“…คะ”
เธอเพิ่งจะอายุแค่สิบสองปีเองนะ
นี่หูหนวกหรือเปล่า
เธอใช้นิ้วแคะหูหนึ่งครั้ง ในขณะที่ถามชานาเนสด้วยไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง
“ข้าจะช่วยยื้อเวลาให้จนกว่าเจ้าจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นรีบๆ โตไวๆ แล้วขึ้นเป็นเจ้าตระกูลเสีย”
ชานาเนสพูดจากใจจริง
แค่มองนัยน์ตาคู่นั้น เธอก็รับรู้ได้ในทันที
“…ท่านป้าละก็ พูดอะไรแบบนั้น…”
เล่นพูดแทงตรงจุดขนาดนี้เลยนะคะ
เธอเอียงคอด้วยความงุนงง แสร้งทำเป็นไม่รู้ว่านั่นมันหมายความว่ายังไง
“เจ้าช่างเป็นเด็กที่ชาญฉลาดเสียจริง”
แต่ชานาเนสกลับไม่สนใจในความพยายามเสแสร้งของเธอ นางยังคงพูดต่อไป
“เรื่องนี้ไม่ว่าใครในตระกูลลอมบาร์เดียต่างก็ทราบกันทั้งสิ้น ท่านพ่อน่ะ หากมีโอกาสทีไรก็มักจะชมเจ้าให้พวกขุนนางคนอื่น หรือไม่ก็กระทั่งจักรพรรดิโยบาเนสฟังอยู่เรื่อย”
ไม่สิ ท่านปู่ไปทำอะไรแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
“และเจ้าก็มีตามองคนมีความสามารถออกได้เป็นอย่างดี แค่กรณีดอกเตอร์เอสทีร่าก็รู้ได้แล้ว”
นัยน์ตาของชานาเนสที่มักจะจริงจังเข้มงวดอยู่เสมอ ปรากฏเป็นรอยยิ้มขึ้นมาแทน
“อีกทั้งยังรู้จักชักชวนคนอื่นๆ ให้อยู่ฝ่ายเจ้าอีกด้วย ไม่ใช่หรือไร”
คราวนี้ทำเอาเธอถึงกับผวาเฮือกโดยไม่รู้ตัว แน่นอนว่าเธอดึงคนมาเป็นพวกตัวเองไว้แล้วคนสองคนจริงๆ
“คนของข้า…เหรอคะ”
เห็นได้ชัดเลยว่าชานาเนสจะต้องสังเกตเห็นอะไรบ้างเป็นแน่
แต่เพราะไม่แน่ใจว่านางทราบมากแค่ไหน เธอจึงต้องแสร้งทำเป็นใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวไปก่อน
“ใช่แล้วละทั้งคิลลีวูกับเมโลน ทั้งลาลาเน่ ล่าสุดยังมีเครนีย์อีก เจ้าค่อยๆ ทำให้พวกลูกพี่ลูกน้องกลายเป็นคนของเจ้าทีละคนไม่ใช่หรือ”
“เรื่องนั้น ข้าก็แค่อยากให้ทุกคนสนิทสนมกันเท่านั้นเองค่ะ”
เธอก็พาลนึกไปว่าพูดถึงเครย์ลีบันกับเบ๊ตเสียอีก
ตกใจหมดเลย
เธอแอบลอบลูบอกด้วยความโล่งอกอยู่ในใจ ในขณะเดียวกันก็หยิบแก้วนมที่วางไว้ตรงหน้าขึ้นมาจิบ
“และคุณชายเพลเลสก็ด้วย”
“แค็ก! ”
สำลักจนนมเกือบจะถูกพ่นออกมาทางจมูกแล้ว
เธอสำลักจนไอค็อกแค็กเสียงดัง ชานาเนสยิ้มพลางช่วยลูบแผ่นหลังของเธอให้อย่างอ่อนโยน
“ดูเหมือนข้าจะคาดเดาได้ถูกสินะเนี่ย”
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น… เครย์ลีบันน่ะ ไม่สิ คุณเครย์ลีบัน แบบว่า”
“ไม่เป็นไร เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกมาทั้งหมดหรอก”
รู้แค่ไหนกันแน่เนี่ย
ชานาเนสพูดราวกับตอบความสงสัยของเธอ
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าเจ้าเก็บซ่อนความลับอะไรอยู่ แต่ข้ารู้ดีว่าเจ้าเป็นเด็กที่พิเศษมาก และข้ายังรู้ดีด้วยว่าเจ้าเป็นเด็กที่รักในลอมบาร์เดียมากเหมือนกับข้า”
ชานาเนสลูบผมเธอ ดูเหมือนว่านางจะดีใจมากจริงๆ
“ดังนั้นเทีย เจ้าขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนต่อไปเถอะ”
“…แล้วท่านป้าล่ะคะ เจ้าตระกูลคนต่อไปไม่ใช่ข้า แต่ควรจะเป็นท่านป้าชานาเนสไม่ใช่เหรอคะ”
ชานาเนสเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามของเธอ ก่อนจะหัวเราะเสียงค่อย
“ไม่รู้สิ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองรู้สึกเช่นไร ยามได้ยินเจ้าบอกให้เป็นเจ้าตระกูลเช่นนี้”
ชานาเนสเหม่อมองสองแฝดที่กำลังใช้ดาบฟันกันอย่างหยอกล้ออยู่กลางสนาม
“แต่ข้าเพียงแค่หวังว่าบุตรชายของข้าจะไม่ต้องใช้ชีวิตเช่นเดียวกันกับข้าก็เท่านั้น”
“ชีวิตแบบเดียวกับท่านป้าเหรอคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...