อันที่จริงมันเป็นหนังสือที่เธอตั้งใจซื้อเพื่อเก็บไว้มอบให้เครนีย์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เพราะไม่ได้หวงแหนอะไรมากมายอยู่แล้ว เธอเลยไม่ได้สนใจที่หนังสือมีสภาพเละเทะแบบนั้น
แต่การที่รอยเท้าเต็มหน้ากระดาษนั่น มันเหมือนกับรอยเท้าที่ประทับอยู่บนเสื้อเชิ้ตของเครนีย์ มันทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
อยากคิดว่าเครนีย์ไปทะเลาะกับใครมาหรือเปล่า แต่ดูจากขนาดของรอยเท้าแล้ว มันไม่ใช่ขนาดของเด็กวัยเดียวกับเครนีย์แน่นอน
มันเป็นรอยเท้าขนาดใหญ่ประมาณเท้าผู้ใหญ่ชัดๆ
“ใครทำเจ้าแบบนี้กัน”
เธอชี้ไปที่รอยเท้าขนาดใหญ่พลางถาม
“นะ…นี่…พะ พี่เบเลซักเขา…”
“เบเลซัก?”
ก็ว่าทำไมช่วงนี้ดูสงบเสงี่ยมจริง!
พอก้มลงไปมองให้ละเอียดถึงได้พบว่ามีกระทั่งรอยช้ำตามแขนของเครนีย์ด้วย
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เล่ามาให้ละเอียดเลยนะ เครนีย์”
“ฮึก! ก็แค่…ข้า ข้ากำลังอ่านหนังสืออยู่คนเดียวแต่…”
“แต่?”
“ฮือ ท่านพี่เบเลซักโผล่มา…ถามว่าหนังสืออะไร ฮึก! แล้ว แล้วก็…ข้าเลยบอกว่าของเทีย!”
มันค่อนข้างฟังได้ลำบากเพราะคำพูดเจือไปด้วยเสียงสะอื้น แต่เครนีย์ก็อธิบายออกมาได้ครบถ้วน
“เพราะงั้นเจ้าอ่านหนังสืออยู่คนเดียว แล้วเบเลซักก็โผล่มา พอรู้ว่าหนังสือที่เจ้าอ่านเป็นของข้า ก็ฉีกหนังสือทิ้งใช่หรือไม่”
“ฮืออ…”
“เจ้าพยายามขัดขวางก็เลยมีสภาพกลายเป็นแบบนี้”
“…อื้อ”
“เบเลซัก ไอ้ใจป๊อดรังแกคนไม่มีทางสู้!”
รู้สึกโมโหมากเสียจนก้อนสะอื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ
“ไม่มีใครให้แกล้ง ก็เลยลงมือทำร้ายลูกพี่ลูกน้องที่ยังเด็กขนาดนี้เนี่ยนะ! ”
ไม่สิ ในชีวิตก่อน เจ้านั่นก็เป็นคนลงมือทำร้ายเธอแบบนั้นเหมือนกัน
เครนีย์ที่ยิ่งเด็กกว่าเธอในตอนนั้นย่อมไม่มีทางรอดปลอดภัยจากเงื้อมมือเจ้านั่นได้อยู่แล้ว
“พี่ชายของเจ้าล่ะ! อาสทัลลีอูมัวทำอะไรอยู่!”
“ยะ…ยืนอยู่ข้างๆ …”
“ไอ้โง่ไร้สมอง! น้องชายตัวเองถูกทำร้ายแท้ๆ !”
พอเธอโมโหเดือดด้วยความอัดอั้นตันใจ เครนีย์ที่อยู่ข้างๆ ก็เริ่มส่งเสียงร้องสะอึกสะอื้นอีกรอบ
ทั้งๆ ที่เด็กตัวเล็กๆ คนนี้ปกป้องหนังสือจนยอมถูกเหยียบ แต่คนที่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองกลับเอาแต่ยืนนิ่งเฉย มองดูอยู่ข้างๆ ไม่ยอมช่วย
คงเสียใจมากทีเดียว
แต่เธอก็ยังตั้งใจดุเสียงเข้ม
“ฮึบเร็ว เลิกร้องไห้ได้แล้ว ร้องมาเยอะพอแล้วนะ หยุดร้อง”
“…ฮึบ”
เครนีย์กัดริมฝีปากล่างแน่น พยายามกลั้นเสียงร้องไห้เมื่อได้ยินเธอสั่งเช่นนั้น
เธออธิบายให้เครนีย์ที่มีสีหน้าสงบลงบ้างแล้วฟังอย่างใจเย็น
“เครนีย์ เจ้าคิดว่าหนังสือเล่มนี้ราคาเท่าไหร่”
“อืม ไม่รู้สิ…”
เพราะเขาไม่เคยได้ออกไปซื้อของข้างนอก จึงไม่มีประสบการณ์ทางด้านการคำนวณราคาข้าวของ
“เอาละหนังสือนี่น่ะ ข้าซื้อมาในราคาสี่เหรียญเงินแล้วเงินค่าขนมที่เจ้าได้ในแต่ละเดือนละ เท่าไหร่”
“หนึ่งเหรียญทอง”
ดูเหมือนคู่สามีภริยาลอเรนซ์กับโรเนสจะแบ่งเงินค่าขนมที่เครนีย์ควรได้รับให้เขาแค่ส่วนเดียวเท่านั้นสินะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...