เครย์ลีบันเอ่ยพูดเสียงทุ้มต่ำ
“ที่ท่านเจ้าตระกูลเปิดประชุมเมื่อคราวก่อน บอกว่ายาขี้ผึ้งนี่เป็นสิ่งที่คุณหนูฟีเรนเทียเป็นคนทำขึ้น พวกผู้นำตระกูลใต้บังคับบัญชาคนอื่นๆ ต่างก็คิดแค่ว่าเป็นการอวดหลานสาวธรรมดาเท่านั้นครับเพราะฉะนั้นถึงได้สั่งยาขี้ผึ้งนี่ผ่านกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียเป็นจำนวนมาก นำไปแจกจ่ายให้กับพวกลูกจ้าง เพราะคาดเดาความตั้งใจจริงของท่านเจ้าตระกูลกันไปเช่นนั้น”
ที่จริงมันก็เป็นเรื่องปกติเพราะตอนนี้เธออายุแค่แปดขวบนี่นะ
“แต่ข้ารู้จักคุณหนูดีครับ”
“ข้าเหรอคะ”
“บางทีไอเดียกับวิธีที่ใช้ผลิตยาขี้ผึ้งนี่ขึ้นมา คุณหนูคงจะเป็นคนคิดใช่มั้ยครับ ส่วนเอสทีร่าก็แค่เสริมความรู้ทางเทคนิคเข้าไปเท่านั้น ไม่ใช่เหรอครับ”
“ไม่ใช่ค่ะ! ข้าก็แค่ช่วยเอสทีร่าเฉยๆ จริงๆ นะคะ”
ก่อนอื่นต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปก่อน
แต่มันกลับสื่อออกไปไม่ถึงเครย์ลีบันตามคาด
“เช่นนั้นจะบอกว่าเอสทีร่าเป็นคนคิดค้นยาขี้ผึ้งนั่นหรือครับ”
“ใช่ค่ะ ส่วนสำคัญเอสทีร่าเป็นคนทำทั้งหมด…”
“ข้าพูดถึงไอเดียที่ไม่ได้คิดขายยาทั่วไปธรรมดา แต่ผสมขี้ผึ้งกับน้ำมันพืชลงไปเพื่อช่วยให้เนื้อยาเหนียวหนืด และก็เรื่องที่ผสมฮิปซีย์ลงไปต่างหากล่ะครับ”
“ก็เอสทีร่าฉลาดนี่คะ! ”
“แน่นอนว่าข้าเองก็ทราบดีครับ ว่าเอสทีร่าเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่นางไม่ใช่คนที่จะคิดออกนอกกรอบหรอกนะครับ”
ไม่สิ เขาไปประเมินเกี่ยวกับเอสทีร่าแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เครย์ลีบันทำท่าเหมือนกับแน่ใจอยู่แล้ว ว่าเรื่องที่ยาขี้ผึ้งนี่เป็นยาที่เธอเป็นคนชี้แนะ ไม่ใช่เอสทีร่า
ที่จริงตั้งแต่เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้เธอก็พอจะสังเกตได้อยู่ อย่างวันที่ประชุมถกเถียงกันเรื่องราคาเสื้อผ้าสำเร็จรูปกับท่านพ่อเครย์ลีบันทราบดีอยู่แล้วว่ากิจการเสื้อผ้าสำเร็จรูปครั้งนี้ เป็นกิจการที่ต้องเล็งเป้าไปยังการขายปริมาณมากที่ได้กำไรต่อหน่วยต่ำ
ดังนั้นที่ตอนนั้นจู่ๆ ก็ดึงเรื่องตั้งราคาสูงขึ้นมา ก็คงเพื่อจงใจถามความเห็นของเธอ
ตอนที่เธอรู้สึกได้ว่าท่าทางของเครย์ลีบันมีอะไรน่าสงสัย ก็เป็นหลังจากที่เวลาผ่านไปแล้วเล็กน้อย
ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่เห็นจะพูดอะไร เธอเลยตั้งใจจะปล่อยผ่านให้มันเป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิดของตัวเองแท้ๆ
จู่ๆ เธอกลับโดนโจมตีอย่างกะทันหันด้วยวิธีนี้เสียได้
เธอยิ้มเจ้าเล่ห์พลางเอ่ยถาม
“เรื่องที่คลาสวันนี้เลื่อนขึ้นมาเร็วหน่อย ให้คนมาบอกแค่เฉพาะข้าใช่มั้ยคะเนี่ย”
พอฟีเรนเทียพูดออกไป เครย์ลีบันเองก็กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนกับเธอ ก่อนจะเอ่ยตอบ
“ใช่ครับ ส่วนท่านอื่นๆ ได้รับข้อความว่าคลาสเรียนวันนี้ยกเลิกแทนครับ ข้าทำเช่นนั้นเพราะต้องการเวลาสนทนากับคุณหนูให้เรียบร้อยน่ะครับ ยกโทษให้ด้วยนะครับ”
“ไม่เห็นจำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยค่ะ แค่ถามเฉยๆ ข้าก็ตอบอยู่แล้วค่ะ”
เหมือนอย่างที่เครย์ลีบันทำฟีเรนเทียเองก็ทำลงไปเพื่อดูความคิดของเขาเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะทำตัวใสซื่อไปจนถึงที่สุดหรอก
มันอาจจะเร็วกว่าที่เธอวางแผนเอาไว้เล็กน้อย แต่ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นสักวันอยู่ดี
ในเมื่อเขาคือ เครย์ลีบัน เพลเลส
ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการใด ฟีเรนเทียก็ต้องทำให้เขากลายมาเป็นคนของเธอให้ได้ การที่อัจฉริยะทางด้านธุรกิจคนนี้เป็นฝ่ายให้ความสนใจและเข้าหาเธอก่อน มันยิ่งกลายเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับเธอด้วยซ้ำไป
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยพูดความจริงด้วยครับ”
เครย์ลีบันเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ในวินาทีนั้นเธอจึงสามารถรับรู้ได้หากตอนนี้เธอไม่ยอมตอบคำถามของเครย์ลีบันให้ดี ต่อไปไม่ว่าเธอจะใช้วิธีไหน ก็คงไม่อาจได้รับความร่วมมือจากอัจฉริยะมากความสามารถคนนี้อีกแล้ว
เธอยืดหลังตรง ขยับท่วงท่าให้เหมาะสม
“ก่อนอื่นที่อาจารย์คาดเดานั้นถูกต้องแล้วค่ะ ยาขี้ผึ้งนั่นข้าเป็นคนทำขึ้นมาโดยได้รับความช่วยเหลือจากเอสทีร่าค่ะ”
“ว่าแล้วเชียว…”
นัยน์ตาของเครย์ลีบันที่กำลังมองเธออยู่ส่องประกายระยิบระยับ
“เช่นนั้นกิจการครั้งนี้ของท่านแคลอฮัน ก็เป็นไอเดียของคุณหนูด้วยหรือครับ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ เรื่องขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปนั่นเป็นความคิดของท่านพ่อค่ะ”
“เสื้อผ้าสำเร็จรูป ใช่แล้ว เรียกแบบนั้นก็น่าจะได้นี่เองครับ”
อา ใช่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...