เล่ม 4 บทที่ 161.1
ตอนที่ 161
“ดูเหมือนข้าจะมารบกวนสินะครับ”
ชานตั้น เซอเชาว์เอ่ยเสียงเรียบแต่ไม่มีคำพูดขอโทษกันแต่อย่างใด
ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าเสียมารยาท แต่กลับไม่ได้รู้สึกผิดในเรื่องที่กระทำลงไปเลยสักนิด
“…….เข้ามาก่อนสิครับ” แคลอฮันผายมือไปยังโซฟาในห้องทำงาน และเอ่ยขึ้น
“ขอบใจ”
ในขณะที่แคลอฮันนั่งเผชิญหน้ากับชานตั้น เซอเชาว์ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนห้องทำงานของตัวเองแคบลงไปทันที
ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอก
ก็แค่ร่างกายสูงใหญ่กับตัวตนของชานตั้น เซอเชาว์คนนี้ มันกลืนกินห้องทำงานธรรมดาของเขาไปจนหมดสิ้นเท่านั้นเอง
ชานตั้น เซอเชาว์กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องทำงานของแคลอฮันด้วยนัยน์ตาแฝงความใคร่รู้ แล้วจึงเปิดปากพูดกับแคลอฮัน
“นึกว่าข้าได้เป็นเจ้าตระกูลเซอเชาว์แล้ว เจ้าจะแวะมาหากันสักครั้งเสียอีก ยังคงเป็นคนที่เจอหน้าได้ยากเหมือนเคยเลยนะครับ ท่านชายแคลอฮัน”
ชานตั้น เซอเชาว์กำลังตำหนิแคลอฮันที่ไม่ยอมเป็นฝ่ายแวะไปทักทายเขาก่อน
เขตแดนเชซายูถูกมอบให้แคลอฮันเป็นรางวัลไปแล้ว จึงกลายเป็นเขตแดนอิสระไม่ขึ้นตรงต่อตระกูลเซอเชาว์อีกต่อไป แต่มันก็ยังห้อมล้อมไปด้วยที่ดินของเซอเชาว์ไม่เปลี่ยนแปลง
“แน่นอนว่าจัดการดูแลร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันที่ขยายสาขาไปทั่วทวีป แล้วยังต้องบริหารจัดการเขตแดนเชซายูอีก ก็คงจะเป็นงานที่ยุ่งมากเป็นแน่ ข้าเข้าใจ”
“…ขอบคุณครับ”
“ข้าที่งานน้อยกว่าก็ต้องเป็นฝ่ายมาพบเองถูกต้องแล้วสินะ หรือว่าไม่ใช่”
ริมฝีปากของชานตั้น เซอเชาว์โค้งลงคล้ายรอยยิ้ม แต่มันกลับยิ่งทำให้แคลอฮันรู้สึกอึดอัดใจยิ่งกว่าเดิม
เดิมทีเจ้าตระกูลเซอเชาว์ก็ให้บรรยากาศเช่นนั้นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้แคลอฮันเครียดเหนือสิ่งใดคือ ความจริงที่คนคนนี้อยู่ฝ่ายจักรพรรดินีเนี่ยแหละ
ช่วงนี้จักรพรรดินีมักจะพาชานตั้น เซอเชาว์ไปแนะนำให้ผู้คนได้รู้จักในทุกๆ ที่
ราวกับจะทำให้มั่นใจว่า หากเป็นชนชั้นสูงในอาณาจักรแล้วละก็ จะต้องไม่มีใครไม่รู้ว่าเจ้าตระกูลเซอเชาว์เป็นพันธมิตรของจักรพรรดินี
ว่ากันตามตรง สำหรับแคลอฮันแล้ว ชานตั้น เซอเชาว์เป็นบุคคลที่เขาไม่อยากข้องเกี่ยวด้วยเลยแม้แต่น้อย
นั่นไงล่ะ
เจ้าตระกูลเซอเชาว์เอ่ยถามขึ้น
“ได้ยินว่าจะเปิดท่าเรือขึ้นที่เชซายู จริงหรือครับ”
ชั่วขณะ แคลอฮันต้องอดกลั้นแรงกระตุ้นที่อยากจะตอบออกไปว่า ‘ไม่ใช่’ เอาไว้
ท่าเรือเชซายูเป็นสิ่งที่มีค่ามาก
และสัญชาตญาณของแคลอฮันก็กำลังบอกเขาว่า ชานตั้น เซอเชาว์เป็นคนที่อาจจะเป็นอันตรายต่อท่าเรือของเขา
“ใช่ครับ”
แคลอฮันลากหางเสียงเล็กน้อยเมื่อต้องตอบออกไปตามตรงอย่างไม่อาจเลี่ยงได้
“ถ้าอย่างนั้นท่าเรือเชซายูก็คงจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการขนส่งสินค้าล่องไปตามแม่น้ำทั่วอาณาจักรสินะ”
ดูเหมือนเจ้าตระกูลเซอเชาว์จะประเมินทุกสิ่งเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
“…ถูกต้องครับ” แคลอฮันตอบกลับช้าไปหนึ่งจังหวะ
ทันใดนั้นเอง ชานตั้น เซอเชาว์ก็กระตุกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นพลางเอ่ยว่า
“แล้วทำไมข้าถึงได้เพิ่งรู้ความจริงเรื่องที่ว่านั่นกันล่ะครับ”
“นั่นมันหมายความว่ายังไง…”
“หากจะขนส่งสินค้าไปจนถึงท่าเรือเชซายู จะต้องผ่านที่ดินของเซอเชาว์ก่อนไม่ใช่หรือครับ”
ตุบ!เสียงหัวใจร่วงหล่นดังขึ้นในใจ พร้อมกับการเคลื่อนไหวของแคลอฮันที่หยุดชะงักไปทันที
ท่าเรือเซชายูถูกล้อมกรอบไปด้วยที่ดินของเซอเชาว์
พูดอีกแง่ก็คือ สินค้าทั้งหลายจะถูกขนส่งเข้าไปจนถึงเชซายูได้หรือไม่นั้น ต่างก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าตระกูลเซอเชาว์ทั้งสิ้นเป็นการข่มขู่ที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก
นัยน์ตาสีเขียวเริ่มส่องประกายเป็นศัตรูขึ้นมาอย่างช้าๆ แคลอฮันมองสบตาชานตั้น เซอเชาว์ ขณะที่เอ่ยถามขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...