เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 4

สรุปบท เล่ม 4 บทที่ 164.2: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

อ่านสรุป เล่ม 4 บทที่ 164.2 จาก เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet

บทที่ เล่ม 4 บทที่ 164.2 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายแฟนตาซี เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เล่ม 4 บทที่ 164.2

จักรพรรดินียิ้มเข้มเพื่อกดข่มโทสะที่พุ่งปรี๊ดขึ้นสมอง

“ชากลิ่นหอมดีนะพ่ะย่ะค่ะ องค์จักรพรรดินี”

“โล่งอกไปทีนะคะที่ถูกใจ เจ้าตระกูลเซอเชาว์”

“แต่…”

ชานตั้น เซอเชาว์เว้นจังหวะไปครู่หนึ่งไม่ยอมพูดต่อ แต่จักรพรรดินีเองก็ทราบคำพูดประโยคถัดไปที่จะหลุดออกจากปากนั่นอยู่ก่อนแล้ว

“เรื่องร้านค้าเพลเลสหรือคะ เจ้าตระกูลเซอเชาว์”

“ทราบอยู่แล้วนี่เอง ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะจะไม่ส่งผลกระทบต่อกิจการท่องเที่ยวตะวันตกของอังเกนัสหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“…ไม่มีปัญหาใดหรอกค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”

“แต่ได้ยินว่า การล่องเรือสำราญอะไรนั่น เหมือนจะมีเสน่ห์มากทีเดียวนะพ่ะย่ะค่ะ อีกอย่างตะวันออกเองก็มีสภาพภูมิอากาศอบอุ่นตลอดปี เหมาะจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยิ่ง”

“เจ้าตระกูลเซอเชาว์”

เจ้านี่คิดที่จะยั่วโทสะนางหรือยังไงกัน!ราวีนี่ตั้งใจจะระเบิดโทสะออกไปด้วยความโกรธ แต่ก็ต้องปิดปากแน่นทันทีเมื่อได้ยินคำพูดถัดมาของชานตั้น เซอเชาว์

“ยังคงรักษาสัญญาวันจ่ายเงินได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ องค์จักรพรรดินี”

“เรื่องนั้น…” ตอนนี้อังเกนัสกำลังติดหนี้สินเซอเชาว์จำนวนมหาศาล

โทสะเริ่มเบาบางลง สติก็เริ่มกลับคืนมา

“หากช่วยเลื่อนวันชำระหนี้ออกไปก่อนได้คงจะดีนะคะ”

ท่าทางดูหน้าด้านเกินกว่าจะเป็นพฤติกรรมของคนที่เป็นฝ่ายขอร้อง แต่จักรพรรดินีก็ยังรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างยิ่ง

แต่ถ้าหากเซอเชาว์ไม่ยอมเลื่อนวันชำระหนี้ออกไปแล้วละก็ ทางอังเกนัสเองก็ไม่มีความสามารถพอจะชำระหนี้ทันที จึงได้แต่ทำแบบนี้อย่างช่วยไม่ได้

“ว่าแล้วเชียว ดูเหมือนกิจการท่องเที่ยวตะวันตกจะได้รับผลกระทบไม่น้อยเลยสินะพ่ะย่ะค่ะ”

ชานตั้น เซอเชาว์พยักหน้าลงก่อนจะพูดประโยคถัดไปทันที

“หากต้องการละก็ ทางกระหม่อมสามารถให้ยืมเงินเพิ่มได้พ่ะย่ะค่ะ องค์จักรพรรดินี”

ราวีนี่แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองแต่คำพูดประโยคถัดมาของเจ้าตระกูลเซอเชาว์ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีว่านางไม่ได้ฟังผิดไปจริงๆ

“พวกเราเซอเชาว์เองก็ลงทุนกับกิจการตะวันตกไปมากแล้ว หากจะถอยเอาตอนนี้ มีแต่จะเสียหายหนักยิ่งกว่าพ่ะย่ะค่ะ อีกอย่างถ้าคิดจะแข่งขันกับกิจการเรือสำราญตะวันออก ก็ยังจำเป็นต้องใช้เงินทุนอีกมาก… ไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”

