เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 3

สรุปบท เล่ม 3 บทที่ 92.1: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

อ่านสรุป เล่ม 3 บทที่ 92.1 จาก เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet

บทที่ เล่ม 3 บทที่ 92.1 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายแฟนตาซี เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

“ท่านปู่! พ่อ!”

ฟีเรนเทียวิ่งเข้าไปทักทายท่านพ่อกับท่านปู่ด้วยความยินดี

เธอรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ทั้งสองท่านมีตารางแวะมาที่ร้านเพราะอย่างนั้นถึงได้ตั้งใจพาตัวมาเรีย แพทโทรนมาที่นี่

“ถ้าบอกก่อนล่วงหน้า พ่อกับท่านปู่ก็คงจะรีบมากันแล้ว…”

ท่านพ่อลูบหัวเธอพลางพูดขึ้น

“ข้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาหรอกค่ะ แต่พอดีมีเรื่องที่ทำให้จู่ๆ ต้องแวะมาน่ะค่ะ”

เธอพูดเช่นนั้นขณะเดียวกันก็เหลือบมองไปทางด้านหลัง เห็นมาเรีย แพทโทรนกับคุณหนูทั้งหลายต่างก็ตื่นตระหนกกันใหญ่

นี่คือแคลอฮัน ลอมบาร์เดียเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันที่มีสาขาอยู่ทั่วอาณาจักร กับรูลลัก ลอมบาร์เดียเชียวนะ

พวกนั้นกำลังกระซิบกระซาบพูดคุยกัน

ท่านพ่อเหลือบมองพวกนางในขณะที่ถามเธอ

“พวกนั้น…มาด้วยกันกับเทียเหรอ”

ช่วงอายุของพวกนางไม่ได้เหมาะจะเป็นเพื่อนเล่นกับเธอ ดังนั้นบนใบหน้าของท่านปู่กับท่านพ่อจึงมีแต่ความสงสัยปรากฏขึ้นตามธรรมชาติ

ในตอนนั้นเองมาเรีย แพทโทรนและคุณหนูทั้งหลายก็เดินเข้ามาใกล้อย่างระมัดระวัง

เธอชี้ไปที่มาเรีย แพทโทรนในขณะที่พูดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

“พอดีข้าทำน้ำผลไม้หกใส่ชุดของคุณหนูแพทโทรนน่ะค่ะ เพราะฉะนั้นก็เลยเชิญนางกับเพื่อนๆ มาเพื่อซื้อชุดตัวใหม่ให้ ได้ใช่มั้ยคะ พ่อ”

ท่านพ่อตกใจเล็กน้อย ก่อนจะกวาดสายตามองสำรวจชุดของมาเรีย แพทโทรน แล้วพูดขึ้น

“แน่นอนสิ ได้แน่นอน ชุดเลอะหมด…”

คำพูดของท่านพ่อหยุดชะงักในทันที

สายตาของท่านพ่อจับจ้องไปที่สร้อยคอของมาเรีย แพทโทรน

นัยน์ตาสั่นไหวคู่นั้นเอาแต่เหม่อมองไปยังสร้อยคอเส้นนั้น สายตาคล้ายกับไม่แน่ใจว่าตัวเองเผลอมองผิดไปหรือเปล่า

“มันเป็นชุดตัวโปรดเลยรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่ไม่เป็นไรค่ะ…”

ถึงแม้มาเรีย แพทโทรนจะพูดเช่นนั้น แต่ท่านพ่อก็ยังไม่อาจเปิดปากพูดอะไรออกมาได้

บางทีคงจะไม่มั่นใจนักเพราะสร้อยคอเส้นนั้นมันเป็นของของชานาเนส

แต่แล้วเมื่อมาเรีย แพทโทรนเอ่ยเช่นนั้นแล้วตั้งใจจะหมุนตัวเดินกลับไปยังมุมเดรสพรีเมียม

“เจ้าตรงนั้น”

ท่านปู่ก็เอ่ยรั้งมาเรีย แพทโทรนเอาไว้ด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“ไหนมาทางนี้หน่อยซิ”

สายตาของท่านปู่จับจ้องอยู่ที่ที่หนึ่งอย่างแม่นยำ

“ขอดูสร้อยคอที่เจ้าสวมอยู่หน่อย”

รูลลัก ลอมบาร์เดีย กวาดสายตามองคุณหนูวัยสาวตรงหน้า

เดรสที่นางสวมใส่อยู่เลอะเป็นรอยด่างจากน้ำผลไม้ แต่ท่าทางยามที่ยืนเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยนั่น ช่างหยาบคายไร้มารยาทเหลือเกินแต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยังหลบสายตาของเขา ไม่กล้ามองสบตาตรงๆ

