เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 3

ตั้งแต่ตอนที่เฟเรสปรากฏตัวขึ้นเป็นคาวาเลียร์ของเธอ เธอก็รู้สึกได้ว่าเขาดูแปลกไปจากเดิม ทำให้รู้สึกตงิดใจมาโดยตลอด

ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ

“ทำไมเจ้าถึงได้…รู้จักข้าดีขนาดนั้นกัน”

เฟเรสขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะที่พูดขึ้น

“จู่ๆ พูดอะไรแบบนั้น เป็นเพื่อนกันมันก็แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”

“อย่างนั้นเหรอ…”

เฟเรสยิ้มจาง ดูหมดเรี่ยวหมดแรง

“ใช่สิ เพราะงั้นเล่ามาเถอะ เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่”

“อืม ก็แค่”

เฟเรสชี้ไปยังด้านหลังของเธอพลางตอบ

“อุตส่าห์ฝึกซ้อมด้วยกันอย่างยากลำบากแท้ๆ แต่มันเหมือนกับว่าจะไม่มีโอกาสได้เต้นรำกับเจ้าอีกแล้วน่ะ”

พอหันไปมองข้างหลังก็พบว่าท่านพ่อกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอพร้อมรอยยิ้มกว้าง

ไม่น่าจะใช่เพราะเรื่องนี้สักหน่อย

เธอถลึงตาจ้องเขาเขม็ง แต่เฟเรสกลับเอาแต่หลบสายตาของเธอ

“เทีย!”

ในจังหวะนั้นท่านพ่อก็เดินเข้ามาใกล้ แล้วคว้าตัวเธอไปกอดไว้แน่น

“ยินดีด้วยนะที่เปิดตัวสู่สังคมได้อย่างประสบความสำเร็จ ลูกสาวพ่อ!”

จริงด้วยค่ะ ท่านพ่อ

เธอได้จัดงานเปิดตัวเรียบร้อยแล้ว

แต่พอได้ยินจากปากของท่านพ่อ มันทำให้เธอเพิ่งตระหนักได้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่เป็นเรื่องจริง

อายุสิบสองปี

ในชีวิตก่อนมันเป็นช่วงอายุที่เธอต้องเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะเจ้าชาย ลำบากหน่อยนะพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าเองก็รู้สึกเป็นเกียรติเช่นเดียวกันครับ ที่ได้เป็นคาวาเลียร์ของเทีย”

ท่านพ่อกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม เฟเรสจึงโค้งศีรษะให้ท่านเช่นเดียวกัน

ท่านพ่อพยักหน้าในขณะที่มองเฟเรสที่ทำตัวเช่นนั้น ก่อนจะยิ้มด้วยความพอใจ แล้วพูดต่อ

“ถ้าอย่างนั้น เทีย การเต้นรำครั้งแรกหลังเปิดตัว จะเต้นกับพ่อคนนี้ได้มั้ย”

ท่านพ่อโค้งกายลงเล็กน้อย ยื่นมือข้างหนึ่งออกมาหาเธอในขณะที่พูดขึ้น

มันเป็นธรรมเนียมทั่วไปที่พวกผู้ชายทำกันเวลาขอฝ่ายหญิงเต้นรำแท้ๆ แต่พอท่านพ่อเป็นคนทำ มันกลับให้ความรู้สึกแตกต่างออกไป

ต้องบอกว่ามันดูสง่างาม ทั้งยังดูสุภาพอ่อนน้อมยิ่งกว่าหรือเปล่านะ

กระทั่งเหล่าคุณหญิงคุณนายที่อยู่รอบๆ ยังต้องเหลือบมองมาที่ท่านพ่อเลยทีเดียว

ว่าแล้วเชียว เท่ที่สุดเลย ท่านพ่อของเธอ

“ค่ะ พ่อ! ”

เธอยื่นมือออกไปวางบนมือของท่านพ่อ ตอบรับด้วยความยินดี

“งั้นอีกเดี๋ยวค่อยเจอกันนะ เฟเรส!”

เรื่องที่พวกเราคุยกันไม่จบแค่นี้หรอกนะ!

“อื้อ”

เธอโบกมือลาเฟเรส แล้วเดินกลับไปยังฟลอร์เต้นรำกับท่านพ่ออีกครั้ง

แตกต่างกับการเต้นรำเปิดตัวที่ต้องรักษาจังหวะให้ได้อย่างเข้มงวด เสียงดนตรีบรรเลงฟังดูเป็นจังหวะเบาสบาย กว่าเมื่อครู่

เพราะอย่างนั้นคนอื่นๆ เองก็กำลังเต้นรำด้วยบรรยากาศผ่อนคลายกว่าเดิมมากเช่นกัน

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเต้นรำครั้งแรกของคุณหนูครับ คุณหนูลอมบาร์เดีย”

ท่านพ่อพูดด้วยโทนเสียงเหมือนอย่างที่เวลาผู้ชายในสังคมชั้นสูงใช้เวลาขอฝ่ายหญิงเต้นรำ

เธอเองก็ตอบรับให้เข้ากับการเล่นละครของท่าน

“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ท่านชายลอมบาร์เดีย”

และทันทีที่พวกเราจับมือประสานกันไว้ เสียงเพลงบรรเลงเพลงใหม่ก็ถูกบรรเลงขึ้น ราวกับเฝ้ารอจังหวะนี้อยู่แล้ว

แต่เธอไม่อาจสนุกได้อย่างที่ใจคิด

เพราะไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ผู้คนที่ให้ความสนใจในตัวเธอกับท่านพ่อถึงได้กำลังหันมามองจ้องพวกเรากันเป็นตาเดียว

เธอมองหน้าท่านพ่อในขณะที่ออกสเต็ปเต้นรำ แต่ฉากหลังที่เห็นกลับเต็มไปด้วยใบหน้าของผู้คนที่ไม่คุ้นหน้า

การเต้นรำครั้งแรกจบลง และในตอนที่การเต้นรำรอบที่สองกำลังจะเริ่มขึ้น ท่านพ่อก็เอ่ยเรียกเธอคล้ายกับว่าสังเกตเห็นอาการของเธอ

“เทีย?”

และท่านพ่อก็หันไปมองรอบๆ ก่อนจะพยักหน้าลงแทนความหมายว่าเข้าใจแล้ว

“ฮึ่ม ถ้าอย่างนั้น…”

ชั่วขณะ สีหน้าเจ้าเล่ห์เล็กน้อยพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของท่านพ่อ

“กรี๊ด! พ่อ!”

ท่านพ่อยกมือของเธอชูขึ้นสูงเหนือศีรษะ ทำให้ไหล่ของเธอต้องหมุนพลิกตามไป จนกลายเป็นหมุนตัวอยู่กับที่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]