การที่อาบีน็อกซ์สวมใส่ชุดงดงามดูหล่อเหลาเป็นพิเศษในวันนี้ เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่มีความหมายมากกว่าวันอื่น ๆ
เธอกับอาบีน็อกซ์เดินวนไปรอบ ๆ ตามสถานที่ที่มีคนมากมายเดินผ่าน เหมือนกับที่เคยทำเมื่อคราวก่อน
และไม่นานก็เดินมุ่งหน้าไปยังเรือนกระจกของลาลาเน่ทันที
ดูเหมือนว่าฝ่ายนั้นจะสังเกตอะไรได้
ลาลาเน่ไม่อาจออกไปนอกคฤหาสน์ได้อย่างอิสระ เพราะเซรัลออกคำสั่งกักบริเวณเอาไว้ แต่โล่งอกที่ไม่ได้ห้ามไม่ให้นางไปไหนมาไหนในคฤหาสน์
เธอเลยตัดสินใจใช้ช่องว่างนี้ช่วยให้ทั้งสองคนได้พบหน้ากันในวันนี้
“ข้าบอกลาลาเน่เอาไว้แล้วว่าให้มาเจอกันที่นี่ค่ะ อ๊ะ อยู่ตรงนั้นไง”
“ท่านลาลาเน่……” อาบีน็อกซ์พึมพำด้วยความสงสาร
ทุกครั้งยามที่อยู่ได้ในเรือนกระจก ลาลาเน่มักจะจัดดอกไม้ด้วยท่าทางสดใสเปล่งประกายอยู่เสมอแต่วันนี้กลับแตกต่างไปจากที่เคย
ภาพลาลาเน่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ในเรือนกระจกอย่างไร้เรี่ยวแรง มันทำให้อาบีน็อกซ์รู้สึกสะเทือนใจมากเหลือเกิน
“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัว……”
“ไม่ครับ”
แต่แล้วในจังหวะที่เธอตั้งใจจะหมุนตัวหลบออกไปจากบริเวณนี้ เพื่อที่ลาลาเน่กับอาบีน็อกซ์จะได้ใช้เวลาด้วยกันสองต่อสอง อาบีน็อกซ์ก็รั้งเธอเอาไว้
“ท่านฟีเรนเทียช่วยเป็นพยานให้พวกเราสองคนทีนะครับ”
อาบีน็อกซ์ยังคงมีสีหน้าตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาก็ยังยิ้มให้เธอในขณะที่เอ่ยออกมา
“ถ้าท่านลาลาเน่ตอบรับคำขอแต่งงานของข้า ข้าตั้งใจว่าจะส่งสารหมั้นหมายในนามตระกูลรูมันมาให้เจ้าตระกูลลอมบาร์เดียกับบิดามารดาของท่านลาลาเน่ครับ ข้าเองก็ได้รับอนุญาตจากท่านพ่อเรียบร้อยแล้วด้วย”
พูดง่าย ๆ ก็คือ ตั้งใจจะขอแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณีของชนชั้นสูงถึงขนาดไปขออนุญาตเจ้าตระกูลรูมันมาเรียบร้อยแล้วด้วยเหรอเนี่ย
ตั้งใจจริง แน่วแน่ดีเหมือนกัน
“ถึงจะลงมือช้าเกินไป แต่ในเมื่อทางราชวงศ์ยังไม่ได้ส่งหนังสือหมั้นหมายอย่างเป็นทางการมาที่ตระกูลลอมบาร์เดีย และยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการด้วย ดังนั้นข้าเองก็ยังมีโอกาสอยู่ครับ”
อาบีน็อกซ์กำหมัดแน่น ในขณะที่กล่าวเช่นนั้น
“แน่นอนว่า……ถ้าท่านลาลาเน่ยอมตอบรับคำขอแต่งงานของข้านะครับ”
และกลับไปตื่นเต้นเหมือนเดิมอีกแล้ว
เธอตบไหล่ให้กำลังใจอาบีน็อกซ์ แล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ทราบแล้วค่ะ เช่นนั้นข้าจะเป็นพยานให้ทั้งสองคนเองก็แล้วกันนะคะ”
“ขอบคุณครับ!”
“เช่นนั้น ไปกันเลยดีมั้ยคะ”
อาบีน็อกซ์เดินตัวเกร็งจนกระดูกแทบจะส่งเสียงดังก๊อกแก๊ก ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายนำหน้าเปิดประตูเรือนกระจกออก
อื้ออ ทำเอาเธอตื่นเต้นไปด้วยเลย!
“ท่านอาบีน็อกซ์…….?”
ลาลาเน่เรียกอาบีน็อกซ์เสียงสั่นเทา ราวกับไม่อยากเชื่อนัยน์ตาของตัวเอง
อาบีน็อกซ์เดินเข้าไปหาลาลาเน่ ก่อนจะถามด้วยเสียงอ่อนโยน
“หน้าตาดูหมองไปนะครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“ข้าไม่เป็นอะไรค่ะ…..เห็นไม่ตอบจดหมายของข้า ข้าเลยกังวลว่าท่านอาบีน็อกซ์เป็นอะไรหรือเปล่า…….”
ลาลาเน่หยุดพูดในทันทีเพราะอาบีน็อกซ์ค่อย ๆ คุกเข่าข้างหนึ่งลงอย่างช้า ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...