“ไม่ใช่วันเกิดของใครที่ไหน แต่เป็นวันเกิดของฟีเรนเทีย บุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านชายแคลอฮัน ลอมบาร์เดีย แล้วข้าจะพลาดวันพิเศษเช่นนี้ได้ยังไงล่ะคะ”
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จักรพรรดินีงานยุ่งมาก
นางฉวยโอกาสที่เฟเรสเดินทางไปยังอะคาเดมีรีบชักชวนขุนนางท่านอื่นๆ ให้มาเป็นพวกของนาง
โดยการใช้กลุ่มการค้าดิวรักของตระกูลอังเกนัส และอำนาจของนางที่มีอยู่แล้วในสังคมชั้นสูง ทำให้เหล่าขุนนางทั้งหลายยอมให้การสนับสนุนอาสทาน่าอย่างเต็มรูปแบบ
หลายตระกูลที่ได้รับความเมตตาและเป็นหนี้บุญคุณตระกูลอังเกนัสกับจักรพรรดินีในหลายๆ ด้าน ต่างได้แต่เกรงใจจนต้องเลือกยืนอยู่ฝ่ายนั้นอย่างช่วยไม่ได้
อีกอย่างท่านพ่อเองก็สนใจแต่เรื่องเขตแดนเชซายู นางคงคิดว่าท่านพ่อย่อมห่างไกลกับการลงสมัครแย่งชิงตำแหน่งเจ้าตระกูลเป็นแน่
นางถึงได้พยายามอยากจะสานสัมพันธ์ผูกมิตรกับเธอให้ได้ขนาดนี้
“แถมยังเป็นหลานสาวของเซรัล ลูกพี่ลูกน้องที่ข้าสนิทสนมรักใคร่ด้วยนี่คะ”
จักรพรรดินีราวีนี่กล่าวเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ชี้ไปยังเซรัลที่ยืนอยู่ด้านซ้ายมือ
เธอมองเห็นลาลาเน่ยื่นศีรษะออกมาจากด้านหลัง
ในเมื่อส่งเสียงพูดคุยกันไม่ได้ เธอเลยส่งสายตาให้ลาลาเน่เป็นการทักทายแทน ลาลาเน่เองก็ส่งสายตาทักทายกลับมาเงียบๆ อยู่ด้านหลังเซรัลเช่นเดียวกัน
“สุขสันต์วันเกิดนะคะ ฟีเรนเทีย”
คงกลัวคนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพวกอังเกนัสละมั้ง
ถึงแม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มอยู่ แต่นัยน์ตากลับไม่ได้สื่อเช่นนั้น ช่างเหมือนกับจักรพรรดินีไม่มีผิดเพี้ยน
เซรัลไม่ได้คล้ายกับจักรพรรดินีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอก
หลังจากขึ้นเป็นจักรพรรดินีของอาณาจักร ราวีนี่ อังเกนัสก็ยังคงทะเยอทะยาน คอยผลักดันตระกูลของตัวเอง
และไม่คิดเก็บซ่อนมันเลยแม้แต่น้อย
เซรัลเองก็เป็นเช่นเดียวกัน
“เบเจอร์งานยุ่งเลยมาไม่ได้ แต่ก็ย้ำข้าเสียตั้งหลายรอบ ให้มาบอกสุขสันต์วันเกิดฟีเรนเทียแทนเขาน่ะค่ะ”
หลังจากชานาเนสขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าตระกูล เบเจอร์ก็เดินทางไปพักร้อนที่เขตแดนอังเกนัส
และกระทั่งผ่านไปหนึ่งปีถึงได้เดินทางกลับมา แต่เบเจอร์กลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ไม่สิ ทั้งเซรัล ทั้งเบเจอร์ ต่างก็เปลี่ยนไปกันหมด
คล้ายกับโครงสร้างอำนาจระหว่างคู่สามีภริยาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไป เบเจอร์เริ่มเชื่อฟังคำพูดของเซรัลในทุกๆ เรื่อง
ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ อย่างไม่เที่ยวไปก่อเรื่องที่ไหนอีก หรือกระทั่งเรื่องใหญ่ๆ อย่างคำแนะนำทางธุรกิจ เขาก็ได้รับมันมาจากเซรัลทั้งสิ้น
เพราะอย่างนั้นกิจการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ของลอมบาร์เดียที่เบเจอร์เป็นผู้รับผิดชอบ จึงได้เข้าไปพัวพันข้องเกี่ยวกับอังเกนัสในหลายๆ ด้าน
แต่เพราะเมื่อรวมอำนาจของสองตระกูลเข้าด้วยกัน มันก่อให้เกิดการเกื้อกูลเป็นอย่างมาก ทำให้ภายในลอมบาร์เดียเองก็ไม่ได้มีข้อคัดค้านแต่อย่างใด
“ข้านำของขวัญไปไว้ที่ห้องให้แล้ว เอาไว้ไปลองเปิดดูนะมันเป็นเซตเครื่องประดับมุกชั้นยอดที่ข้าตั้งใจหามา หวังว่าฟีเรนเทียจะชอบนะคะ”
เซรัลจงใจพูดเสียงดังให้ผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆ ได้ยิน
และจักรพรรดินีก็เอ่ยเสริมต่อ
“ส่วนของขวัญของข้า ข้าตั้งใจว่าจะให้ยืมบ้านพักตากอากาศของอังเกนัสสักเดือนหนึ่งน่ะค่ะ คิดว่ายังไงบ้างคะ ฟีเรนเทีย”
“บ้านพักตากอากาศที่ว่า…”
“เกาะพีพอร์ทที่มีน้ำพุร้อนยังไงล่ะคะ”
สิ่งที่ทางเขตแดนอังเกนัสซึ่งไม่อาจเพาะปลูกได้ดี ทั้งยังไม่มีแร่ธาตุใดๆ ให้ขุดเจาะกำลังพยายามผลักดันอยู่ในช่วงนี้ ก็คือกิจการน้ำพุร้อนนั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...