เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 3

เธอรอสักพัก ก่อนจะลุกเดินออกไปข้างนอกอย่างผ่อนคลาย

พระอาทิตย์เคลื่อนคล้อย ท้องฟ้าถูกย้อมจนเป็นสีแดง

สัมภาระถูกขนลงจากรถม้าจนหมด หลังจากจัดการเก็บข้าวของเรียบร้อย ด้านนอกก็เงียบสงบ

เธอยกมือไขว้หลัง เดินเตร่ไปเรื่อยเหมือนแค่ออกมาเดินเล่น เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าไปพลางเริ่มออกเดินตรงไปข้างหน้า มองเห็นนกกลุ่มหนึ่งบินผ่านไป

นกอพยพเริ่มย้ายถิ่นฐานกันแล้ว

ทุกปีนกเหล่านี้จะบินข้ามผ่านทวีปตามแต่ฤดูกาล พวกมันบินตลอดทั้งวัน และมักจะมาหยุดพักอยู่ที่คฤหาสน์ลอมบาร์เดียเพื่อฟื้นฟูร่างกายที่แสนจะเหนื่อยล้า

เพราะคนในเขตคฤหาสน์มีจำนวนน้อยมาก แต่จำนวนต้นไม้กลับมีมากพอสำหรับพวกมัน

“วันนี้พวกเจ้าก็แวะมาพักที่คฤหาสน์ ก่อนจะออกเดินทางเหมือนเดิมสินะ”

เธอมองเหล่านกน้อยที่ซ่อนตัวอยู่ตามต้นไม้ในคฤหาสน์ไปพลาง หยิบเอาของในกระเป๋าออกมาถือไว้ในมือ

สิ่งที่เธอเตรียมไว้เป็นพิเศษเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ นอนแน่นิ่งอยู่ในอุ้งมือ

“งั้นก็เตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้วสินะเนี่ย”

เธอตรวจเช็กให้แน่ใจว่าเบเลซักขนสัมภาระเข้าไปเก็บหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็ได้เวลาแล้ว

เธอก้าวเท้าสองจังหวะด้วยใจที่สนุกสนานมุ่งตรงไปยังคอกม้า

การแวะไปตรวจสอบอาการของม้าที่เจ้าตัวหวงแหนหลังกลับจากล่าสัตว์ เป็นนิสัยที่ติดตัวของเบเลซัก

เธอดักรอเบเลซักอยู่ตรงหัวมุมถนนที่เขามักจะเดินไปยังคอกม้า

บริเวณนั้นมีต้นไม้มาก ไร้ผู้คน

เป็นเส้นทางที่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง

ไม่นานก็มองเห็นเบเลซักกำลังเดินตรงมา

แต่เจ้านั่นไม่ได้มาคนเดียวเนี่ยสิ

“ถือให้มันดีๆ หน่อยสิ! ลากพื้นหมดแล้วไม่ใช่หรือไง!”

“ฮือ…”

เบเลซักคำรามขู่อยู่ข้างกายเครนีย์ที่หอบหิ้วบางอย่างที่ดูหนักหน่วงเดินตามมา

พอลองสังเกตอย่างละเอียดก็พบว่ามันคืออานม้านั่นเอง

แถมยังทำจากหนังสัตว์ เลยยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

“นะ เหนื่อย…”

มันหนักเกินกว่าที่เครนีย์ซึ่งยังเด็กจะถือไหว

แต่ว่า

พลั่ก-!

เบเลซักตบศีรษะเล็กๆ ของเครนีย์อย่างแรง ก่อนจะพูดข่มขู่

“อยากโดนตีเพิ่มใช่มั้ย”

“…ปะ เปล่า ฮึก! ”

สุดท้ายเครนีย์ก็ระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาจนได้

และความอดทนของเธอก็ถึงที่สุดแล้วเช่นกัน

“เครนีย์”

เธอเดินออกมาจากหัวมุม ยืนขวางทั้งสองคนเอาไว้ แล้วพูดขึ้น

“โยนของที่ถืออยู่ทิ้ง แล้วไปซะ”

“ทะ เทีย…?”

เครนีย์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ดหยาดน้ำตา

“เจ้านี่มันอะไรอีกเนี่ย”

เบเลซักจ้องเธอเขม็งด้วยใบหน้าบึ้งตึง

แล้วไง ใครสนล่ะ

เธอมองแต่เครนีย์นิ่งๆ

“อะ อื้อ!”

เครนีย์กัดริมฝีปากแน่นเพื่อรวบรวมความกล้า แล้วโยนอานม้าทิ้งไปข้างกายเบเลซัก

“เฮ้! เจ้านี่ บ้าไปแล้วหรือไง!”

เบเลซักโมโหเดือด แต่เครนีย์วิ่งหนีไปไกลแล้ว

“เบเลซัก นี่ปกติเจ้ากลั่นแกล้งเครนีย์มากขนาดไหนกันแน่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]