ตอนที่ 138
อาสทาน่าเดินเข้ามาภายในโถงจัดงานเปิดตัวกิจการของตระกูลเดวอน เขาได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
“ว้าว…”
เหมือนกับเข้ามาอยู่คนละโลกเลย
เพราะบรรยากาศที่แตกต่างจากงานเลี้ยงงานอื่นหรือเปล่านะ หรือเป็นเพราะผู้คนมากมายที่มาร่วมงานกันแน่
หรือเป็นเพราะเหล้าที่เขาดื่มจนเต็มอิ่ม ระหว่างทางที่ควบม้ามาถึงเขตแดนลอมบาร์เดียก็ไม่อาจรู้ได้แล้ว
“ว่าแล้วเชียว เสด็จแม่นั่นแหละพลาดไปแล้ว”
ไหนว่าเป็นงานเลี้ยงไม่สลักสำคัญยังไงล่ะ ช่างพูดออกมาได้ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด
ขนาดเขาตั้งใจมาสายขนาดนี้ ภายในโถงจัดงานเลี้ยงก็ยังเต็มแน่นไปด้วยผู้คน
และดูจากการที่ทุกคนตื่นเต้นให้ความสนใจกันมากขนาดนี้ ไม่ว่ากิจการที่ว่านี่จะเป็นกิจการอะไรก็ตาม มันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าจะต้องประสบความสำเร็จเป็นแน่
ตุบ
ใครบางคนเดินชนไหล่ของเขา
มันเป็นความผิดของอาสทาน่าที่มัวแต่ยืนเหม่อขวางทางในพื้นที่ที่ทุกคนกำลังยุ่งวุ่นวายกันอยู่
“เฮ้ย!”
อาสทาน่าขมวดคิ้วแน่น เขาตะโกนเรียกชนชั้นสูงที่ดูธรรมดาคนนั้นเอาไว้ แต่คนคนนั้นกลับทำเพียงแค่กวาดสายตามองอาสทาน่าตั้งแต่หัวจรดเท้าทำให้เขายิ่งรู้สึกอารมณ์เสียมากกว่าเดิม แล้วหมุนตัวเดินหายเข้าไปในงานโดยไม่คิดขอโทษ
“ให้ตายเถอะ ใส่ชุดถูกๆ มาแล้วดันเกิดเรื่องแบบนี้เสียได้”
อาสทาน่าสวมชุดเก่าๆ ราคาถูกเพื่อแอบลอบออกมาจากพระราชวังโดยไม่ให้ใครรู้ ดังนั้นในที่แห่งนี้จึงไม่มีใครมองออกว่าอาสทาน่าเป็นถึงเจ้าชาย
“ชิส์”
เพราะไม่ได้พกสิ่งของที่สามารถใช้ยืนยันฐานะของตัวเองมาด้วยเลยสักชิ้น เขาจึงไม่อาจกระชากตัวไอ้อันธพาลนั่นมาขู่ให้กลัวได้
อาสทาน่าเดินโงนเงนด้วยฤทธิ์เหล้า เขาลากเท้าเดินเซถลาลึกเข้าไปในโถงจัดงาน
“จะลงทะเบียนสำหรับใช้บริการไปรษณีย์ต้องไปที่ไหนเหรอครับ”
“สินค้าตัวนี้สามารถซื้อได้กี่อันหรือครับ”
เสียงดังโหวกเหวกของผู้คนดังเซ็งแซ่ขึ้นทุกสารทิศ
“โอ๊ะ เจ้า!”
อาสทาน่าหันไปมองรอบๆ งานพลางหัวเราะเสียงดังคิกคัก ก่อนจะคว้าแขนข้ารับใช้ที่เดินถือถาดแก้วไวน์เดินผ่านมาในละแวกนั้นพอดีอย่างแรง
“โอ๊ะ!”
