เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 4

เหตุผลที่มิเคนเต้ ไอบัน ชวนเธอมาพบที่ลานก่อสร้างสะพานแห่งนี้นั้นเรียบง่ายมาก

เพราะอยากจะให้เธอได้เห็นด้วยตาตัวเองว่า สะพานกำลังถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ด้วยความช่วยเหลือจากลอมบาร์เดีย

เธอกับมิเคนเต้ ไอบันหันไปมองรอบๆ ที่ผู้คนมากมายกำลังแบกไม้ไว้บนไหล่ ขยับตัวกันอย่างยุ่งวุ่นวาย พลางสนทนากันไปด้วย

“ได้ยินเรื่องราวจากสารที่ท่านพี่ส่งมาให้เมื่อคืนนี้แล้วครับ เห็นว่าในตอนที่ทุกคนต่างก็เบือนหน้าหนีพวกเราไอบัน คนแรกที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคือคุณหนู”

ผ่านไปแค่คืนเดียวท่าทางของมิเคนเต้ ไอบันที่แสดงออกต่อเธอกลับดูดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด

เดิมทีไม่ใช่แค่กับเฟเรสเท่านั้น แต่เขาเป็นคนรักษามารยาทที่พึงมีกระทั่งเวลาปฏิบัติต่อเธอ กับอาบีน็อกซ์ด้วยเช่นกัน

แต่ท่าทางที่เขาปฏิบัติต่อเธอในตอนนี้ มีกระทั่งความเคารพนับถือแฝงอยู่ด้วย

“ข้าจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลยครับ คุณหนูลอมบาร์เดีย”

“พูดเกินไปแล้วค่ะ ท่านชายไอบัน”

พอคิดว่าเธอสามารถทำให้เจ้าตระกูลไอบันในอนาคตประทับใจได้สำเร็จ ก็พลอยทำให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที

แต่เธอก็ยังยิ้มถ่อมตัวจนถึงที่สุด พลางเอ่ยตอบกลับไป

“ข้าเองก็บอกท่านลอนเชนต์เช่นนี้เหมือนกันค่ะ เวลาลำบากก็ควรที่จะช่วยเหลือกันและกัน มันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ”

แม้จะเป็นคำพูดที่ค่อนข้างจะธรรมดาทั่วไป แต่ดูเหมือนมิเคนเต้ ไอบันจะรู้สึกซึ้งมากจากใจจริง

“กล่าวได้ถูกต้องแล้วครับ!”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ

“ต่อไปหากมีเรื่องใดที่ข้าสามารถช่วยเหลือคุณหนูได้ ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่หนข้าก็จะช่วยครับ”

โถ เด็กน้อย ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วละจ้ะเจ้าตระกูลไอบันกับเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียก็ต้องจับมือคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันสิจ๊ะ

ในระหว่างที่เดินชมแถวนั้นได้หนึ่งรอบใครบางคนก็เดินมาหามิเคนเต้ ไอบันถึงลานก่อสร้างน่าจะเป็นคนที่ทางเจ้าตระกูลไอบันส่งตัวมาละมั้ง

“ท่านเจ้าตระกูลเรียกตัวท่านมิเคนเต้ด่วนครับ คงจะต้องเดินทางกลับคฤหาสน์ทันทีละครับ”

“…เข้าใจแล้ว” สีหน้าของคนที่มาแจ้งข่าวดูไม่ปกติเอาเสียเลย

มิเคนเต้ ไอบันเองก็คงจะรู้สึกได้เช่นกัน สีหน้าของเขาจึงนิ่งไป

“ไปเถอะค่ะ ข้าจะอยู่ดูลานก่อสร้างต่ออีกหน่อย แล้วเดี๋ยวค่อยกลับ”

“ครับ เช่นนั้นไว้พบกันที่คฤหาสน์นะครับ”

หลังจากนั้นเธอก็อยู่สนทนากับเหล่าวิศวกรก่อสร้างจากลอมบาร์เดียที่ลานก่อสร้างต่ออีกสักพัก

เพื่อจะตรวจเช็กให้แน่ใจว่าพวกเขายังมีอะไรที่ต้องการเพิ่มเติมในการทำงานให้ลุล่วงอย่างปลอดภัยอีกหรือเปล่า

หลังจากสนทนากันจบ เธอก็เดินกลับไปขึ้นรถม้า เพราะท้องฟ้าวันนี้มีเมฆครึ้มดูมืดสลัวเร็วกว่าที่เคย

ลานก่อสร้างสะพานไม่ได้ไกลจากป้อมปราการไอบันเท่าไหร่แค่ผ่านเนินเขาที่ถูกเคลียร์พื้นที่เนื่องจากดินถล่มไปไม่กี่เนินก็ถึงแล้ว

ภายในรถม้าที่สั่นคลอนโยกเยกไปตามทาง เธอมีเพียงแค่ความคิดเดียวเท่านั้นต้องรีบกลับห้องไปแช่น้ำอุ่นๆ ในอ่างสักหน่อย

ทั้งที่ตอนเดินชมสะพานก็พยายามเดินอย่างระมัดระวังทุกย่างก้าว แต่ก็ยังเลอะโคลนจนเท้าเย็นไปหมด

“โว้วๆ”

แต่จู่ๆ รถม้าที่วิ่งมาสักพักกลับค่อยๆ ลดความเร็วลงอย่างช้าๆ

“มีเรื่องอะไรเหรอคะ”

“ข้างหน้ามีรถม้าตระกูลไอบันจอดขวางอยู่ครับ เหมือนว่าล้อจะพัง เอายังไงดีครับ”

สารถีรถม้าถามเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]