เมื่อวันที่เครย์ลีบันแวะไปพบชานาเนสที่บ้านพัก
เครย์ลีบันผู้มักจะเย็นชาอยู่เสมอ ได้พบกับชานาเนสผู้สง่างามไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ใคร
ทั้งสองคนมีนิสัยที่คล้ายกันมาก แต่ก็แตกต่างกันมากเช่นกัน
“มาพบเพราะอยากจะมอบสิ่งนี้ให้ครับ ท่านชานาเนส”
เครย์ลีบันวางซองใบเล็กลงบนโต๊ะในขณะที่พูดขึ้น
ชานาเนสเปิดดูของข้างในซองนั่นด้วยความสงสัย หลังจากได้เห็นนางก็ถึงกับต้องเบิกตากว้าง
“8,000 เหรียญทอง…?”
มันเป็นยอดเงินที่มากเกินกว่าจะเขียนลงบนตั๋วเงินไม่ลงชื่อแผ่นเดียว
ชานาเนสเงยหน้าขึ้นมองเครย์ลีบัน
ถึงแม้แววตาคู่นั้นจะไม่มีรอยยิ้มให้เห็น แต่เครย์ลีบันก็ไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด
ปฏิกิริยาช่างแตกต่างกับก็อดดริก เบรย์เมื่อวันก่อนมากจริงๆ เพียงแค่ชานาเนสถามว่า ‘สินบนอย่างนั้นหรือ’ ชายคนนั้นก็ได้แต่เหงื่อแตกพลั่ก รีบร้อนแก้ตัวแทบไม่ทัน
“เงินนี่เป็นของท่านชานาเนสครับ ไม่สิ หากพูดให้ชัดเจนคงต้องบอกว่ามันเป็นเงินของลอมบาร์เดียสินะครับ”
ถึงแม้จะดูสุภาพ แต่เครย์ลีบันพูดด้วยน้ำเสียงดั่งคนติดต่อด้านธุรกิจกันเท่านั้น
“มันเป็นเงินที่ข้าได้รับมาจากเวสติน ชูลส์ก่อนหน้านี้ ตอนที่เขามาขอให้ช่วยเปลี่ยนสิทธิสัมปทานขุดเจาะเหมืองเพชรไปให้ทางชูลส์แทนน่ะครับ”
“…ตอบรับข้อเรียกร้องนั้นไปแล้วเหรอคะ”
ชานาเนสขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะที่กล่าวเช่นนั้น แต่เครย์ลีบันเพียงแค่ยักไหล่ไม่แยแสเท่านั้น
“ข้าเองก็เป็นนักธุรกิจ เป็นพ่อค้าครับ ย่อมต้องไล่ตามผลประโยชน์มากกว่าความผูกพันอยู่แล้ว”
“เรื่องได้ผลประโยชน์…”
ชานาเนสกวาดสายตามองสำรวจเครย์ลีบันด้วยนัยน์ตาค่อนข้างซีเรียส
คนคนนี้เป็นคนที่นางเคยคิดว่าจะอยู่กับลอมบาร์เดียไปตลอด เพราะเป็นคนที่มีความจงรักภักดีต่อเจ้าตระกูลอย่างรูลลักเป็นอย่างยิ่ง
แต่แล้วจู่ๆ กลับแยกตัวออกไปจากลอมบาร์เดีย คนที่โบยบินออกไปเหมือนติดปีก
ราวกับในที่สุดก็ได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่มีค่ามากกว่าลอมบาร์เดียเสียแล้ว
คนเช่นนี้หากจะมองหาผลประโยชน์มากกว่าความผูกพัน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
แต่ว่า
“ข้ายิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ค่ะ หากเป็นคนที่เห็นแก่ผลประโยชน์จริงๆ ก็แค่เก็บตั๋วเงินนี่ไปโดยไม่ให้ใครรู้ ก็ได้แล้วไม่ใช่หรือคะ”
คำถามของชานาเนสทำให้เครย์ลีบันหยุดคิดไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าลง
“อันที่จริงหากทำเช่นนั้น ถึงจะตรงกับนิสัยของข้าก็จริง แต่…”
ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กัน
บนใบหน้าของเครย์ลีบันถึงได้ปรากฏรอยยิ้มจางขึ้นมา
“อย่างไรกิจการขุดเจาะก็เป็นกิจการหลักที่เวสติน ชูลส์ใช้ในการยักยอกเงิน ดังนั้นเงินจำนวนนี้ข้าคิดว่าสมควรคืนกลับไปให้ทางนั้นถึงจะถูกต้อง ก็เลยนำมาคืนให้น่ะครับ”
ชานาเนสเหม่อมองตั๋วเงินที่ถูกยื่นส่งมาให้นางอีกครั้ง
ถึงแม้ไม่อาจได้รับคำตอบที่ทำให้รู้สึกสบายใจ แต่คำพูดของเครย์ลีบันก็ถูกต้องแล้ว
“ขอบคุณในความซื่อสัตย์ของคุณชายเพลเลสนะคะ เงินนี่ทางกิจการขุดเจาะจะนำไปใช้อย่างดีค่ะ”
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ”
เครย์ลีบันถามเมื่อจบบทสนทนา
“ดูเหมือนลอมบาร์เดียจะวุ่นวายกันใหญ่ เพราะรักษาการเจ้าตระกูลคนใหม่สินะครับ”
“…ยังคงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นภายในลอมบาร์เดียไวเหมือนเคยนะคะ”
“ข้าเคยทำงานในลอมบาร์เดียมานานไม่ใช่หรือครับ”
ชานาเนสพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเครย์ลีบัน แต่ก็ยังเว้นระยะห่างขีดเส้นกั้น
“แต่การที่คนนอกสนใจในเรื่องของตระกูลลอมบาร์เดียมากเกินไป…”
“แล้วถ้าเป็นเรื่องเช็คปลอมล่ะครับ”
“เรื่องนั้นทราบได้ยังไงกัน…”
“ถ้าหากข้าบอกวิธีแยกเช็คปลอมให้ จะนำมันไปใช้ยังไงหรือครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...