เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 4

“พรุ่งนี้? พรุ่งนี้บ่ายข้าต้องไป ‘งานเปิดตัวกิจการ’ อะไรนั่นที่ทางตระกูลเดวอนจัด…”

“พรุ่งนี้ก็ขอฝากเจ้าชายลำดับที่หนึ่งด้วยนะ ดิวอิจ”

จักรพรรดินีราวีนี่ยิ้มงามสง่าในขณะที่เดินย่างกรายเข้ามาข้างในแต่พระองค์ไม่แม้แต่จะหันไปมองอาสทาน่า

นางยังคงเอาแต่พูดกับดิวอิจ อังเกนัสผู้เป็นน้องชายของตัวเอง

“พรุ่งนี้เจ้าชายลำดับที่หนึ่งจะไม่ไปงานเลี้ยงของตระกูลเดวอน ดังนั้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ แล้วเริ่มการเรียนการสอนกันเลยดีมั้ย”

“สะ เสด็จแม่!”

อาสทาน่าเอ่ยเรียกมารดาราวกับต้องการประท้วง แต่มันก็ไร้ประโยชน์

จักรพรรดินีราวีนี่ยังคงแย้มยิ้มเหมือนเคยก็จริง แต่นัยน์ตาเย็นชาคู่นั้นกลับจับจ้องไปที่อาสทาน่า แล้วเอ่ยขึ้นว่า

“เท่าที่ได้ยินมา มันเป็นงานที่รวมพวกพ่อค้าชั้นต่ำ หรือไม่ก็ชนชั้นสูงระดับล่าง ที่ไม่มีปัญญาหาซื้อของที่ต้องการด้วยตัวเองได้เท่านั้น สถานที่แบบนั้นเจ้าชายไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มค่าให้หรอกค่ะ”

อันที่จริงมันเป็นคำขอร้องของเซรัลที่ไม่ต้องการให้อาสทาน่าไปร่วมงานเปิดตัวกิจการของตระกูลเดวอน

“แต่กระหม่อมอยากไปพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าชาย คิดจะเมินเฉยคำพูดของมารดาคนนี้หรือคะ”

เสด็จแม่ที่เขาหวาดกลัวมาโดยตลอด

แต่อาสทาน่าก็ยังดึงดันเงยหน้าขึ้นด้วยความรู้สึกต่อต้านที่ปะทุอยู่ในใจ

ทำไมเขาจะต้องฟังคำพูดของเสด็จแม่ด้วยล่ะ

ทำไมต้องได้รับคำอนุญาตจากเสด็จแม่ไปเสียทุกเรื่อง

เจ้าชายลำดับที่หนึ่งของอาณาจักรคือเขา ไม่ใช่เสด็จแม่เสียหน่อย!

อาสทาน่าพยักหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง แสร้งทำเป็นยอมโอนอ่อนเชื่อฟัง

และมองสีหน้าเย็นชาของจักรพรรดินีที่เริ่มผ่อนคลายลงบ้างก่อนจะเอ่ยถาม

“งั้นเสด็จแม่ก็จะไม่เข้าร่วมหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“แน่นอนสิ ข้าต้องไปร่วมงานเลี้ยงอันแสนยิ่งใหญ่ทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น การทำให้ชนชั้นสูงสามัคคีปรองดองเข้ากันได้ดี เป็นหน้าที่ของจักรพรรดินีนี่คะ”

“…คงจะยุ่งน่าดูนะพ่ะย่ะค่ะ”

อาสทาน่าอดกลั้นเสียงหัวเราะเย้ยหยันที่เกือบหลุดออกมาตามธรรมชาติในขณะที่คิดขึ้นว่า

ถ้าอย่างนั้นงานเปิดตัวนั่น เขาแอบไปคนเดียวก็ได้

การหลบออกไปจากพระราชวังโดยไม่ให้พวกอัศวินพบเข้า เป็นเรื่องง่ายดายขนาดหลับตาก็ยังทำได้

หลังจากนั้นคงได้ฟังเสียงบ่นจนหูชา แต่แล้วยังไง เสด็จแม่จะทำอะไรเขาได้

ตอนนี้อาสทาน่าไม่เกรงกลัวจักรพรรดินีอีกต่อไปแล้ว

“ใช่แล้วละค่ะ ดังนั้นเจ้าชายลำดับที่หนึ่งก็ต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียน จะได้ทำให้ข้าดีใจยังไงล่ะคะ”

อาสทาน่าตอบพร้อมรอยยิ้มเชื่อฟังให้กับคำพูดของจักรพรรดินีราวีนี่

“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่”

* * *

คฤหาสน์ตระกูลเดวอนเปิดประตูกว้างต้อนรับแขกเหรื่อทั้งหลายที่มาเยือน

งานที่เรียกว่างานเปิดตัวนำเสนอกิจการที่จัดขึ้นครั้งนี้ มันเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ผู้คนไม่คุ้นเคย

แต่ถ้อยคำที่เขียนไว้บนบัตรเชิญอย่าง ‘งานเลี้ยงเปิดตัวแนะนำวิธีการซื้อสินค้ารูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน’ นั่น เป็นตัวกระตุ้นชั้นยอดที่ทำให้ชนชั้นสูงมากมายตบเท้าพากันมาร่วมงาน

และจุดที่แตกต่างจากงานเลี้ยงอื่นๆ ของงานเปิดตัวกิจการครั้งนี้ก็คือ ในบรรดาแขกเหรื่อที่ทยอยเดินทางมาถึง ไม่ได้มีเพียงแค่ชนชั้นสูงเท่านั้น แต่ยังมีพ่อค้าปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก

โนเชียร์ผู้มาร่วมงานวันนี้ในฐานะหัวหน้ากลุ่มการค้าโมนัคเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายลำดับที่สองที่เขาคอยรับใช้ กับฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย หัวเรี่ยวหัวแรงในการผลักดันกิจการใหม่ของกลุ่มคมนาคมลอมบาร์เดียก็จริง

แต่ความใคร่รู้ต่างหากล่ะ ที่เป็นเหตุผลหลักในการดึงดูดเท้าของโนเชียร์ให้เดินทางมาถึงที่นี่

เขาอยากรู้เหลือเกินว่า ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ‘ไปรษณีย์’ มันคืออะไรกันแน่

ทันทีที่โนเชียร์ก้าวเท้าลงจากรถม้าและเดินเข้าไปยังโถงงานเลี้ยงของตระกูลเดวอน เขาก็ได้พบกับเหล่าพนักงานของกลุ่มคมนาคมลอมบาร์เดียที่กำลังยิ้มสดใสต้อนรับผู้คนมากมาย

“สวัสดีครับ เชิญครับ!”

“ทางด้านนี้มีเครื่องดื่มง่ายๆ จัดเตรียมเอาไว้นะคะ”

“ทางนี้ครับ เชิญเข้าไปได้เลยครับ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]