เพล้ง
เพราะอย่างนั้นแก้วแชมเปญหลายใบจึงร่วงหล่นลงพื้น แตกเพล้งกระจายไปทั่ว แต่อาสทาน่าไม่คิดสนใจเลยสักนิดว่าตัวเองก่อเรื่องอะไรลงไป
เขาเพียงแค่เหลือบมองคนงานที่ดูจะตื่นตระหนกเกินควร แล้วยกแก้วแชมเปญในมือตัวเองขึ้นดื่ม พลางเดินสำรวจงานต่อเท่านั้น
ผ่านไปไม่นานอาสทาน่าก็ยืนพิงกำแพงอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าออก
เพราะเมามายมากจนฤทธิ์แอลกอฮอล์พุ่งจี๊ดขึ้นหัว ทำให้เดินต่อไปไม่ไหว
“น่าทึ่งจริงๆ”
แต่สีหน้าของอาสทาน่ากลับดูแตกต่างไปจากเมื่อครู่เล็กน้อย
ใบหน้าที่เคยชอบใจด้วยความรู้สึกทึ่งเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกไม่สบายใจ
“ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย…”
เห็นว่ากิจการเปิดใหม่กับงานเลี้ยงในวันนี้ เป็นงานที่บุตรสาวของแคลอฮัน ลอมบาร์เดียเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการลงมือบริหารจัดการด้วยตัวเอง
“ก็ว่าไม่ธรรมดามาตั้งแต่เด็กแล้ว”
นับตั้งแต่วันที่ผู้หญิงคนนั้นเก็บหมวกของอาสทาน่าโยนทิ้งไป ฟีเรนเทียก็เริ่มเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องประหลาดมากมายรอบตัวเขา
เพราะฉะนั้นในตอนเด็ก พอได้ยินชื่อ ‘ฟีเรนเทีย’ ทีไร เขาก็ได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโมโหอยู่บ่อยครั้ง
แต่พออายุเพิ่มมากขึ้น ความรู้สึกมันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป
ในเวลาที่ทุกคนพยายามทำตัวเองให้ดูดีต่อหน้าอาสทาน่า ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดียไม่เคยทำเช่นนั้น
ประเด็นนั้นทำให้เขารู้สึกสนใจ แต่ก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน
“โอหัง”
มองไปเห็นฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดียยืนอยู่ไกลๆ ตรงด้านนั้น
ขนาดจัดงานเลี้ยงที่ผู้คนมากมายมารวมตัวกันขนาดนี้ ก็ยังไม่มีสีหน้าตื่นเต้นให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
“เย่อหยิ่ง”
ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเข้าใจเสด็จแม่ที่เกลียดชังลอมบาร์เดียเลยสักครั้ง
แต่ในตอนนี้ กระทั่งอาสทาน่าเองก็ชักเริ่มจะเข้าใจความรู้สึกนั่นแล้ว
“ลอมบาร์เดีย…”
นัยน์ตาแดงก่ำเมามายของอาสทาน่าเหม่อมองฟีเรนเทียที่ยืนเชิดหน้าด้วยความมั่นอกมั่นใจอยู่ตรงนั้น สลับกับโถงจัดงานเลี้ยงหรูหราอลังการ
ในตอนนั้นเอง สายตาของอาสทาน่าก็พลันมองไปเห็นหญิงสาวนางหนึ่งที่กำลังเดินชมงานศิลปะจากองค์กรทุนการศึกษาลอมบาร์เดียเข้าพอดี
“ลาลาเน่ ลอมบาร์เดีย?”
นั่นคือลาลาเน่ พี่สาวของเบเลซักชัดๆ
ผอมบาง อ่อนแอ ทึ่มทื่อ ขี้กลัว
สายเลือดลอมบาร์เดียอีกคนที่ดูยังไงก็แตกต่างกับฟีเรนเทียอย่างสุดขั้ว
แต่แล้วในจังหวะที่อาสทาน่าแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ตั้งใจจะเดินเข้าไปหาลาลาเน่
มือแกร่งข้างหนึ่งก็คว้าเข้าที่แขนของอาสทาน่าอย่างแรง
“ดูเหมือนจะเมามากแล้ว ออกไปเถอะครับ”
เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ทางงานจ้างมาเพื่อดูแลความเรียบร้อยของงานนั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...