เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 4

สรุปบท เล่ม 4 บทที่ 160.1: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

สรุปเนื้อหา เล่ม 4 บทที่ 160.1 – เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet

บท เล่ม 4 บทที่ 160.1 ของ เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] ในหมวดนิยายแฟนตาซี เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เล่ม 4 บทที่ 160.1

ตอนที่ 160

อีกด้านหนึ่ง เสียงตะโกนดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ของตระกูลอังเกนัสในเมืองหลวง

“นะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!”

น้องชายของจักรพรรดินี หรือก็คือเจ้าตระกูลอังเกนัสคนใหม่ ดิวอิจ อังเกนัสตวาดเสียงดังลั่นใส่บุคคลที่ขวางหน้าเขาอยู่ในตอนนี้ด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“เป็นหัวหน้ากองกำลังอัศวินตระกูลอังเกนัสแท้ๆ แต่กลับมาควบคุมตัวเจ้าตระกูลอย่างนั้นหรือ!”

ดิวอิจ อังเกนัส เพียงแค่ตั้งใจจะออกไปจากห้องทำงานเพื่อเข้าร่วมวงสังคมเท่านั้นเอง

จนกระทั่งเจอเข้ากับอีเดน ครูสผู้เป็นหัวหน้ากองกำลังอัศวินประจำตระกูลอังเกสยืนขวางอยู่หน้าประตู

ครูสไม่แม้แต่จะขยับกายสักนิด ถึงแม้จะได้ยินคำสั่งให้หลีกทางของเจ้าตระกูลก็ตาม

หัวหน้ากองกำลังอัศวินสวมชุดเกราะตัวหนา ร่างกายสูงใหญ่ดั่งภูเขายืนตระหง่านก้มมองดิวอิจอังเกนัสด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“เฮ้! มีคนขัดคำสั่งเจ้าตระกูลอังเกนัสอยู่ตรงนี้! มาลากตัวมันไปเดี๋ยวนี้!”

ตะเบ็งเสียงดังจนเส้นเลือดปูนโปนขึ้นบนลำคอ แต่บริเวณโถงทางเดินว่างเปล่าก็ยังคงไร้วี่แววของผู้คน

ราวกับทุกคนต่างก็หลบหนีไปจากบริเวณนี้ เพราะรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับดิวอิจ อังเกนัสกันอยู่แล้ว

บรรยากาศรอบตัวทำให้จู่ๆ ก็พลันรู้สึกขนลุกชันขึ้นมา

“คราวนี้รู้แล้วใช่มั้ย ดิวอิจ”

คนที่เผยโฉมปรากฏกายออกมาให้เห็นจากบริเวณหัวมุมอย่างช้าๆ ก็คือ จักรพรรดินีราวีนี่ซึ่งสวมผ้าบางปิดบังใบหน้าเอาไว้

“ว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของตระกูลอังเกนัสตัวจริง”

“ทะ ท่านพี่ทำเช่นนี้กับข้าได้ยังไงกันพ่ะย่ะค่ะ!”

“อา ข้าเองก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอกนะ แต่เจ้าคิดที่จะไม่เชื่อฟังคำของข้าที่สั่งให้เลื่อนวันจ่ายเงินลงทุนให้กลุ่มก่อสร้างลอมบาร์เดียไม่ใช่หรือไง”

“แต่นี่ก็ถึงวันนัดหมายแล้ว อีกอย่างทางลอมบาร์เดียเองก็เอาแต่เร่งรัดมาอยู่เรื่อย แล้วจะไม่…”

“สุดท้ายดูเหมือนเจ้าจะเกรงกลัวลอมบาร์เดียมากกว่าข้าอย่างนั้นสินะ”

จักรพรรดินีราวีนี่แสยะยิ้ม ก่อนจะเอ่ยถามต่อ

“แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ ดิวอิจ”