ได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของราวีนี่ค่อยมีสีเลือดกลับคืนมาบ้าง

“เช่นนั้นก็ถือว่าช่วยเหลือได้มากเลยค่ะ เจ้าตระกูลเซอเชาว์”

ถึงแม้จะรู้สึกตงิดใจอยู่บ้างที่จะต้องติดหนี้ติดสินเพิ่ม แต่คำพูดของชานตั้น เซอเชาว์ก็ถูกอยู่เหมือนกัน

หากหยุดแค่นี้ สิ่งที่เหลือตามมาคงมีเพียงแค่หนี้สินเท่านั้น

ต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง

สำหรับอังเกนัสในตอนนี้ เจ้าตระกูลเซอเชาว์เป็นเพียงแสงสว่างดวงเดียวของพวกนาง

ชานตั้น เซอเชาว์มองสบนัยน์ตาเปล่งประกายของจักรพรรดินีราวีนี่ ก่อนจะเลียบๆ เคียงๆ พูดหยั่งเชิงออกไป

“แต่ครั้งนี้กระหม่อมคงต้องขอหลักทรัพย์ค้ำประกันพ่ะย่ะค่ะ”

“หละหลักทรัพย์ค้ำประกัน?” ที่ผ่านมาอังเกนัสยืมเงินจากเซอเชาว์โดยการลงนามในเอกสารแผ่นเดียว

ก็เหมือนกับใช้เครดิตไปกู้ยืมเงินจากธนาคารนั่นแหละ

“ต่อให้กระหม่อมเป็นเจ้าตระกูล แต่อย่างไรก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนไปแสดงให้คนอื่นๆ ในตระกูลเซอเชาว์เห็นพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเชื่อว่าองค์จักรพรรดินีเองก็คงจะเข้าใจฐานะของกระหม่อม”

เขตแดนเชซายูกำลังพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วถ้าคำนวณกันอย่างจริงจัง เขตแดนเชซายูเป็นของท่านพ่อ และเธอก็เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านพ่อ และยังเป็นผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวอีกด้วย

บางทีเธออาจจะกำลังหาเงินได้มหาศาลยิ่งกว่าที่เคยคิดอีกก็เป็นได้

ตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา เธอเองก็ยุ่งมากกับการบริหารกิจการล่องเรือสำราญตะวันออกให้ทรงตัวได้อย่างปลอดภัย

“โอย ปวดไปหมดทั้งตัว”

ตอนนี้กิจการท่องเที่ยวเรือสำราญเองก็เริ่มคล่องตัวโดยไม่มีอะไรให้เธอต้องเข้าไปยุ่ง เธอเลยบอกเครย์ลีบันว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอจะกลับไปใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยของตัวเองสักที และกำลังอยู่ในระหว่างทางกลับบ้าน

“พรุ่งนี้ต้องนอนตื่นสายสักหน่อยแล้ว จะนอนอยู่บนเตียงไม่ลุกจนกว่าจะปวดเอวเลย”

แต่แล้วในจังหวะที่เดินขึ้นบันไดมุ่งหน้าไปยังห้องของเธอพลางบ่นพึมพำอยู่อย่างนั้น

“ฮึก!ฮึก…”

ได้ยินเสียงร้องสะอึกสะอื้นฟังดูเศร้าจนน่าสงสาร แต่ก็ฟังดูน่าขนลุกดังมาจากด้านบน

“เสียงผู้หญิงร้องไห้?”

เธอก้าวเท้าเดินขึ้นไปบนบันไดอย่างระมัดระวังและก็พบว่ามีใครคนหนึ่งกำลังนั่งคู้กายร้องห่มร้องไห้อยู่หน้าประตูห้องเธอ

“ลาลาเน่! เจ้ามาทำอะไรที่นี่น่ะ ร้องไห้ทำไม”

“ทะ เทีย… ฮึก!”

ร้องไห้มาตั้งแต่กี่โมงเนี่ย

ใบหน้าของลาลาเน่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา

พอเห็นเธอเข้า ลาลาเน่ก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเก่า นางพยายามเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ

“หะ เห็นว่าเลือก…เจ้าบ่าวแล้วละ ข้าไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี เทีย…”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]