เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 4

สรุปบท เล่ม 4 บทที่ 163.2: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เล่ม 4 บทที่ 163.2 – ตอนที่ต้องอ่านของ เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

ตอนนี้ของ เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง เล่ม 4 บทที่ 163.2 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เล่ม 4 บทที่ 163.2

หลังจากนั้นบรรดาชนชั้นสูงก็เริ่มลิ้มรสอาหารกันอย่างกระตือรือร้นยิ่งกว่าเดิม

แตกต่างจากงานเลี้ยงทั่วไปที่ผู้คนมักจะกินอาหารกันแค่พอให้ท้องไม่หิวโหย

เธอเองก็ปะปนอยู่กับกลุ่มคนพวกนั้น ลองกินอาหารทีละชนิด

รสชาติโดยรวมแล้วค่อนข้างให้รสเปรี้ยว หวาน เผ็ดร้อน ต่างจากอาหารของอาณาจักรที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีรสไปทางจืดชืด รสชาติเช่นนี้เป็นเอกลักษณ์ของอาหารทะเลนั่นเอง

สายลมเย็นจากแม่น้ำพัดผ่านมาบนเรือ

คุณหญิงนางหนึ่งที่กำลังลิ้มลองอาหารแต่ละชนิดอยู่ข้างๆ เธอกล่าวขึ้นราวกับกำลังเพ้อฝัน

“ถ้าข้าสามารถเดินทางไปตะวันออกได้บ้าง จะดีแค่ไหนกันนะคะเนี่ย”

เธอหันไปมองรอบๆ

ไม่ใช่แค่คุณหญิงคนนี้เท่านั้น แต่ดูเหมือนจะมีหลายคนที่คิดเช่นเดียวกัน

และเครย์ลีบันก็ก้าวขึ้นไปบนแท่นพิธีที่หัวเรืออีกครั้งในทันที ราวกับที่ผ่านมาเขาเพียงแค่รอคอยจังหวะให้บรรยากาศสุกงอมเสียก่อน

คราวนี้ท่านพ่อกับอาบีน็อกซ์เองก็ก้าวขึ้นไปพร้อมกัน

“ท่านชายแคลอฮัน ลอมบาร์เดีย”

“ข้างๆ นั่นใครกันน่ะ”

“เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ใช่ตัวแทนเจ้าตระกูลรูมันหรอกหรือครับ”

ผู้คนต่างก็เงยหน้าขึ้นมองบนแท่นพิธีด้วยนัยน์ตาแฝงความอยากรู้อยากเห็น

“ถูกใจงานเลี้ยงพิเศษที่ทางร้านค้าเพลเลสของเราจัดเตรียมไว้มั้ยครับ”

หลายคนยิ้มรับคำถามของเครย์ลีบัน พร้อมกับชูแก้วไวน์ในมือขึ้นสูงเป็นการตอบรับ

“คงจะมีหลายท่านที่พอจะสังเกตเห็นกันแล้ว แต่สิ่งที่เสิร์ฟภายในงานตอนนี้เป็นอาหารจากตะวันออกถูกต้องแล้วครับ เป็นอาหารที่มีความพิเศษมาก และไม่อาจหากินได้ในภาคกลางรวมถึงเขตแดนอื่นๆ ในอาณาจักร”

พิเศษ

คำนั้นทำให้นัยน์ตาของชนชั้นสูงส่องประกายวิบวับ

เครย์ลีบันเว้นช่วงไปครู่หนึ่ง เพื่อจะได้กระตุ้นบรรยากาศให้ดูน่าลุ้นระทึกยิ่งขึ้น ก่อนจะเอ่ยต่อ

“ด้วยความช่วยเหลือจากท่านชายอาบีน็อกซ์ รูมัน ทำให้ข้าได้สัมผัสวัฒนธรรมและอาหารชั้นเลิศจากตะวันออกโดยบังเอิญครับ เลยอยากจะเผยแพร่สิ่งนี้ให้ท่านทั้งหลายได้รู้จักไปพร้อมๆ กัน และคำตอบนั่น ข้าก็สามารถค้นพบมันได้ที่เชซายูครับ”

