“อาจารย์เครย์ลีบันคิดที่จะขายต้นทรีบ้าในครอบครอง กลับคืนไปให้พวกตระกูลทางเหนือรวมถึงตระกูลไอบัน เพื่อให้พวกเขานำไปใช้ในการฟื้นฟูสิ่งก่อสร้างค่ะ ขายให้โดยไม่คิดค่าขนส่งด้วย และข้าก็อยากให้ลอมบาร์เดียเข้ามาร่วมในเรื่องนี้ค่ะ”
“ฟังดูไม่เหมือนกับบอกให้ลอมบาร์เดียเป็นผู้ซื้อไม้ส่งไปทางเหนือเลยนะ”
“สิ่งที่เขตแดนซึ่งประสบภัยต้องการมากพอกันกับวัสดุที่แข็งแกร่ง ยังมีนายช่างมากฝีมืออยู่ด้วยไม่ใช่เหรอคะ ท่านปู่”
“พูดถึงนายช่างวิศวกรทั้งหลายของกลุ่มก่อสร้างลอมบาร์เดียนี่เอง”
ว่าแล้วเชียวท่านปู่มองความคิดของเธอออกได้ในทันทีเลย
“แน่นอนว่าคงจะงานยุ่งเพราะโครงการพัฒนาอังเกนัสด้วย แต่ว่า…”
เธอพึมพำเสียงค่อย ในขณะที่แอบลอบสังเกตท่าทีของท่านปู่ไปด้วย
เป็นอย่างที่เธอคิดไม่มีผิด
พอเรื่องโครงการพัฒนาอังเกนัสหลุดออกมาจากปากเธอ ใบหน้าของท่านปู่ก็พลันบึ้งตึงในทันที
เบเจอร์ไม่เพียงแต่ทำสัญญาน่าขันอย่างการรับเงินค่าจ้างในภายหลัง แต่ในตอนนี้ยังขาดวัสดุอย่างไม้ขึ้นมาอีก ทำให้การก่อสร้างทั้งหมดต้องหยุดชะงัก
ท่านปู่เองก็คงจะกังวลมากทีเดียวแต่ก็เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น
เพียงไม่นานท่านปู่ก็เอ่ยว่าเสียงขรึม
“นายช่างกลุ่มที่สองกำลังจะเดินทางไปสมทบกับทางภาคตะวันตกพอดี ให้พวกเขาแวะเขตเหนือเสียก่อน ก็ไม่เสียหายอะไรนัก”
“ถ้าอย่างนั้น…?”
“ได้ ปู่จะส่งสารไปหาเครย์ลีบันเอง”
เรียบร้อย
แบบนี้ทางเขตเหนือโดยเฉพาะตระกูลไอบันก็จะติดหนี้บุญคุณทั้งลอมบาร์เดียและร้านค้าเพลเลสในคราวเดียว
“อ๊า คงจะเท่น่าดู”
“เท่หรือ หมายถึงอะไร”
“การประชุมใหญ่ในอีกไม่กี่วันให้หลังน่ะค่ะ ถ้าท่านปู่พูดว่า ‘ลอมบาร์เดียจะช่วยเหลือทางเขตเหนือเช่นนี้!’ คงจะดูเท่มากเลยละค่ะ!”
ความเท่เหนือระดับ ต่างชั้นกับพวกขุนนางคนอื่นๆ ที่เอาแต่หวาดกลัวว่าจะต้องเสียเงินสักเหรียญในการให้ความช่วยเหลือกู้ภัย!
นี่แหละ ถึงจะสมกับเป็นลอมบาร์เดีย!
“ฮ่าฮ่า เด็กคนนี้นี่นะ”
ท่านปู่หัวเราะฮ่าฮ่า ดูจะชอบใจกับคำพูดของเธอ
เธอฉวยจังหวะนี้ยื่นข้อเสนอเพิ่มทันที
“ก่อนจะถึงการประชุม ท่านปู่เรียกตัวแทนเจ้าตระกูลไอบันมาพูดคุยด้วยตัวเองก่อนดีมั้ยคะ เดิมทีข่าวดีๆ แบบนี้ ต้องบอกกันต่อหน้าถึงจะถูกไม่ใช่เหรอคะ!”
ไม่รู้หรอกว่ามีคำกล่าวเช่นนั้นอยู่จริงๆ หรือเปล่า แต่มันก็ต้องทำแบบนั้นไม่ใช่เหรอ!
คำพูดของเธอทำให้ท่านปู่หยุดคิดไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยว่า
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าลองทำดูเป็นยังไงล่ะ”
“…คะ”
“เจ้าลองพูดกับตัวแทนเจ้าตระกูลไอบันเองโดยตรงเป็นเช่นไร”
คราวนี้เธอตกใจมากจริงๆ
ถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าตระกูลไอบันมาเองก็เถอะ แต่ยังไงก็เป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ตัวแทนเจ้าตระกูล’ อย่างเป็นทางการ
สนทนากับคนเช่นนั้นโดยตรงอย่างนั้นเหรอนี่มันเรื่องใหญ่สุดๆ ไปเลย!
เธอเหม่อมองท่านปู่ที่เฝ้ารอเธออยู่เงียบๆ ไม่เร่งรัดอะไร
ท่านปู่จะคิดว่าเธอจะตอบอะไรกันนะ
ภายใต้ใบหน้าที่ยังคงดูอ่อนโยนเหมือนเคยนั่นจะคาดหวังอะไรอยู่
เธอเอ่ยตอบออกไปอย่างมั่นใจ
“หากเชื่อใจข้า เช่นนั้นข้าก็จะขอลองทำให้เต็มที่เลยค่ะ ท่านปู่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...