นางกำลังหวาดกลัวรูลลัก

ถึงแม้จะแสร้งทำเป็นมั่นใจ แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้มีนิสัยใจกล้าถึงขนาดนั้น

เป็นคนทั่วไปที่พบเห็นได้ดาษดื่น

รูลลักพูดเสียงเย็นชา

“ได้ยินว่าหลานสาวข้าทำน้ำผลไม้หกใส่ชุดเจ้า”

“ค่ะ เกิดเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้นขึ้นค่ะ”

“เรื่องนั้นข้าต้องขอโทษแทนด้วยก็แล้วกัน”

“มะ…ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่ชดเชยด้วยเสื้อผ้าเช่นนี้ก็…”

รูลลักพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดของมาเรีย แพทโทรน

“อืม โล่งอกไปทีนะ ถ้าอย่างนั้นจะช่วยตอบคำถามต่อไปของข้าตรงๆ ได้หรือไม่”

“คำถามอะไร…”

“เจ้าเป็นอะไรกับบุตรเขยของข้า”

“…คะ”

น้ำเสียงของมาเรีย แพทโทรนสั่นเครือ

ราวกับความลับที่เก็บซ่อนเอาไว้ถูกจับได้เสียแล้ว

“ข้าจะให้โอกาสเจ้า ถือว่ามันอาจจะเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดชั่วครั้งชั่วคราวก็ได้”

นางเคยได้ยินเวสตินพูดจาดูถูกรูลลัก ลอมบาร์เดียคนนี้ เรียกเขาว่า ‘ไอ้เฒ่า’ บ้าง ‘ไอ้แก่’ บ้างมาโดยตลอด

เพราะฉะนั้นมาเรีย แพทโทรนถึงได้ดูถูกเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียมาโดยตลอดเช่นกันว่าอีกฝ่ายคงเป็นแค่คนแก่โง่เขลาที่ไม่ได้รู้เรื่องอันใดเลย แม้กระทั่งนางกับเวสตินขโมยเงินไปที่ปลายจมูกเขาแบบนั้น

แต่มาเรีย แพทโทรนก็ตระหนักได้ถึงความโง่เขลาของตัวเองในทันที

รูลลัก ลอมบาร์เดียเป็นคนที่น่ากลัวมาก

แรงกดดันที่ทำให้นางหายใจแทบไม่ออกในตอนนี้ กำลังบอกนางเช่นนั้น

นี่นางทำเรื่องบ้าอะไรลงไปกัน

อีกฝ่ายเป็นถึงลอมบาร์เดียผู้มากอำนาจ

ต่อให้เสียใจขึ้นมาเอาป่านนี้ ก็สายเกินไปเสียแล้ว

มาเรีย แพทโทรนหลับตาแน่น สั่นเทาไปทั้งร่าง

“ถ้าพูดที่นี่ลำบาก เช่นนั้นก็ตอบมาแค่อย่างเดียวก่อนก็ได้ คนที่มอบสร้อยคอเส้นนั้นให้เจ้า คือเวสติน ชูลส์ใช่หรือไม่”

มาเรีย แพทโทรนพยักหน้าลงอย่างช้าๆ ให้กับคำถามของรูลลัก

“แคลอฮัน”

รูลลัก ลอมบาร์เดียเอ่ยเรียกบุตรชายที่ยังคงทำหน้าบึ้งตึงด้วยความโมโห

“ดูแลเทียด้วย กลับไปที่คฤหาสน์กันเถอะ แน่นอนว่าเจ้าก็ตามมาด้วย”

ประโยคสุดท้ายทำให้มาเรีย แพทโทรนผวาเฮือก

“ขะ…ขออภัยค่ะ! ได้โปรดยกโทษ…”

รูลลักมองหญิงสาวตรงหน้าที่เอาแต่ก้มศีรษะด้วยความกลัว เขาพูดขึ้น

“หากเรื่องไม่แดงก็คงไม่คิดขอโทษหรอกใช่มั้ยล่ะ ตามมาในตอนที่ข้ายังพูดดีด้วยจะดีกว่า”

มาเรีย แพทโทรนใจแกว่ง นางหันกลับไปมองเหล่าคุณหนูที่มาด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย

แต่พวกนางพอจะประเมินสถานการณ์คร่าวๆ ได้จากบทสนทนาที่พูดคุยกัน จึงมองมาเรีย แพทโทรนด้วยความเหยียดหยาม

“ไปกันได้แล้ว”

รูลลักกล่าวเช่นนั้น ก่อนจะเดินนำออกไปจากร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮัน

สุดท้ายมาเรีย แพทโทรนก็เดินตามออกไป นางได้แต่ขึ้นรถม้ามุ่งไปยังคฤหาสน์ลอมบาร์เดียโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]