ฟีเรนเทียตกใจมากทีเดียว
เธอได้แต่เหม่อมองสร้อยที่สวมอยู่บนคอของมาเรีย แพทโทรน
สร้อยคอของชานาเนสทำไมไปอยู่ตรงนั้นเสียได้ล่ะ
ตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก
“สร้อยเส้นนั้นทำไมถึง…”
มาเรีย แพทโทรนใช้ปลายนิ้วลูบไล้สร้อยคอของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของเธอ
ดูท่านางคงจะเข้าใจสายตาของเธอที่มองสร้อยเส้นนั้นจนแทบทะลุเสียแล้วละมั้ง บนริมฝีปากถึงได้ปรากฏรอยยิ้มเย่อหยิ่งเหมือนคนที่อยู่เหนือชั้นกว่าแบบนั้น
“เป็นสร้อยคอที่สวยมากเลยใช่ไหมคะวันนี้ก็ได้รับความสนใจมากมาย ขนาดพวกคุณหนูท่านอื่นๆ ยังชมกันยกใหญ่เลยทีเดียวค่ะ”
“…เป็นสร้อยที่งดงามดีนะคะ”
ผู้คนที่อยู่ด้วยกันกับมาเรีย แพทโทรนต่างก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย แต่สร้อยคอเส้นนั้นเป็นของที่ดูใช้ได้พอควร พวกนางจึงได้แต่ยอมรับ
ที่จริงมันก็เป็นสร้อยคอที่ ‘เรียบง่าย’ เกินกว่าจะเป็นของของชานาเนส เกินกว่าจะเคยเป็นของของท่านหญิงแห่งลอมบาร์เดียอยู่เหมือนกันแต่คุณค่าของมันไม่อาจบอกได้ว่าเป็นเพียงแค่ของทั่วไป
และในสายตาของพวกชนชั้นสูงทั่วๆ ไป มันก็ยังคงเป็นสร้อยคอที่มีคุณภาพหรูพอจะจับสายตาของพวกนางไว้ได้
มันมีค่าเกินกว่าจะถูกสวมไว้บนคอของผู้หญิงอย่างมาเรีย แพทโทรน
“ได้สร้อยคอเส้นนั้นมาจากที่ไหนเหรอคะ”
ฟีเรนเทียได้แต่อดกลั้นทั้งๆ ที่อยากจะกระชากผมของผู้หญิงคนนี้มาเขย่าๆ กรีดเสียงร้องสั่งให้นางส่งสร้อยของชานาเนสกลับคืนมา
เพราะอย่างนั้นเสียงของเธอยามที่พูดออกไปจึงสั่นเล็กน้อย
“แหม สร้อยคอเส้นนี้ไม่ใช่ของที่จะใช้เงินทองหาซื้อมาได้หรอกนะคะ”
มาเรีย แพทโทรนยกมือขึ้นบดบังสร้อยคอ ทำท่าราวกับว่าเธอปรารถนาอยากได้ของของนางมากเสียเต็มประดา
หญิงสาวชั้นสูงที่ยืนอยู่ข้างกายมาเรียจึงถามเพื่อยืนยันให้แน่ใจ
“เห็นว่าคนสำคัญของคุณหนูแพทโทรนมอบให้เป็นของขวัญใช่มั้ยคะ”
“ค่ะ เมื่อไม่นานมานี้ได้รับเป็นของขวัญวันเกิดข้าน่ะค่ะ”
ฟีเรนเทียแทบไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง
เมื่อครู่นี้เธอได้ยินว่าอะไรนะ
ใครเป็นคนให้สร้อยเส้นนั้นนะ
“หมายความว่าคนรักของคุณหนูแพทโทรนเป็นคนให้สร้อยคอเส้นนี้เป็นของขวัญเหรอคะ”
“ค่ะ”
ไอ้บ้านั่น
เวสติน ไอ้สุนัขเวรตะไล!
ไอ้คนชั่วช้าโสโครก แม้แต่มอนสเตอร์หิวโหยที่อาศัยอยู่ในป่าลึกถ้าได้กินคนอย่างเจ้า คงถ่มน้ำลายแล้วสบถเพราะเกรงจะติดโรคร้ายเสียเปล่าๆ
กล้าที่จะขโมยของดูต่างหน้ามารดาของภริยาแล้วแอบเอามาให้กับชู้รักของตัวเองอย่างนั้นหรือ
คนเรามันต้องเลวขนาดไหนถึงทำเรื่องแบบนี้ได้ลงคอกัน
“เขาบอกว่าเป็นของที่พิเศษมาก มันตกทอดส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นในตระกูลของเขาน่ะค่ะ”
ในวินาทีที่มรดกของท่านหญิงแห่งลอมบาร์เดียถูกช่วงชิงไปเป็นสมบัติของตระกูลชูลส์ฟีเรนเทียก็รู้สึกได้ว่าตัวเองโมโหมากจนแทบจะคุมสติเอาไว้ไม่อยู่
ดูจากท่าทางของมาเรีย แพทโทรนแล้ว ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะไม่รู้จริงๆ ว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของแบบไหน
ถ้าหากนางรู้ว่ามันเป็นของชานาเนสและเป็นของดูต่างหน้าของท่านย่า นางจะต้องไม่แสดงท่าทางแบบนี้ออกมาแน่ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...