เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 3

“ทำอะไรอยู่น่ะเทีย ยิ้มให้ใครเหรอ”

“มีคนรู้จักอยู่ด้านนั้นเหรอ”

สองแฝดคอยื่นคอยาวมองสำรวจฝั่งที่เธอหันไปมองเมื่อครู่นี้

“เปล่า ก็แค่รู้สึกว่ามีคนมองน่ะ”

จะเรียกว่ารักษาภาพลักษณ์ก็ได้ละมั้ง

ทั้งสองคนพยักหน้าเข้าใจในคำตอบของเธอทันที

“เทียน่ะ ใจดีเกินไปแล้ว”

“ใช่ เทียคนนั้นกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเสียแล้ว ช่วงนี้พวกข้าเป็นห่วงหลายเรื่องเลยละ”

“…ทั้งสองคน ทำไม”

“รู้มั้ยว่าตอนนี้ไอ้พวกนั้น…ไม่สิ คนนั้น คนนี้ ทุกคนต่างก็ชอบเทียกันหมด”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้องช่วยขับไล่พวกแมลงหวี่แมลงวันน่ารำคาญพวกนั้นให้เจ้า แต่ช่วงนี้ดันยุ่งมากกว่าเดิม ก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วสิ”

สองแฝดพูดพลางถอนหายใจเสียงแผ่วพร้อมกัน

ทั้งสองคนอายุครบยี่สิบเอ็ดแล้ว เมื่อสองปีก่อนเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นอัศวิน เข้าบรรจุประจำกองกำลังอัศวินแห่งลอมบาร์เดีย

เพราะเหตุนี้นอกจากฐานะที่พวกเขาเป็นทายาทของลอมบาร์เดียแล้ว พวกเขายังได้กลายเป็นสมาชิกทางการของตระกูลลอมบาร์เดียในอีกรูปแบบหนึ่งด้วย

เส้นทางเดินที่แตกต่างจากชีวิตก่อน ที่พวกเขากลับไปยังตระกูลชูลส์ทันทีที่บรรลุนิติภาวะ ทั้งยังเปลี่ยนกระทั่งชื่อสกุลอย่างสิ้นเชิง

อีกอย่างสองแฝดที่มักจะตัวติดกันไปไหนมาไหนอยู่เสมอ กลับถูกแยกออกไปอยู่กองกำลังที่ 1 และกองกำลังที่ 3 แยกกันไปคนละหน่วยเสียได้

เห็นว่านั่นเป็นสิ่งที่ทั้งคู่ต้องการเอง

“ถ้ามีหนุ่มที่ไหนมาทำให้เจ้ารำคาญใจ ต้องบอกพวกเรานะเทีย”

คิลลีวูร้องขอเมโลนเองก็กุลีกุจอรีบพยักหน้าอยู่ข้างๆ

ถ้าเกิดมีข่าวลือแพร่ออกไปว่าใครมาชอบเธอเข้า สงสัยสองคนนี้คงได้วิ่งโร่ไปคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายขึ้นมาข่มขู่แหง

หากลองคำนึงถึงนิสัยของสองคนนี่ มันก็มีโอกาสเป็นไปได้มากทีเดียว

เธอหัวเราะกลบเกลื่อน รีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“กองกำลังอัศวินเป็นไงบ้างล่ะ ไม่นานมานี้สอบเลื่อนขั้นแล้วนี่”

“ต้องผ่านแน่นอนอยู่แล้วสิ”

“จบชีวิตเด็กฝึกหัดกันเสียที”

“เห็นว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีเลยนะ ที่มีคนได้เลื่อนขั้นไวอย่างพวกเรา”

คิลลีวูกับเมโลนโอ้อวดเต็มที่

แต่ก็นะ เรื่องแบบนี้ก็สมควรจะอวดอยู่หรอก

กองกำลังอัศวินแห่งลอมบาร์เดีย ไม่ใช่สถานที่หละหลวมขนาดยอมให้สอบผ่านการเลื่อนขั้น หรือให้บรรจุเข้ากองกำลังด้วยเหตุผลว่าเป็นทายาทแห่งลอมบาร์เดียอยู่แล้ว

ดูจากที่ในชีวิตก่อนอาสทัลลีอูเองก็เข้าบรรจุช้าไปมาก ทั้งยังต้องเป็นอัศวินฝึกหัดอยู่หลายปีก็พอจะรู้ได้

“น่าทึ่งมากเลยนะ ทั้งคู่”

สองแฝดยืดไหล่ขึ้นด้วยความภูมิใจ

“ท่านพี่ ท่านพี่ ข้าด้วยครับ!”

เครนีย์ที่ยืนอยู่ข้างคิลลีวูและเมโลนรีบก้าวเท้าออกมาหนึ่งก้าว เอ่ยเรียกเธอไม่หยุด

เครนีย์โตขึ้นอย่างรวดเร็วตามคาด

ตอนนี้เขาอายุได้สิบห้าปี ตัวสูงเลยเธอไปมาก และกำลังไล่ตามความสูงของสองแฝดอย่างแข็งขันทีเดียว

“ข้าเองก็สอบเข้าอะคาเดมีผ่านแล้วนะครับ!”

แตกต่างจากเฟเรสที่ผ่านการศึกษาโดยไม่ต้องสอบเพราะเป็นเจ้าชาย เครนีย์ต้องสอบเข้าอะคาเดมีเสียก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]