“โล่งอก… เหรอคะ”
“ครับ”
เครย์ลีบันตอบคำถามของลอรีลด้วยความสับสนเพียงสั้นๆ เท่านั้น
“ข้าไม่เข้าใจความหมายที่ท่านพี่ต้องการสื่อเลยค่ะ ทำไมถึงได้กลายเป็นเรื่องน่าโล่งอกได้กัน…”
“แน่นอนว่าถึงจะเพียงแค่ครู่เดียว แต่การที่เบเจอร์ได้อำนาจเจ้าตระกูลไปครอง ย่อมไม่ใช่เรื่องดีอยู่แล้วละครับ”
เครย์ลีบันดูจะตงิดใจอยู่บ้างที่ลอรีลเอาแต่เรียกเขาว่าท่านพี่ จึงขมวดคิ้วจ้องนางอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยพูดต่อ
“แต่เรื่องสำคัญคือ เบเจอร์จะใช้อำนาจเจ้าตระกูลอย่างเละเทะทีเดียว บางทีอาจจะหนักขนาดลืมตามองได้ยากเลยละครับ”
เครย์ลีบันกระตุกยิ้มมุมปาก เพียงแค่คิดก็รู้สึกตลกเสียแล้ว
“ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกครับ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าโล่งอกอยู่หรอกค่ะ”
ลอรีลถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากพูดจบ
ท่าทางคงจะไม่เชื่อคำพูดของเครย์ลีบันเท่าไหร่
เพราะยังไงการที่เบเจอร์ได้เป็นเจ้าตระกูล แม้จะเพียงแค่ชั่วคราวก็ตาม มันก็ยังเป็นเรื่องน่ากังวลมากขนาดนั้นอยู่ดี
ไม่ว่าจะมองในมุมไหน มันก็เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
ถึงขนาดทำให้คนในตระกูลทั้งหมดต่างเป็นห่วงลอมบาร์เดียขึ้นมาอย่างพร้อมอกพร้อมใจ
“ข้าเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของเครย์ลีบันค่ะ”
ลอรีลเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ นางหันหน้ามามองเธอทันที
ในเมื่อเธอเองก็เกลียดเบเจอร์มากจริงๆ จนแทบจะเก็บเป็นความลับไว้ไม่อยู่ ลอรีลคงจะคิดว่าเธอเองก็จะต้องคิดเหมือนกับตัวนางแน่
แน่นอนว่าความคิดของลอรีลนั้นถูกต้องแล้ว
ในลอมบาร์เดียคงไม่มีใครเกลียดเบเจอร์ได้เท่าเธออีกแล้ว เรื่องนั้นเธอการันตีได้เลย
เพียงแค่ในขณะเดียวกัน เธอก็เชื่อในการตัดสินใจของท่านปู่เช่นเดียวกับเครย์ลีบัน
ถึงแม้เลือดจะข้นกว่าน้ำแค่ไหน แต่ท่านไม่ใช่คนแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานไม่ออกหรอก
อีกอย่าง
“บางทีมันอาจจะเป็นโอกาสดีก็ได้ค่ะ”
“โอกาสดี…เหรอคะ”
เหนือศีรษะของลอรีลเกิดเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่เด้งขึ้นมา
ท่าทางนางจะไม่อาจหาจุดเชื่อมโยงระหว่างเบเจอร์กับคำว่า ‘โอกาสดี’ ได้เลย
“โอกาสที่ทุกคนจะได้ทราบกันถ้วนหน้ายังไงล่ะ”
เธอส่งยิ้มให้ลอรีล ช่วยอธิบายให้นางเข้าใจอย่างใจดี
“ทุกคนจะได้รู้กันว่าเบเจอร์เป็นคนที่ไม่เหมาะกับตำแหน่งเจ้าตระกูลมากขนาดไหน”
ภาพของเบเจอร์ในอนาคตที่ตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ คนอื่นๆ เองก็จะได้เห็นมัน แม้จะแค่น้อยนิดก็ตาม
จะเรียกว่าฝึกซ้อมไว้ก่อนก็ได้ละมั้ง
ถ้าปล่อยให้เบเจอร์ได้เป็นเจ้าตระกูลต่อไป จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทุกคนจะสามารถมองเห็นมันล่วงหน้าได้เลยละ
“ได้จังหวะพอดีเชียว”
ในชีวิตก่อนท่านปู่เองก็ต้องทรมานกับโรคภัยในช่วงนี้เช่นกัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ยังเกิด ‘เรื่องนั้น’ ขึ้นอีกด้วย
แน่นอนว่าในตอนนั้น เบเจอร์ก็รับผิดชอบตำแหน่งรักษาการเจ้าตระกูลเหมือนในตอนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...