เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 3

ในที่สุดเอสทีร่าที่กลับไปยังอะคาเดมีเพื่อทำการวิจัยและศึกษาให้จบ ก็เดินทางกลับมายังลอมบาร์เดียอีกครั้ง ดอกเตอร์โอมัลลี่ถูกไล่ออก ที่ผ่านมานางได้กลายเป็นแพทย์ประจำตระกูลลอมบาร์เดียอย่างเป็นทางการและตารางงานแรกของเอสทีร่าเมื่อยามรุ่งสางมาเยือนก็คือ การตรวจสุขภาพของท่านปู่นั่นเอง

“เอสทีร่า สุขภาพของท่านปู่เป็นยังไงบ้าง”

ทันทีที่การตรวจสุขภาพเสร็จสิ้น เธอก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องทำงานของท่านปู่ แล้วถามขึ้นด้วยไม่อาจอดใจรอได้

“เป็นไปอย่างที่คาดไว้ค่ะ”

“อย่างที่คาด?”

“เพราะโหมงานหนักมาโดยตลอด สภาพร่างกายโดยรวมจึงไม่ดีเท่าไหร่ค่ะ ในระหว่างที่ไม่มีแพทย์ประจำดูเหมือนว่าจะเมินเฉยไม่รักษาสุขภาพเท่าที่ควร…”

ว่าแล้วเชียว

การโหมงานไม่ดูแลสุขภาพร่างกายตัวเอง เป็นนิสัยที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ของท่านปู่

เธอเดินเข้าไปหาท่านปู่ที่กำลังติดกระดุมเสื้อ ทำสีหน้าราวกับจะร้องไห้ในขณะที่พูดกับท่าน

“ท่านปู่บอกว่าจะทานยาบำรุงที่ข้าเอามาให้อย่างสม่ำเสมอไม่ใช่เหรอคะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เทียเป็นห่วงปู่คนนี้หรือ…”

ท่านปู่ลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน

ท่าทางคงจะรู้สึกดีที่หลานสาวเป็นห่วงสุขภาพของท่าน

“ไม่ได้ล้อเล่นสักหน่อย…ไม่ได้การแล้วค่ะ สงสัยยาบำรุงคงต้องฝากไว้ที่พ่อบ้านโยฮัน ให้เขาช่วยเอาให้ท่านปู่ทานทุกวันเสียแล้วสิ พวกของมึนเมาก็ลดลงด้วยนะคะ”

ถ้าสั่งให้ท่านปู่ทำงานน้อยลง มันคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

“ได้ เข้าใจแล้วๆ เด็กคนนี้นี่นะ”

“ต้องทำจริงๆ นะคะ ท่านปู่ ท่านพ่อกับท่านปู่ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีหน่อยค่ะ”

“เทีย…”

พอเธออ้างเหมารวมท่านพ่อด้วย ท่านปู่จึงยอมตอบรับคำพูดของเธออย่างจริงจัง

“ได้ ปู่คนนี้สัญญา”

“เกี่ยวก้อยกันค่ะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ๆ”

ท่านปู่เกี่ยวนิ้วก้อยของตัวเองเข้ากับนิ้วก้อยของเธอที่ยื่นออกไปหาพลางหัวเราะเสียงดัง

เพราะท่านปู่ยังมีตารางงานอื่นต่อจากนี้อีก เธอกับเอสทีร่าจึงปลีกตัวออกมาข้างนอกพร้อมกัน

“ฝากด้วยนะคะ เอสทีร่า”

“ค่ะ ท่านฟีเรนเทีย”

หลังจากที่เดินออกมาทางปีกคฤหาสน์ ก็มองออกไปเห็นรถม้าที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกจอดอยู่

ไม่มีสัญลักษณ์ประจำตระกูลติดเอาไว้ แต่มันเป็นรถม้าที่ดูมีราคาแพงมาก

และเฟเรสก็ก้าวเท้าลงมาจากรถม้าคันนั้น

“เทีย”

“มีธุระอะไรเนี่ย เฟเรส”

“วันนี้มีธุระอะไรหรือเปล่า”

“วันนี้? เปล่า ไม่มีอะไรสำคัญเท่าไหร่ ทำไมเหรอ”

ยังไงวันนี้เธอก็ไม่มีแพลนอะไร ตั้งใจว่าจะนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องเฉยๆ อยู่แล้ว

ทันทีที่ได้ยินเธอตอบแบบนั้น เฟเรสก็ยิ้มจาง แล้วถามเธอ

“ถ้างั้นวันนี้ ไปเที่ยวกับข้าได้หรือเปล่า”

เธอเดินตามหลังเฟเรสไปขึ้นรถม้าของเขาที่จอดรออยู่ ออกเดินทางไปจากคฤหาสน์ลอมบาร์เดีย

“นี่พวกเรากำลังจะไปไหนเหรอ”

เหมือนจะออกมาจากเขตเมืองลอมบาร์เดียแล้วด้วย

“กลับไปเมืองหลวงน่ะ พอดีมีของที่ต้องไปเอา”

“อื้อ โอเค”

ปกติเฟเรสไม่ค่อยได้ออกมานอกพระราชวังเท่าไหร่

เพราะฉะนั้นได้ออกมาครั้งหนึ่งก็คงคิดที่จะจัดการธุระที่ต้องทำให้เสร็จทั้งหมดละมั้ง

เธอคิดเช่นนั้นในขณะที่เปิดหน้าต่างรถม้าออกเพื่อชมวิวด้านนอก

สายลมที่พัดผ่านเข้ามาเย็นสบายดีเหลือเกิน

เส้นผมพันกันยุ่งเหยิงเล็กน้อย แต่ช่างมันเถอะ

แต่แล้วในตอนที่เธอหลับตาดื่มด่ำกับความผ่อนคลาย

เธอเผยอตาข้างหนึ่งขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองไปข้างหน้า

“เฟเรส”

“อื้อ”

“หน้าข้าจะทะลุอยู่แล้ว”

เฟเรสที่นั่งอยู่ตรงข้ามกำลังมองเธอด้วยสายตาร้อนแรง เขาจ้องเสียจนขนาดเธอหลับตาก็ยังรู้สึกได้เลย

“มีอะไรจะพูดหรือไง”

“เปล่า ยังหรอก”

“ยัง?”

หมายความว่ามีเรื่องจะพูด แต่ยังไม่ถึงเวลางั้นเหรอ

เธอยักไหล่ไม่สนใจอะไรนัก

ก็นะ คนเราใช้ชีวิตมานาน มันก็ต้องมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ้างอยู่แล้ว

“ได้ งั้นข้าจะรอ แต่ต้องบอกในวันนี้นะ”

ตอนนี้เพิ่งจะอยู่ในช่วงเช้า วันนี้จึงยังเหลืออีกยาวไกลนัก

“ขอบใจ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]