“ในการประชุมวันพรุ่งนี้ สมควรที่จะวางแผนเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีกรอบค่ะ วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ ให้ทุกคนที่ต้องรับผิดชอบเหตุดินถล่มคราวนี้ ได้รับโทษที่เหมาะสมยังไงล่ะคะ”
“โทษ…”
“แน่นอนว่าทางเหนือต้องเสียหายอย่างหนัก เพราะเหตุดินถล่มไปแล้ว เพียงแค่มุ่งมั่นลงแรงกับการฟื้นฟูก็พอแล้วค่ะ”
“อา…”
สายตาของตัวแทนเจ้าตระกูลไอบันสั่นไหวอีกครั้ง
หมายความว่า ต้องการให้เขาเป็นกำลังเสริมในการต่อสู้กับจักรพรรดินีและตระกูลอังเกนัส
ดูเหมือนตัวแทนเจ้าตระกูลเองก็เข้าใจความหมายที่เธอต้องการสื่อเป็นอย่างดี
“ถึงคราวข้าพูดบ้างแล้วสินะ”
ท่านปู่ที่นั่งฟังบทสนทนาระหว่างเธอกับตัวแทนเจ้าตระกูลไอบันอยู่เงียบๆ มาโดยตลอด เอ่ยปากพูดขึ้น
ท่านปู่เริ่มบอกกล่าวคำพูดทั้งหลายซึ่งตัวแทนเจ้าตระกูลไอบันสมควรจะพูดในการประชุมใหญ่
ตัวแทนเจ้าตระกูลเองก็นั่งฟังอยู่เงียบๆ ไม่โต้แย้งอะไร พลางพยักหน้าตอบรับไปด้วย
คำพูดพวกนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าฝืนใจอะไรนัก เพราะเท่าที่ฟังดู คำพูดพวกนั้นก็เป็นเรื่องที่ไอบันสามารถพูดออกไปได้โดยไม่กระทบกระเทือนฐานะของตัวเองอยู่แล้ว
“ถ้าอย่างนั้นไว้พบกันพรุ่งนี้นะครับ”
ตัวแทนเจ้าตระกูลไอบันกล่าวลาท่านปู่ด้วยความนอบน้อม แล้วจึงปลีกตัวออกไปจากห้องทำงาน
เมื่อเหลืออยู่ตามลำพัง เธอกับท่านปู่ก็ดื่มด่ำกับความเงียบสงบกันอยู่ครู่หนึ่ง และท่านปู่ก็ยิ้มกว้างหันมาพูดกับเธอ
“ไม่ใช่ย่อยเลยนะ”
เธอเองก็ตอบกลับท่านปู่ไปเช่นกัน
“ท่านปู่ก็เช่นกันค่ะ”
“อะไรนะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เสียงหัวเราะของท่านปู่ดังก้องไปทั่วห้องทำงาน
ท่านปู่หัวเราะเสียงดังจนริ้วรอยเด่นชัดขึ้นมาบนใบหน้า ท่านยกมือขึ้นลูบศีรษะเธอด้วยความเอ็นดู
“ใช่ สมแล้วที่เจ้าเป็นหลานสาวข้า ดูจากการเกลี้ยมกล่อมตัวแทนเจ้าตระกูลไอบันก็เห็นได้ชัดเลยละ”
หลานสาวของท่านปู่
ไม่ว่าจะได้ยินกี่ครั้ง ทุกครั้งที่ได้ยินก็ทำเอาเธอรู้สึกตื้นตันใจจนอยากร้องไห้
เธอเก็บความรู้สึกอ่อนไหวลงไป แล้วฉีกยิ้มกว้างออกมาแทน
“ข้าก็แค่กอบโกยความดีความชอบ โดยใช้ในสิ่งที่ลอมบาร์เดียมีอยู่แล้วเท่านั้นเองนี่คะ”
ท่านปู่เอ่ยกับเธอที่นั่งยักไหล่ไม่แยแสอะไรนักด้วยแววตาเปล่งประกายวาววับแปลกๆ ชอบกล
“ก็จริง ลอมบาร์เดียจะโอ้อวดในสิ่งที่ลอมบาร์เดียเป็นเจ้าของแล้วใครมันจะทำไม”
“ฮ่าฮ่า!”
คราวนี้เป็นเธอบ้างที่ต้องระเบิดหัวเราะเสียงดัง
ว่าแล้วเชียว
ท่านปู่ของเธอน่ะ เท่ที่สุดเลย
* * *
การประชุมใหญ่ถูกจัดขึ้นเพื่อหารือเรื่องให้ความช่วยเหลือเขตแดนเหนือ
เนื่องจากไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งจะจัดการประชุมตามระเบียบวาระไป ทำให้มีขุนนางหลายคนไม่ชอบใจนัก แต่ในการประชุมที่มีทั้งองค์จักรพรรดิและเจ้าชายทั้งสองพระองค์เข้าร่วมด้วย ย่อมไม่มีใครกล้าอวดดีท้วงติงอะไรออกไป
ภายในห้องประชุมมีเสียงโหวกเหวกเล็กน้อย เพราะขุนนางหลายคนใช้ข้ออ้างเรื่องข่าวการเสียชีวิตของเจ้าตระกูลอังเกนัส เพื่อเข้าไปพูดคุยกับอาสทาน่า
“พระองค์คงจะใจสลายมากเลยใช่มั้ยพ่ะย่ะค่ะเจ้าชายลำดับที่หนึ่ง”
“ก็มีเสียใจอยู่บ้าง แต่ข้าไม่เป็นอะไรหรอก แต่เสด็จแม่น่ะสิ เสียพระทัยมากจนเสวยอะไรไม่ลง ไม่อาจลุกขึ้นจากเตียงได้เลย”
อาสทาน่าสวมชุดไว้ทุกข์สีดำสนิท เอาแต่ร่ายคำพูดเดิมๆ เหมือนนกแก้ว
“เริ่มการประชุมกันได้แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...