เครย์ลีบัน ท่านพ่อ และอาบีน็อกซ์ต่างก็ทักทายกันและกันอย่างสุภาพต่อหน้าผู้คน

เพื่อแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า พวกเขาเป็นพาร์ตเนอร์และผู้เกี่ยวข้องในกิจการครั้งนี้

“หลังจากนี้อีกหนึ่งสัปดาห์ ท่าเรือเชซายูจะเปิดให้บริการครับ เป็นการเปิดเส้นทางเดินเรือในอาณาจักรเชื่อมต่อไปจนถึงแดนตะวันออก และพวกเราร้านค้าเพลเลสก็จะเริ่มกิจการ ‘ล่องเรือสำราญสู่ตะวันออก’ ซึ่งจะเริ่มเดินทางกันตั้งแต่เชซายูนั่นเองครับ”

พนักงานประจำร้านค้าเพลเลสรีบยกรูปขนาดใหญ่ยักษ์ขึ้นมาวางไว้บนแท่นพิธี ก่อนที่เครย์ลีบันจะทันได้พูดจบประโยคด้วยซ้ำ

มันเป็นภาพวาดโดยรวมของเรือขนาดใหญ่

“เรือจะมีขนาดใหญ่ประมาณสิบเท่าของเรือที่ทุกท่านกำลังยืนอยู่ตรงนี้ ห้องโดยสารชั้นยอดหรูหราขนาดใหญ่จะต้อนรับแขกทุกท่านให้ล่องเรือสำราญไปอย่างปลอดภัยและสะดวกสบายจนถึงแดนตะวันออกครับ”

การเดินทางท่องเที่ยวอันแสนสะดวกสบายไปจนถึงตะวันออกอย่างนั้นหรือเนี่ย!

แถมยังเป็นเรือโดยสารสุดหรูที่พวกเขายังไม่เคยได้สัมผัสเลยแม้แต่ครั้งเดียวอีก!

บรรดาชนชั้นสูงทั้งหลายต่างก็เบิกตากว้างกระซิบกระซาบกับคนข้างๆ โดยไม่อาจเก็บซ่อนความรู้สึกตื่นเต้นเอาไว้ได้เลย

“เหตุผลที่ข้าจัดงานเลี้ยงในวันนี้ขึ้นมามีเพียงแค่เหตุผลเดียวเท่านั้นครับ เพื่อที่จะเลือกแขก 15 คู่ที่จะได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมกันบนเรือสำราญแห่งประวัติศาสตร์ทริปแรกในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางร้านค้าเพลเลสจะเป็นผู้รับผิดชอบ ผู้ที่ได้รับเลือกเพียงแค่สุขสำราญไปกับการเดินทางสู่ตะวันออกด้วยใจผ่อนคลาย รื่นเริงไปกับงานเลี้ยงสุดหรูที่จะจัดขึ้นในทุกค่ำคืนตลอด 7 วันราวกับวิมานฝันก็พอครับ”

“โอ้ๆ !”

“การคัดเลือกจะทำด้วยวิธีไหนครับ!”

ชายคนหนึ่งตะโกนถามเสียงดังด้วยไม่อาจอดใจรอได้

“ฮ่าฮ่า วิธีการนั้นง่ายมากครับตลอดงานเลี้ยงในวันนี้ พนักงานของร้านค้าเพลเลสจะถือกล่องนี่เดินไปทั่วงานครับ หากพวกเขาเดินผ่าน ทุกท่านเพียงแค่เขียนนามของตัวเองลงบนการ์ด แล้วหย่อนใส่กล่องก็เรียบร้อยครับ ส่วนการสุ่มเลือกนั้นพวกเราจะมาจับฉลากกันอีกครั้งในช่วงท้ายงานเลี้ยงครับ”

ผู้คนต่างหันไปมองรอบๆ เพื่อมองหาพนักงานที่ถือกล่องดังกล่าว

“เช่นนั้นก็ขอเชิญทุกท่านใช้เวลาอย่างสนุกสนานกับเสียงเพลงบรรเลง และอาหารชั้นเลิศจากตะวันออกกันต่อได้เลยครับ”

ทันทีที่เครย์ลีบันก้าวเท้าลงมาจากแท่นพิธีที่ถูกยกสูง เสียงเพลงบรรเลงให้ความรู้สึกครื้นเครงก็ดังไปทั่วงานอีกครั้ง

