บางทีคงคิดว่าในเมื่อตามสืบเรื่องเกี่ยวกับเธอมาได้มากขนาดนั้น ตัวเองจะเป็นฝ่ายชนะละมั้ง
“หากคิดจะเล่นแง่เพราะเรื่องศักดิ์ศรีละก็…”
“เปล่าค่ะ ไม่ได้เล่นแง่อะไรทั้งนั้น น่าเสียดายแต่การสืบของเบ๊ตมันมีจุดที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงอยู่น่ะค่ะ”
“เหอะ แล้วมันอะไรกันล่ะครับ ข้อผิดพลาดที่ว่านั่น”
เบ๊ตบ่นเสียงเกรี้ยวกราดด้วยใบหน้าที่ยังคงไม่รู้จักเก็บสีหน้าเหมือนเคย
“สักครู่นะคะ”
เธอลุกขึ้นจากที่นั่ง เปิดประตูร้านออก ก่อนจะเอ่ยเรียกคนคนหนึ่งที่ยืนรออยู่แถวนั้น
เธอบอกสถานที่กับเวลานัดหมายวันนี้ ให้เขาช่วยรอในรถม้าเผื่อไว้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
คิดถูกแล้วจริงๆ ที่ทำเช่นนั้น
“คุณเครย์ลีบัน”
เครย์ลีบันเดินเข้ามาในร้านทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของเธอ
“เรียกหรือครับ ท่านฟีเรนเทีย”
ท่าทางที่อีกฝ่ายดูจะเคารพนับถือเด็กสาวมากเกินกว่าจะเป็นอาจารย์ปฏิบัติตัวกับลูกศิษย์ ทำให้เบ๊ตขมวดคิ้วแน่นเป็นปม
“พอดีคิดว่าถ้าคุณเครย์ลีบันอยู่ตรงนี้ด้วย เบ๊ตน่าจะเชื่อใจกันได้มากกว่าน่ะค่ะ เมื่อครู่นี้บอกว่าข้าได้รับคำชี้แนะจากคุณเครย์ลีบันใช่มั้ยคะ”
“ครับ ใช่แล้ว”
ดูเหมือนเบ๊ตจะยังไม่รู้ว่าตัวเองผิดพลาดที่จุดไหน
เธอจับชายกระโปรง กล่าวแนะนำตัวกับเบ๊ตอย่างเป็นทางการ
“ครั้งนี้ข้าขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะคะ เจ้าของร้านค้าเพลเลสตัวจริง ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดียค่ะ”
“ครับ…?”
เบ๊ตใช้ปลายนิ้วแคะรูหูของตัวเองด้วยใบหน้าโง่งม
แล้วหันไปมองเครย์ลีบันด้วยนัยน์ตาขอคำอธิบาย
“ที่ท่านฟีเรนเทียกล่าวถูกต้องแล้วครับ”
“ถะ ถ้างั้น เป็นเรื่องจริงหรือครับ! ”
เครย์ลีบันพยักหน้ายืนยัน
“ตะ แต่ชื่อร้านค้าเพลเลส…”
“ก็แค่ชื่อเท่านั้นแหละครับ”
เครย์ลีบันตอบอย่างไม่แยแส
“แต่อายุแค่ 11 ปี…”
“ยอดเยี่ยมไปเลยว่ามั้ยครับ! ”
“ชะ เช่นนั้นคุณหนูฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดียก็…”
“เป็นแสงสว่างและความหวังของลอมบาร์เดียยังไงล่ะครับ! ”
“ฮะ ฮ่าฮ่า…”
เบ๊ตหัวเราะเสียงแผ่วเหมือนคนสติหลุด
เขามองเธอหนึ่งครั้ง หันไปมองเครย์ลีบันที่ยืนอยู่ข้างๆ หนึ่งครั้ง แล้วก็หัวเราะออกมาแบบนั้นอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นเสื้อผ้าสำเร็จรูปนั่น…”
“อาจจะน่าประหลาดใจไปบ้าง แต่นั่นเป็นความคิดของท่านพ่อค่ะ”
“แต่การแทรกแซงของคุณหนู…”
“ก็มีบ้างเหมือนกันค่ะ เรื่องนั้นเบ๊ตคาดเดาได้ถูกต้องแล้วค่ะ”
“อา ว่าแล้วเชียว…”
ท่าทางเบ๊ตคงจะต้องการเวลาอยู่คนเดียวสักพัก
เขายกมือขึ้นจับคางตัวเอง ดูเหมือนจะกำลังครุ่นคิดเรื่องอะไรบางอย่าง ถึงได้พยักหน้าพลางพูดพึมพำอยู่คนเดียว
“อย่างนี้นี่เอง ถ้างั้นก็เป็นไปได้…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...