เล่ม 4 บทที่ 167.1
ตอนที่ 167
รูลลักเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเหมือนกับคนที่กำลังประหลาดใจจริง ๆ
โยบาเนสมองภาพตรงหน้าพลางลอบยิ้มในใจ
ตอนแรกที่จักรพรรดินีเสนอแนะเรื่องนี้ขึ้นมา พระองค์ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาเป็นยังไงก็ช่าง
เขาไม่ได้สนใจในเรื่องคู่หมายของอาสท่าน่า ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นถึงลอมบาร์เดียและการต่อกรรับมือกับรูลลักเองก็เป็นเรื่องยุ่งยากจนเขาไม่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องแต่พอมาลองไตร่ตรองคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรขนาดนั้นไม่สิ ต้องบอกว่าถูกใจเสียมากกว่าด้วยซ้ำหลานสาวของรูลลักผู้เย่อหยิ่งจองหองคนนี้ จะกลายมาเป็นลูกสะใภ้ของเขาอย่างนั้นหรือ
อีกอย่าง ลอมบาร์เดียเองก็มีสายเลือดขุนนางชั้นสูงอันแสนสูงส่งจนไม่มีใครเทียม ย่อมต้องมีประโยชน์อย่างใหญ่หลวงในการรักษาสายเลือดของราชวงศ์เป็นแน่คราวนี้โยบาเนสเห็นด้วยจากใจจริงว่า จักรพรรดินีเองก็คิดเรื่องที่มีประโยชน์ได้เหมือนกัน
และเรื่องนี้ก็ดีมากพอที่เขาจะโลภอยากได้จักรพรรดิประเมินเช่นนั้น
‘หากมอบสิ่งอื่นให้ข้าเป็นเงื่อนไขในการช่วยขัดขวางการแต่งงาน ก็อีกเรื่อง’
ที่เรียกรูลลักมาพบในวันนี้ ก็เพื่อจะลองประเมินดูว่าเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียมีแนวโน้มอยากจะต่อรองหรือไม่
โยบาเนสพยายามเก็บซ่อนรอยยิ้มที่เกือบจะหลุดออกมาให้อีกฝ่ายเห็นอย่างสุดความสามารถ ในขณะที่เอ่ยถามขึ้น
“ท่าทางจะตกใจพอควร คงไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องการหมั้นหมายสินะครับ”
เหนือสิ่งใดคือ รู้สึกตื่นเต้นไปทั่วร่างที่ได้ยั่วอารมณ์ของรูลลักแบบนี้
“ดูเหมือนจะตกใจมาก…….”
“เปล่า กระหม่อมทราบเรื่องการพูดคุยแต่งงานของหลานสาวอยู่ก่อนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
รูลลักยังคงนั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่วงท่าผ่อนคลายไม่เปลี่ยน ในขณะที่ส่ายหน้าไปมาพลางเอ่ยเช่นนั้น
“ไม่นึกเลยว่าฝ่าบาทจะทรงคิดจริงจังไปด้วยแบบนี้ ฮ่าฮ่า นี่มันช่างจริง ๆ เลยเชียว”
รูลลักหัวเราะราวกับนี่เป็นเรื่องไร้สาระชวนขบขัน
“กระหม่อมเองก็พอจะคาดเดาได้ว่าเป็นความคิดของผู้ใดพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทไม่มีทางสนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว”
เสียงของรูลลักกดต่ำลงด้วยความไม่พอใจ
“เหตุผลที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาในตอนนี้ ก็คงแค่จะอ้างเรื่องการแต่งงานของหลานสาวกระหม่อม เพราะคิดอยากจะกอบโกยอะไรบางอย่างจากลอมบาร์เดียสินะพ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิโยบาเนสขมวดคิ้วแน่นโดยไม่พูดอะไรรู้สึกไม่พอใจที่ถูกรูลลักล่วงรู้ความคิดทุกเรื่อง
บทสนทนากับรูลลัก ลอมบาร์เดีย มักจะดำเนินไปในรูปแบบนี้อยู่เสมอ
ตอนที่โยบาเนสเพิ่งขึ้นเป็นจักรพรรดิก็เช่นกัน หรือกระทั่งตอนนี้ที่พระองค์ก็กลายเป็นชายวัยกลางคนแล้ว แต่ก็ยังเป็นเหมือนเคย
รูลลักมองสบนัยน์ตาของโยบาเนสที่มีสีหน้าบึ้งตึง ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างช้า ๆ
“การจับทั้งลอมบาร์เดียและอังเกนัสเอาไว้ในมือทั้งสองข้าง เพื่อถ่วงดุลอำนาจนั้นเป็นการพยายามที่ดีมากจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอชมเชยจากใจ แต่ว่า”
รูลลักเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ราวกับต้องการเอ่ยเตือน
“ไม่ใช่สายเลือดของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท สายเลือดของกระหม่อมไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาต่อรองได้”
นัยน์ตาสีน้ำตาลของรูลลักหลุบต่ำส่องประกายเย็นชายามมองเหยียดอีกฝ่ายและทิ้งท้ายไว้เพียงแค่คำพูดประโยคเดียว ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของจักรพรรดิ
“หลังจากหลงกลในคำพูดของจักรพรรดินี ก็อย่าได้นึกเสียใจทีหลังก็แล้วกันพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
รูลลักเดินออกไปด้วยจังหวะฝีเท้าเอ้อระเหยไม่เร่งรีบ
หลังจากเหลืออยู่คนเดียวในห้อง โยบาเนสก็กระดกเหล้าฤทธิ์แรงลงคอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...