ดิวอิจ อังเกนัสมองราวีนี่ด้วยใบหน้าซีดเผือด ก่อนจะรีบส่ายหน้าหวือ

“ข้าไม่เข้าใจท่านพี่เลยพ่ะย่ะค่ะติดค้างหนี้ลอมบาร์เดียกับเซอเชาว์เอาไว้ตั้งมากมาย ไม่รู้สึกอึดอัดใจบ้างเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“มีอะไรให้ต้องอึดอัดใจกัน ถ้ากิจการทางตะวันตกสำเร็จเมื่อไหร่ ก็เหลือแค่กอบโกยผลประโยชน์เท่านั้นเอง”

ตึก ตึก

เสียงจังหวะฝีเท้าของจักรพรรดินีราวีนี่ยามย่างกรายเดินเข้าหาดิวอิจดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน

“น้องชายผู้น่าสมเพชของข้าช่างทึ่มทื่อเสียเหลือเกิน เจ้านี่สมกับเป็นบุตรชายของท่านพ่อเสียจริง”

จักรพรรดินีเดาะลิ้นเสียงดังจิ๊จ๊ะในลำคอ

“กิจการท่องเที่ยวตะวันตกน่ะ มันไม่ใช่แค่กิจการท่องเที่ยวทั่วไปหรอกนะ ผู้คนรวมตัวกันที่ใด เงินทองก็ย่อมไหลมาเทมาที่นั่น บนผืนดินที่ไม่อาจทำได้กระทั่งเพาะปลูกพวกนั้น ถ้าสร้างมันเป็นเมืองใหญ่ขึ้นมาย่อมเกิดปาฏิหาริย์แน่นอนปาฏิหาริย์ที่ข้าเป็นผู้สร้างขึ้นยังไงล่ะ ดังนั้นไม่มีอะไรให้เจ้าต้องกังวลหรอก ดิวอิจ”

นัยน์ตาสีฟ้าส่องประกายเย็นชายามเหลือบมองดิวอิจ อังเกนัส

“นอกจากความโง่เขลาของตัวเจ้าเอง”

“ลามปามนัก กล้าดียังไงมาปากพล่อยพูดถึงโอรสข้าเช่นนี้”

จักรพรรดินีราวีนี่จ้องดิวอิจเขม็งด้วยนัยน์ตาดุดัน

แต่มันมีอะไรบางอย่างแปลกๆ

นัยน์ตาที่ดูเหมือนจะเปี่ยมไปด้วยโทสะรุนแรงคู่นั้น มันกลับแฝงไปด้วยรอยยิ้มขบขันเสียได้

ดิวอิจรู้จักสีหน้านั่นดีมันเป็นใบหน้าที่ราวีนี่มักจะเสแสร้งแสดงออกมาในยามก่อเรื่องอะไรสักอย่างเมื่อตอนที่พวกเขายังเด็กกันอยู่

“ท่านพี่…?”

“ยังคงช่างสังเกตเหมือนเคยเลยนะ ดิวอิจ” จักรพรรดินีแสยะยิ้มเมื่อถูกจับได้

รอยยิ้มน่าขนลุกจนทำเอาสั่นสะท้านไปทั่วแผ่นหลัง

“ฝ่าบาทไม่มีทางแต่งตั้งเจ้าชายลำดับที่สองเป็นรัชทายาทอย่างแน่นอน ไอ้เด็กชั้นต่ำนั่นเกิดมาผิดที่ผิดทางเอง และต่อให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นมา…” นัยน์ตาของจักรพรรดินีทอประกายแฝงความนัยบางอย่าง

“สุดท้ายโอรสของข้าก็จะแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทมาได้อยู่ดี ดังนั้นเจ้าชายไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งสิ้น”

“ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยอย่างนั้นหรือ…”

“ต่อให้ทำแค่เรื่องที่เจ้าตัวเขาชอบเหมือนในตอนนี้ก็พอแล้ว ก็เหมือนเจ้ายังไงล่ะ”

“อา…”

ในตอนนั้นเองดิวอิจถึงได้รู้ว่าจักรพรรดินีวางแผนอะไรไว้ เขาก้าวถอยห่างไปข้างหลังตามสัญชาตญาณ

จักรพรรดินีแสยะยิ้มพลางเอ่ยขึ้นว่า “เพราะมารดาคนนี้จะจัดการทุกอย่างให้เอง”

* * *

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]