เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 3

“เข้ามาสิครับ คุณเวสติน”

“ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะครับ คุณเครย์ลีบัน”

เวสติน ชูลส์มาเยือนสำนักงานของร้านค้าเพลเลส

จะมาเยือนมันก็ได้อยู่หรอก แต่นี่เพิ่งจะติดต่อมาได้ไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ

“ก่อนหน้านี้ข้าเองก็ควรจะแวะมาหาสักครั้งแหละนะ”

เวสตินวางท่าพูดเหมือนตนเป็นคนสำคัญเสียเต็มประดา เขาพูดจาราวกับขอโทษขอโพยที่ตัวเองไม่ได้ใส่ใจแวะมาเยี่ยม

คิ้วเรียวได้รูปของเครย์ลีบันกระตุกเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น

ท่าทางจะยังประเมินสถานการณ์ไม่ออกสินะ

เครย์ลีบันหงุดหงิด เขาจ้องหน้าเวสติน ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมานั่งไขว่ห้าง ประสานมือไว้บนตัก และไม่ลืมที่จะกระตุกยิ้มมุมปากราวกับจะเย้ยหยันอีกฝ่าย

“ต่อให้มาก็อาจจะไม่ได้พบข้าก็ได้ครับ ข้าเองก็ยุ่งมากเสียจนไม่มีเวลาเผื่อให้คุณเวสตินหรอกครับ” หมายความว่า ข้าไม่มีเวลาว่างมากมาเจอเจ้าหรอก

เครย์ลีบันมองเห็นถุงใต้ตาของเวสตินกระตุกเล็กน้อย ทว่าเขาก็ยังคงพูดต่ออย่างไม่แยแส

“เพราะฉะนั้นวันนี้มาด้วยธุระอะไรหรือครับ”

“นี่มันช่างน่าเสียใจจริงๆ นะครับ พวกเราต้องมีธุระเท่านั้นถึงจะพบหน้ากันได้หรือ”

“ใช่ครับ”

เครย์ลีบันพูดเสียงห้วน

“พวกเราไม่ได้สนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว ขนาดที่จะมาพบหน้า นั่งดื่มชากันได้โดยไม่มีธุระไม่ใช่หรือครับ”

และสายตาเย็นชาของเครย์ลีบันก็กวาดไล่มองเวสตินตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าหนึ่งรอบ

สายตาตำหนิคนที่ทำตัวกร่างวางท่าเหมือนกับมาพบลูกน้องตัวเองที่ห้องทำงาน

เครย์ลีบันไม่ใช่ลูกจ้างของลอมบาร์เดียอีกต่อไปแล้ว

คนที่ต้องรู้สึกเสียดายก็คือเวสตินเองนั่นแหละ

เพราะตอนนี้เครย์ลีบันเป็นคนที่สามารถลุกขึ้นจากที่นั่ง ออกไปพบคนที่มีคุณค่าและมีความสำคัญกว่าเวสตินได้ทุกเมื่อ

“อะแฮ่ม”

เวสตินเองก็คงจะเริ่มสังเกตได้ เขาขยับแผ่นหลังที่พิงอยู่กับพนักโซฟา เปลี่ยนท่วงท่าเป็นยืดหลังนั่งตัวตรง

ตอนนั้นเองแรงกดดันของเครย์ลีบันถึงได้ค่อยอ่อนตัวลงบ้างเล็กน้อย

“เหตุผลที่ข้ามาหาในวันนี้…”

เวสตินเหลือบมองประตูที่ถูกปิดแน่นเป็นการตรวจสอบก่อนจะเริ่มเปิดปากพูดธุระของตัวเอง

“บัตรเชิญงานเลี้ยงเมื่อครั้งก่อนน่ะครับ”

“ครับ”

“เพราะเหตุใดถึงได้…”

“หากไม่พูดให้ชัดเจน ทางข้าก็คงจะตอบได้ลำบากนะครับ บัตรเชิญงานเลี้ยงเมื่อครั้งก่อนมีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือครับ”

“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น”

เวสตินพยายามยิ้มกลบเกลื่อนจนดูน่าสมเพช

“มีคนที่ไม่ควรได้รับบัตรเชิญจากร้านค้าเพลเลสอยู่ในงานเลี้ยง…”

“อ้อ คุณหนูมาเรีย แพทโทรน?”

ทันทีที่นามของชู้รักตัวเองดังออกจากปากเครย์ลีบัน ใบหน้าของเวสตินก็กระตุกเกร็งไปชั่วขณะ

หลังจากนั้นเวสตินก็พยายามฉีกยิ้มอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่รอยยิ้มที่เหมือนกับก่อนหน้านี้

ทางด้านเครย์ลีบันเองก็ได้แต่รู้สึกชื่นชมในความสามารถของฟีเรนเทีย

ฟีเรนเทียได้แจ้งเขาเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าธุระของเวสตินน่าจะมีเพียงแค่สองเรื่องเท่านั้น

แล้วหนึ่งในสองเรื่องที่ว่าก็เป็นเรื่องที่อีกฝ่ายกำลังพูดอยู่ในตอนนี้นั่นเอง

ภายใต้สีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ของเครย์ลีบัน มีความประทับใจ ‘ว่าแล้วเชียว’ แฝงเอาไว้อยู่

“เฮ้อ…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]