เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 4

เล่ม 4 บทที่ 157.2

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ความจริงเรื่องที่กลุ่มก่อสร้างลอมบาร์เดียยังไม่ได้รับเงินค่าก่อสร้างกลับคืนมา

ดังนั้นในสายตาของพวกเขาจึงมองเห็นแค่ว่า การร่วมมือกันระหว่างลอมบาร์เดียกับอังเกนัสเป็นเรื่องที่มั่นคงยิ่ง

อีกอย่าง เบเจอร์ยังเที่ยวป่าวประกาศไปทั่วว่าตัวเองได้นำเงินส่วนตัวออกมาร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาตะวันตกของจักรพรรดินี

ไม่ได้รู้ความจริงเลยว่าตัวเองได้ย่างเท้าเดินลงไปในกับดักที่เธอวางไว้อย่างงดงามราวกับคนโง่เขลา

“เทีย เจ้าเป็นยังไงบ้าง เบเจอร์ ลอมบาร์เดียร่วมลงทุนในกิจการพัฒนาตะวันตกแบบนั้น ตำแหน่งของเจ้าจะไม่มีปัญหาหรือ”

เด็กนี่คิดว่าเธอเป็นใครหา!

“แค่เงินที่ข้าได้จากกิจการไปรษณีย์ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามก็มากมายอยู่”

กิจการไปรษณีย์ลอมบาร์เดียประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งเข้ายึดครองตลาดและกอบโกยเงินทองอย่างคุ้มค่า

คลังก์ เดวอนยังถึงกับกรีดร้องด้วยความดีใจ เมื่อเห็นกิจการไปรษณีย์เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวันเลยละ

หากจะบอกว่า เงินที่เบเจอร์ละลายทิ้งไปกับโครงการพัฒนาตะวันตกนั่น ไปรษณีย์ลอมบาร์เดียและกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียที่ได้ยอดขายเพิ่มขึ้นไปพร้อมกับการเติบโตของกิจการไปรษณีย์ กำลังช่วยอุดรอยรั่วให้อยู่ก็ไม่ผิดนัก

ไปรษณีย์ลอมบาร์เดียได้กลายเป็นรากฐานสำคัญและแข็งแกร่งกิจการหนึ่งของตระกูลไปแล้ว

“ยังไม่มีผลกระทบอะไรกับข้าหรอก ไม่เป็นไร”

แถมเธอยังมีแผนการขั้นต่อไปที่จะใช้โจมตีพวกนั้นไว้เรียบร้อยแล้วด้วยเธอพูดอย่างผ่อนคลายพลางจิบเหล้าลงคออีกอึกแต่แล้วในตอนนั้นเอง สายตาของเธอก็พลันสบเข้ากับเจ้าตระกูลเซอเชาว์ที่กำลังมองตรงมาที่เธอจากไกลๆ

สายตานั่นมันแรงกล้ามาก จนไม่อาจแสร้งเมินเฉยทำเป็นมองไม่เห็น

“…กำลังมาทางนี้?” เจ้าตระกูลเซอเชาว์กำลังขยับเท้าเดินตรงมาหาเธอกับเฟเรสอย่างช้าๆ

แน่นอนว่าสายตาของผู้คนมากมายย่อมมองตามเจ้าตระกูลเซอเชาว์ที่กำลังเดินมาหาพวกเราด้วย

เธอรีบขยับเท้าเขยิบไปด้านข้าง เว้นระยะห่างกับเฟเรสให้กว้างขึ้น

เจ้าตระกูลเซอเชาว์เดินตรงดิ่งเข้ามาอย่างมั่นใจ แล้วจึงเป็นฝ่ายกล่าวทักทายเฟเรสก่อนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะเจ้าชายลำดับที่สอง ไม่ได้พบกันเสียนานเลยพ่ะย่ะค่ะ” มันเป็นแค่การทักทายทั่วไป

