“พรุ่งนี้? พรุ่งนี้บ่ายข้าต้องไป ‘งานเปิดตัวกิจการ’ อะไรนั่นที่ทางตระกูลเดวอนจัด…”
“พรุ่งนี้ก็ขอฝากเจ้าชายลำดับที่หนึ่งด้วยนะ ดิวอิจ”
จักรพรรดินีราวีนี่ยิ้มงามสง่าในขณะที่เดินย่างกรายเข้ามาข้างในแต่พระองค์ไม่แม้แต่จะหันไปมองอาสทาน่า
นางยังคงเอาแต่พูดกับดิวอิจ อังเกนัสผู้เป็นน้องชายของตัวเอง
“พรุ่งนี้เจ้าชายลำดับที่หนึ่งจะไม่ไปงานเลี้ยงของตระกูลเดวอน ดังนั้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ แล้วเริ่มการเรียนการสอนกันเลยดีมั้ย”
“สะ เสด็จแม่!”
อาสทาน่าเอ่ยเรียกมารดาราวกับต้องการประท้วง แต่มันก็ไร้ประโยชน์
จักรพรรดินีราวีนี่ยังคงแย้มยิ้มเหมือนเคยก็จริง แต่นัยน์ตาเย็นชาคู่นั้นกลับจับจ้องไปที่อาสทาน่า แล้วเอ่ยขึ้นว่า
“เท่าที่ได้ยินมา มันเป็นงานที่รวมพวกพ่อค้าชั้นต่ำ หรือไม่ก็ชนชั้นสูงระดับล่าง ที่ไม่มีปัญญาหาซื้อของที่ต้องการด้วยตัวเองได้เท่านั้น สถานที่แบบนั้นเจ้าชายไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มค่าให้หรอกค่ะ”
อันที่จริงมันเป็นคำขอร้องของเซรัลที่ไม่ต้องการให้อาสทาน่าไปร่วมงานเปิดตัวกิจการของตระกูลเดวอน
“แต่กระหม่อมอยากไปพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าชาย คิดจะเมินเฉยคำพูดของมารดาคนนี้หรือคะ”
เสด็จแม่ที่เขาหวาดกลัวมาโดยตลอด
แต่อาสทาน่าก็ยังดึงดันเงยหน้าขึ้นด้วยความรู้สึกต่อต้านที่ปะทุอยู่ในใจ
ทำไมเขาจะต้องฟังคำพูดของเสด็จแม่ด้วยล่ะ
ทำไมต้องได้รับคำอนุญาตจากเสด็จแม่ไปเสียทุกเรื่อง
เจ้าชายลำดับที่หนึ่งของอาณาจักรคือเขา ไม่ใช่เสด็จแม่เสียหน่อย!
อาสทาน่าพยักหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง แสร้งทำเป็นยอมโอนอ่อนเชื่อฟัง
และมองสีหน้าเย็นชาของจักรพรรดินีที่เริ่มผ่อนคลายลงบ้างก่อนจะเอ่ยถาม
“งั้นเสด็จแม่ก็จะไม่เข้าร่วมหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“แน่นอนสิ ข้าต้องไปร่วมงานเลี้ยงอันแสนยิ่งใหญ่ทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น การทำให้ชนชั้นสูงสามัคคีปรองดองเข้ากันได้ดี เป็นหน้าที่ของจักรพรรดินีนี่คะ”
“…คงจะยุ่งน่าดูนะพ่ะย่ะค่ะ”
อาสทาน่าอดกลั้นเสียงหัวเราะเย้ยหยันที่เกือบหลุดออกมาตามธรรมชาติในขณะที่คิดขึ้นว่า
ถ้าอย่างนั้นงานเปิดตัวนั่น เขาแอบไปคนเดียวก็ได้
การหลบออกไปจากพระราชวังโดยไม่ให้พวกอัศวินพบเข้า เป็นเรื่องง่ายดายขนาดหลับตาก็ยังทำได้
หลังจากนั้นคงได้ฟังเสียงบ่นจนหูชา แต่แล้วยังไง เสด็จแม่จะทำอะไรเขาได้
ตอนนี้อาสทาน่าไม่เกรงกลัวจักรพรรดินีอีกต่อไปแล้ว
“ใช่แล้วละค่ะ ดังนั้นเจ้าชายลำดับที่หนึ่งก็ต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียน จะได้ทำให้ข้าดีใจยังไงล่ะคะ”
อาสทาน่าตอบพร้อมรอยยิ้มเชื่อฟังให้กับคำพูดของจักรพรรดินีราวีนี่
“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่”
* * *
คฤหาสน์ตระกูลเดวอนเปิดประตูกว้างต้อนรับแขกเหรื่อทั้งหลายที่มาเยือน
งานที่เรียกว่างานเปิดตัวนำเสนอกิจการที่จัดขึ้นครั้งนี้ มันเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ผู้คนไม่คุ้นเคย
แต่ถ้อยคำที่เขียนไว้บนบัตรเชิญอย่าง ‘งานเลี้ยงเปิดตัวแนะนำวิธีการซื้อสินค้ารูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน’ นั่น เป็นตัวกระตุ้นชั้นยอดที่ทำให้ชนชั้นสูงมากมายตบเท้าพากันมาร่วมงาน
และจุดที่แตกต่างจากงานเลี้ยงอื่นๆ ของงานเปิดตัวกิจการครั้งนี้ก็คือ ในบรรดาแขกเหรื่อที่ทยอยเดินทางมาถึง ไม่ได้มีเพียงแค่ชนชั้นสูงเท่านั้น แต่ยังมีพ่อค้าปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก
โนเชียร์ผู้มาร่วมงานวันนี้ในฐานะหัวหน้ากลุ่มการค้าโมนัคเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายลำดับที่สองที่เขาคอยรับใช้ กับฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย หัวเรี่ยวหัวแรงในการผลักดันกิจการใหม่ของกลุ่มคมนาคมลอมบาร์เดียก็จริง
แต่ความใคร่รู้ต่างหากล่ะ ที่เป็นเหตุผลหลักในการดึงดูดเท้าของโนเชียร์ให้เดินทางมาถึงที่นี่
เขาอยากรู้เหลือเกินว่า ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ‘ไปรษณีย์’ มันคืออะไรกันแน่
ทันทีที่โนเชียร์ก้าวเท้าลงจากรถม้าและเดินเข้าไปยังโถงงานเลี้ยงของตระกูลเดวอน เขาก็ได้พบกับเหล่าพนักงานของกลุ่มคมนาคมลอมบาร์เดียที่กำลังยิ้มสดใสต้อนรับผู้คนมากมาย
“สวัสดีครับ เชิญครับ!”
“ทางด้านนี้มีเครื่องดื่มง่ายๆ จัดเตรียมเอาไว้นะคะ”
“ทางนี้ครับ เชิญเข้าไปได้เลยครับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...