ผลลัพธ์ของการนำเสนอกิจการรูปแบบใหม่ประสบความสำเร็จอย่างไร้ที่ติ

ผู้คนทั้งหลายต่างก็ทิ้งอาหารและเหล้าเอาไว้เบื้องหลัง แล้วพากันวิ่งตรงไปยังกล่องจับฉลากทันที

เธอยืนพิงระเบียงเรือ เฝ้ามองภาพนั้นอย่างผ่อนคลาย

บางคนพยายามที่จะเขียนชื่อของตัวเองใส่กล่องถึงสองครั้ง แล้วก็โดนจับได้จนต้องอับอายขายขี้หน้า

ในตอนนั้นเอง เสียงโหวกเหวกก็ดังมาจากกราบเรือ

“ปล่อยข้าลงไป! ข้าต้องลงจากเรือเดี๋ยวนี้!”

เบเจอร์กำลังตวาดเสียงดังใส่พนักงานร้านค้าเพลเลสอย่างข่มขู่

ตอนนี้กำลังจะได้กอบโกยเงินทองจากการท่องเที่ยวตะวันตกแท้ๆ แต่ทางนี้กลับเปิดตัวล่องเรือสำราญสู่ตะวันออก ที่ไม่ว่ามองด้านใดก็เหนือชั้นกว่าทุกด้านเสียได้

เบเจอร์ถึงได้ใจร้อนจนเท้าติดไฟ คิดที่จะแจ้นไปฟ้องจักรพรรดินีเสียประเดี๋ยวนี้

ตอนนี้พวกข้ารับใช้เองก็คุ้นเคยกับการมาเยือนของเฟเรสกันดีแล้ว จึงแค่ออกมาพาม้าของเฟเรสไปเก็บที่คอกเงียบๆ ปล่อยให้พ่อบ้านประจำปีกคฤหาสน์เป็นคนต้อนรับชายหนุ่มแทน

“เทียล่ะ”

“ตื่นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

คำตอบของพ่อบ้านทำให้เฟเรสเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นด้วยความแปลกใจ

เมื่อคืนนี้ได้ยินว่างานเลี้ยงบนเรือเลิกดึกมากทีเดียว

เพราะพวกชนชั้นสูงต่างก็เรียกร้องให้เลิกดึกหน่อย ด้วยไม่อยากจะลงจากเรือกันเลย

ถ้างานเลี้ยงของร้านค้าเพลเลสยังไม่จบลง เทียย่อมไม่มีทางลงจากเรือกลับบ้านมาก่อนได้แน่

ยิ่งนึกถึงความลับของเทียที่เขาเพิ่งได้รับทราบ เฟเรสก็ยิ่งมั่นใจ

เพราะฉะนั้นที่เทียตื่นนอนแล้ว จึงเป็นเรื่องผิดคาดจริงๆ

เขาเตรียมใจมาแล้วว่าคงต้องรออีกหลายชั่วโมงกว่าเทียจะตื่น แต่กลายเป็นว่าไม่ต้องรอเสียได้

ก๊อก ก๊อก

กระทั่งตอนที่เคาะประตูเบาๆ ไม่กี่ครั้ง เฟเรสก็ยังเอาแต่ครุ่นคิดไม่หยุด

จะเริ่มบทสนทนาด้วยคำพูดเช่นไรดี

เทียจะมีปฏิกิริยาแบบไหนกัน

ไม่สิ หรือเขาควรจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ความลับของนางถึงจะถูก

นางอาจจะไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ก็ได้

ความลังเลเต็มตื้นอยู่ในหัวสมองของเฟเรส

แต่ทว่า

“สวัสดี เฟเรส”

เทียสวมเดรสสีแดงนั่งรอต้อนรับเขาอยู่บนโซฟา

บนโต๊ะมีเค้กกับชาถูกจัดเตรียมไว้สำหรับสองที่

กล่องสำหรับบริการส่งถึงบ้านจาก ‘คาราเมล อเวนิว’ ที่เฟเรสเองก็คุ้นเคยดี วางไว้ที่มุมหนึ่ง

เทียฉีกยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“เข้ามาสิ กำลังรออยู่เลย เฟเรส”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]