คนคนนี้เดิมทีเป็นถึงหัวหน้ากองกำลังอัศวินประจำราชวงศ์ ดังนั้นจะเคยพบหน้าเฟเรสบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

แต่ปัญหาคือ ท่าทีของเจ้าตระกูลเซอเชาว์ต่างหากมันดูแข็งกร้าวและก้าวร้าวเกินกว่าจะปฏิบัติต่อคนเป็นเจ้าชายก็ไม่ได้มีตรงไหนผิดไปจากธรรมเนียมมารยาทหรอก แต่อีกฝ่ายตั้งใจแสดงออกแบบนั้นแน่ๆ

“…ไม่ได้พบกันนานนะครับ เจ้าตระกูลเซอเชาว์”

เฟเรสมองหน้าเจ้าตระกูลเซอเชาว์ ในขณะที่เอ่ยตอบด้วยเสียงกระด้าง

และในวินาทีนั้นเอง เธอก็เริ่มรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิรอบตัวของคนทั้งสองมันลดต่ำลงฮวบไปหลายองศา

สาเหตุเป็นเพราะเจ้าตระกูลเซอเชาว์กับเฟเรสที่เอาแต่ยืนจ้องหน้ากันเขม็ง

มันเป็นการต่อสู้กันด้วยจิตวิญญาณระหว่างเฟเรสซึ่งเป็นมาสเตอร์ในเรื่องออร่า และชานตั้น เซอเชาว์ซึ่งเคยเป็นหัวหน้ากองกำลังอัศวินส่วนพระองค์

เธอหันไปมองรอบๆ บรรดาชนชั้นสูงกำลังส่งเสียงฮือฮากันให้แซ่ด

มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่กำลังมองท่าทางของเฟเรสกับเจ้าตระกูลเซอเชาว์ด้วยนัยน์ตาระยิบระยับด้วยความใคร่รู้

บางทีหลังจบงานเลี้ยงวันนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นในงานอาจจะถูกเอาไปพูดกันให้ทั่วแวดวงสังคมเลยก็ได้

และเธอก็เลื่อนสายตาไปมองท่าทีของจักรพรรดินี

“หึ”

จักรพรรดินียกยิ้มด้วยความภาคภูมิ นางกำลังมองชานตั้น เซอเชาว์ที่กำลังเปิดศึกใช้พลังต่อสู้กับเฟเรสอยู่ตรงนี้ด้วยความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากแค่ท่าทางที่แสดงออกในตอนนี้ก็ทำให้เธอแน่ใจได้แล้วว่า คุณค่าของเจ้าตระกูลเซอเชาว์ในหัวสมองของจักรพรรดินีกำลังเพิ่มขึ้นสูงทีเดียว

แค่เดินเข้ามาทักทายเฟเรสต่อหน้าสายตาของผู้คนมากมาย ชานตั้น เซอเชาว์ก็ประสบความสำเร็จในการทำให้ทุกคนได้รู้ว่าตัวเขาอยู่คนละฝ่ายกับเฟเรส

เธอมองเฟเรสกับชานตั้น เซอเชาว์ที่กำลังใช้พลังกดข่มกันอยู่ไม่หยุดยั้ง พลางลอบยิ้มในใจอยู่เงียบๆ

‘เฟเรส เจ้านี่ฉลาดจริงๆ’

เธอปลีกตัวหลบสายตาของผู้คนออกมาเงียบๆ แล้วเดินขึ้นไปยังชั้น 2 ที่คนบางตากว่า

“สวัสดีค่ะ อาจารย์”

“มาแล้วหรือครับ ท่านฟีเรนเทีย” เครย์ลีบันกำลังรอเธออยู่ตรงนั้นอย่างที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า

เครย์ลีบันเชิญเธออย่างนอบน้อม พวกเรากลายเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์ทั่วไป ในขณะที่พากันเดินไปทั่วงานเลี้ยง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]