บทที่ 97
ระหว่างที่ลอรีลปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำแค่ครู่เดียวฟีเรนเทียก็หายตัวไปแล้ว นางจึงเที่ยววิ่งตามหาไปทั่วคอกม้า ตอนนี้นางถึงค่อยรู้สึกโล่งใจได้หน่อย
นางตกใจมากทีเดียว กลัวว่าถ้าคุณหนูของนางโดนคนแปลกๆ ลักพาตัวไปจะทำเช่นไร
แต่ฟีเรนเทียที่ทำท่าเหมือนแค่สนทนาเรื่อยเปื่อย และเด็กชนชั้นสูงกลุ่มหนึ่งตรงหน้านี่ บรรยากาศระหว่างพวกเขากลับดูผิดปกติ
เมื่อมองเห็นใบหน้าของฟีเรนเทีย ลอรีลถึงกับเผลอผวาเฮือกโดยไม่รู้ตัวเพราะมันเป็นรอยยิ้มที่ฟีเรนเทียมักจะเผยให้เห็นเฉพาะยามที่เด็กคนนี้ไม่พอใจในอะไรสักอย่าง
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”
ลอรีลถามอย่างระมัดระวัง
“เปล่าหรอก ก็แค่พวกท่านทั้งหลายตรงนี้ถามว่าข้าเป็นใครน่ะ”
“ค่ะ…แล้วทำไม…”
ถึงได้โมโหขนาดนั้นล่ะคะ
ลอรีลกลืนคำพูดท้ายประโยคกลับลงคอ
และเพียงไม่นานฟีเรนเทียก็ตอบ
“และพอเห็นข้าไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ก็บอกว่าไม่ต้องฟังชื่อข้าก็ ‘เห็นชัด’ อยู่แล้ว”
“ทะ…ทำไมถึงได้เสียมารยาทแบบนั้น…”
ลอรีลรู้สึกสงสารเด็กผู้ชายที่ยืนกอดอกแน่น เชิดหน้าอย่างยิ่งยโสจริงๆ
คุณหนูผู้แสนน่ารัก ชาญฉลาด น่าเลื่อมใสที่สุดในโลกที่นางคอยดูแลรับใช้คนนี้ เกลียดคนประเภทชอบอวดอ้างบารมีของตระกูลมากที่สุด
ยิ่งพวกที่ชอบเสียมารยาททำตัวหยาบคายกับคนอื่นก็ยิ่งเกลียด
ลอรีลคาดเดาว่าคงจะได้รับอิทธิพลจากพวกลูกพี่ลูกน้องละมั้ง แต่นางก็ได้แต่สันนิษฐานไปอย่างระมัดระวังเท่านั้น
“เห็นว่าท่านนี้เป็นคนของตระกูลอังเกนัส คาเซย์ อังเกนัสใช่มั้ยนะ”
“อา…”
ลอรีลส่งเสียงร้องครางด้วยความสงสาร
หากเป็นคนจากตระกูลอังเกนัสแล้วละก็ นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ลอรีลจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออะไรได้แล้วละ
นางยกมือยอมแพ้ในขณะที่ก้าวถอยไปข้างหลังครึ่งก้าว
“สวัสดีครับ คุณหนูดิลลาร์ด”
เด็กผู้ชายซึ่งจนถึงเมื่อครู่ยังยืนทำหน้าบึ้งตึงใส่ฟีเรนเทีย หันมาทักทายลอรีลด้วยน้ำเสียงค่อนข้างให้ความเคารพมากพอควร
พอมาลองคิดๆ ดูแล้ว ลอรีลรู้สึกว่านางเคยเห็นใบหน้านี้อยู่บ้างหลายครั้งเหมือนกัน
“คนคนนี้เป็นแขกของคุณหนูดิลลาร์ดหรือครับ”
“แขก…”
ลอรีลลังเลไปชั่วครู่ ไม่รู้ว่าควรจะตอบออกไปว่าอย่างไร
สถานที่แห่งนี้เป็นคลับประเภทหนึ่งที่กำหนดให้มีเพียงสมาชิกเท่านั้นที่เข้ามาได้ ซึ่งฟีเรนเทียเองก็เข้ามาในฐานะแขกทั่วไป
แต่ที่ดินผืนนี้ที่ใช้สร้างคอกม้าให้ชนชั้นสูงได้มารวมตัวกัน เป็นที่ดินของลอมบาร์เดียทั้งสิ้น
ในตอนนั้นเอง ฟีเรนเทียก็ชิงตัดหน้าพูดขึ้นก่อน
“ตระกูลของข้าสนิทกับตระกูลดิลลาร์ดน่ะ”
ลอรีลหันไปมองฟีเรนเทียด้วยใบหน้ากระอักกระอ่วน แต่ฟีเรนเทียเพียงแค่ยิ้มเจ้าเล่ห์ตอบกลับไปเท่านั้น
เพราะเรื่องที่ลอมบาร์เดียสนิทกับดิลลาร์ด ไม่ถือว่าเป็นเรื่องโกหกเสียทีเดียว
“ฮึ่ม ข้าไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นักหรอกนะครับ ที่มีบุคคลตัวตนไม่แน่ชัดมาเดินเพ่นพ่านอยู่แถวนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...