดีละ ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผน
“บอกเคล็ดลับให้ข้าบ้างไม่ได้เหรอคะ”
ทิลเลียน่าถามเธอ
“ข้าคิดไว้อยู่แล้วว่า หากเป็นท่านฟีเรนเทีย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็คงจะทำได้ดีทุกอย่าง…แต่นี่กระทั่งวิธีการพูดจาสำหรับงานเลี้ยงก็ยังเสริมเติมแต่งออกมาได้สมบูรณ์แบบแบบนี้ได้ยังไงกันคะ”
การฝึกซ้อมสำหรับงานเปิดตัวถูกแบ่งออกเป็นช่วงเช้ากับช่วงบ่าย คลาสช่วงเช้าในวันนี้เกี่ยวกับ ‘การพูดจาแบบชนชั้นสูง’
เพราะทุกคนต่างก็เติบโตมาในตระกูลขุนนางกันทั้งนั้น จึงสามารถใช้วิธีพูดจาแบบพื้นฐานได้ แต่เพื่องานเปิดตัวและการใช้ชีวิตในแวดวงสังคมในอนาคต จึงจำเป็นต้องได้รับการอบรมเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
แต่สำหรับทิลเลียน่าแล้ว การพูดจาเป็นเรื่องยากทีเดียว
“ทางตะวันออกไม่มีใครใช้วิธีการพูดจาแบบนี้เลยค่ะ พูดอ้อมค้อมไปมาแบบนี้มันน่าอึดอัดใจมากกว่า”
ธรรมเนียมประเพณีของทางตะวันออกซึ่งอยู่ห่างไกลจากใจกลางของอาณาจักร ทั้งยังอยู่ใกล้กับทะเลนั้น พวกเขาเป็นคนที่มีความคิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง พูดจาตรงไปตรงมาอย่างที่คิดเสียมากกว่า
“ถ้าไม่อยากเต้นรำแล้ว แค่บอกว่าเหนื่อยไม่ได้เหรอคะ ทำไมต้องอ้างเรื่องรองเท้า หรืออ้างเรื่องเติมหน้าด้วย ไม่เข้าใจเลยค่ะ”
ทิลเลียน่าส่ายหน้าไปมา ดูเหมือนจะไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“หากเป็นแบบนี้ต่อไป ข้าต้องกลายเป็นคุณหนูที่ไร้มารยาทที่สุดในประวัติศาสตร์ของงานเลี้ยงเปิดตัวประจำราชวงศ์แน่เลยค่ะ…”
ทิลเลียน่าพึมพำด้วยความหม่นหมอง
“ในความคิดข้า เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ ‘ยิ้มไม่หยุด’ ค่ะ แค่นั้นก็น่าจะไม่ได้รับการประเมินว่าไร้มารยาทแล้วละมั้งคะ”
“ระ เหรอคะ…”
แต่แล้วในตอนที่ทิลเลียน่ากำลังยิ้มแหย
“คุณหนูคิทอเวลไม่จำเป็นต้องลำบากเรียนรู้วิธีการพูดจาก็ได้ ช่างน่าอิจฉาจังเลยนะ”
คนที่เดินเข้ามาพูดกับพวกเราที่อยู่อีกฝั่งคือคุณหนูแคมพาเดล ซึ่งทำตัวเหมือนกับเป็นผู้นำกลุ่มลิ่วล้อของคุณหนูคาโพเลีย
ได้ยินว่าปีนี้อายุ 14 แต่เพราะนางตัวค่อนข้างสูง ทำให้หากบอกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วก็คงเชื่ออย่างสนิทใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...