“ครับ ขอแปดพันเหรียญทองอย่างนั้นหรือครับ ตอนนี้เลย”
เสียงตกใจของเวสตินดังก้องไปทั่วสำนักงานของร้านค้าเพลเลส
“ครับ ใช่แล้วครับ”
แต่เสียงของเครย์ลีบันที่ตอบกลับมีแต่ความนิ่งสงบ
“ข้าทราบดีว่าหากต้องการสัมปทานขุดเจาะเหมือง ย่อมต้องจ่ายค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง แต่นี่…ตั้งแปดพันเหรียญทองเลยอย่างนั้นหรือ”
ยอดเงินมหาศาลทำเอาเวสตินได้แต่อ้าปากค้าง
“ไม่โลภเกินไปหน่อยหรือครับ”
คำตำหนิของเวสตินทำเอาเครย์ลีบันอยากจะหัวเราะเยาะหยันออกมา
ใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายโลภมากอยากขโมยของของคนอื่นในตอนนี้แต่นี่เขากลับได้ยินคำตำหนิว่าโลภมากจากคนแบบนี้เนี่ยนะ
เครย์ลีบันยังคงรักษาท่าทางสงบนิ่งขณะนึกถึงเรื่องที่ฟีเรนเทียสั่งการเอาไว้
“นี่เป็นความลับนะครับ ที่จริงแล้วร้านค้าเพลเลสไม่ใช่กิจการของข้าหรอกครับ”
“ถะ…ถ้าอย่างนั้น…”
“เงินทุนมหาศาลขนาดจัดตั้งร้านค้า ทั้งยังซื้อเหมืองแร่อีก มันไม่ใช่ยอดเงินที่ข้าจะสามารถจัดหาได้อยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ แน่นอนว่าต้องมีผู้ร่วมลงทุนอยู่หลายท่านอยู่แล้ว”
เครย์ลีบันพูดต่ออย่างลื่นไหล
ถึงแม้ที่จริงแล้วนักลงทุนเพียงหนึ่งเดียวของร้านค้าเพลเลส หรือเจ้าของร้านตัวจริงจะมีแค่ฟีเรนเทียคนเดียวก็เถอะ
“ถ้าอยากให้พวกเขายอมเปลี่ยนบริษัทขุดเจาะ ก็ต้องใช้เงินระดับนั้นแหละครับ ข้าจะไปทำอะไรได้”
“ถ้างั้นระยะเวลา…”
“ต้องจ่ายทันทีในวันนี้เลยครับ”
“ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่หรือครับ! ให้เตรียมเงินขนาดนั้นภายในวันนี้เนี่ยนะ!”
เวสตินระเบิดอารมณ์โมโห ทว่าเครย์ลีบันเพียงแค่ยักไหล่ไม่ยี่หระเท่านั้น
“พวกนักลงทุนจะรวมตัวกันแค่ปีละครั้งเท่านั้นน่ะสิครับ เพราะทุกท่านต่างก็งานยุ่งกันทั้งนั้น แล้ววันประชุมที่ว่านั่นก็ดันเป็นคืนนี้พอดีเสียด้วย”
“แต่ถึงยังไงก็เถอะ เงินจำนวนมากขนาดนั้นจะหามาทันได้ยังไงในวันนี้…”
เวสตินแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว
เขาปรารถนาอยากได้สัมปทานขุดเจาะเหมืองเพชรนั่นเหลือเกิน
อีกอย่างเขาอยากหย่าขาดกับชานาเนส ลอมบาร์เดียให้ได้เร็วๆ อยากจะได้อิสระแม้จะเร็วขึ้นแค่วันเดียวก็ยังดีเพราะอย่างนั้นถึงได้ต้องการสิทธิสัมปทานขุดเจาะเหมืองแร่ของร้านค้าเพลเลส
เงินจำนวนแปดพันเหรียญทองมันเป็นยอดเงินเท่าๆ กับเงินที่เขายักยอกจากลอมบาร์เดียตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเปลี่ยนมันให้เป็นเงินสดได้ในทันที
ต่อให้พยายามลองใช้หัวสมองครุ่นคิดแค่ไหน ก็คิดวิธีที่น่าพอใจไม่ออก ในระหว่างที่เวสตินกำลังตึงเครียด เครย์ลีบันจึงกระซิบเบาๆ
“กู้เงินดีมั้ยครับ”
“กะ…กู้เงิน?”
“หากเป็นธนาคารลอมบาร์เดียแล้วละก็ ใช้เครดิตในนามท่านเวสตินก็น่าจะสามารถกู้ได้จำนวนหนึ่งไม่ใช่หรือครับ ยังไงก็เป็นถึงบุตรเขยของรูลลัก ลอมบาร์เดียนี่ครับ”
คำพูดของเครย์ลีบันถูกต้องแล้ว
หากเป็นธนาคารลอมบาร์เดียแล้วละก็ จะต้องเชื่อใจและยอมให้ยืมเงินจำนวนนี้แน่นอน
“ยังไงก็รีบดับไฟร้อนก่อนดีกว่า ส่วนเงินกู้ไว้ค่อยทยอยคืนก็น่าจะได้นะครับ”
เสียงนิ่งๆ ของเครย์ลีบันทำให้เวสตินเริ่มคิดว่าการกู้เงินน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วจริงๆ
เครย์ลีบันกระซิบเสียงแผ่วหว่านล้อมเวสตินที่เริ่มจะหลงกลในแผนการของเขา
“อันที่จริงหากได้รับสัมปทานขุดเจาะเหมืองแร่แล้ว แบ่งกำไรมาส่วนหนึ่ง เพียงไม่นานก็น่าจะกลบเงินจำนวนนั้นได้สบายๆ อยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ”
“…เรื่องนั้นก็จริงอยู่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...