เล่ม 5 บทที่ 172.2 – ตอนที่ต้องอ่านของ เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
ตอนนี้ของ เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง เล่ม 5 บทที่ 172.2 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เล่ม 5 บทที่ 172.2
กุบกับ กุบกับ
รถม้าค่อยๆ เคลื่อนตัวห่างออกไปเรื่อยๆ ในขณะที่เสียงกีบเท้าม้าก็เริ่มแผ่วเบาลง
ได้แต่ยืนเหม่อมองส่งจากด้านหลังอยู่ไกลๆ ผ่านไปไม่นานก็เหลือแค่เธอกับเฟเรสที่ยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
ฟิ้ว
สายลมพัดเข้ามาวูบใหญ่
“เทีย”
เฟเรสเรียกเธอ
“อื้อ”
“ตอนนี้มันยังไม่จบหรอกนะ พวกนั้นอาจจะเล็งเป้ามาที่เจ้าแทนก็ได้”
“ข้าเองก็พอรู้อยู่แล้วละ”
เรื่องพวกนั้นเธอเองก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว
แต่ถึงยังไงมันก็ยังดีกว่าต้องทนเห็นลาลาเน่หวนคืนกลับมาเป็นดอกไม้ร่วงโรยเหมือนเมื่อชาติก่อนอีกครั้ง
ความจริงที่ว่ารถม้าเคลื่อนตัวห่างไปไกลจนมองไม่เห็นอีกแล้ว ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจแปลกๆ
“จักรพรรดินีไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้แค่นี้อยู่แล้ว”
ตั้งแต่แรกก็ไม่ใช่คนที่ดิ้นรนมาได้จนถึงจุดนี้โดยไม่มีแผนการใดๆ หรอก
เธอหันไปมองเฟเรสพลางเอ่ยถาม
“ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้าจะช่วยข้าใช่มั้ย เฟเรส”
เฟเรสเอื้อมมือมาจับปลายผมยาวของเธอที่พลิ้วสะบัดจากแรงลม
และประทับริมฝีปากลงไปบนนั้นอย่างแผ่วเบา
“ข้าพร้อมที่จะช่วยเจ้าเสมอ เทีย ต่อให้ต้องตายก็ยอม”
คำพูดนั้นอาจจะฟังดูเว่อร์เกินจริงไปมาก แต่เธอไม่ได้หัวเราะเขา
เพราะรู้ดีว่าเฟเรสพูดทุกอย่างออกมาจากใจจริง
เธอยืนนิ่งเหม่อมองเส้นทางที่ลาลาเน่เดินทางจากไปอยู่เงียบๆ กระทั่งเวลาผ่านไปสักพัก จนเริ่มดึกมากแล้วจึงค่อยหมุนตัวเดินทางกลับคฤหาสน์
* * *
“จะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่กัน จักรพรรดินี!”
โยบาเนสรีบร้อนวิ่งพรวดเข้ามาในวังจักรพรรดินี ปากก็ตะโกนเสียงดังด้วยความร้อนใจ
“เพราะสินค้าจากลอมบาร์เดียถูกตัดขาดไม่ให้ส่งเข้ามายังเมืองหลวง ทำให้ฝูงชนไม่พอใจกันหมดแล้ว! ทุกคนต่างก็สาปส่งข้ากันทั้งนั้น!”
จักรพรรดิรู้สึกแค้นใจอย่างยิ่ง
พระองค์ก็แค่ช่วยสนับสนุน เพียงเพราะจักรพรรดินีกล่าวว่ามีวิธีดีๆ ในการมัดแขนมัดขาลอมบาร์เดียเท่านั้นเองแท้ๆ
ถึงแม้นั่นจะช่วยให้เหมืองแร่เหล็กเริ่มลงมือขุดเจาะไปได้อย่างราบรื่นก็เถอะ แต่เรื่องพวกนั้นมันถูกลบออกไปจากหัวสมองของโยบาเนสมานานแล้ว
ไม่รู้ว่าจักรพรรดินีจะรู้สึกถึงความร้อนใจของจักรพรรดิโยบาเนสบ้างหรือไม่
จักรพรรดินีราวีนีเพียงแค่หยัดกายลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยท่าทางผ่อนคลาย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“พรุ่งนี้ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเพคะ ฝ่าบาท”
“พรุ่งนี้?”
“เพคะ พรุ่งนี้จะมีการประชุมสภาขุนนาง หม่อมฉันได้แจ้งวาระการประชุมให้แต่ละตระกูลได้ทราบกันแล้ว อีกไม่นานก็คงจะได้กระแสตอบรับกลับมาเพคะ”
“พูดถึงวาระอันใดกัน”
โยบาเนสเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดหรอกเพคะ แค่เสริมความแข็งแกร่งให้กฎหมายผู้สืบทอดต้องเป็นบุตรคนโต ซึ่งเป็นรากฐานที่ช่วยพัฒนาอาณาจักรได้จนถึงตอนนี้เท่านั้นเองเพคะ”
“กฎหมายผู้สืบทอด?”
ดังนั้นในครั้งนี้อย่างไรรูลลักก็จำเป็นที่จะต้องยอมอนุญาตเรื่องการแต่งงานของหลานสาว ถ้าเป็นแบบนั้น โยบาเนสก็ยังพอจะยังรักษาเกียรติของตัวเองเอาไว้ได้บ้าง
‘และก็จะช่วยปลอบประโลมความโกลาหลของประชาชนได้เร็วขึ้น’
จักรพรรดิโยบาเนสเป็นพ่อค้าที่ไม่เคยทำการค้าให้ตัวเองต้องเสียเปรียบ
เขายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มด้วยจิตใจที่ผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ลอบคิดในใจว่าครั้งนี้จักรพรรดินีสร้างเรื่องได้ถูกใจเขามากเสียจริง
* * *
ณ สำนักงานประจำร้านค้าเพลเลส
“แฮก แฮก! ดะ…ดูนี่สิครับ!”
สิ่งที่เบ๊ตวิ่งหอบแฮกเข้ามาแจ้งให้พวกเราได้รู้โดยไม่ลืมถือกล่องเค้กสำหรับบริการจัดส่งถึงที่มาด้วยก็คือ ข้อมูลเกี่ยวกับฎีกาฉบับใหม่ของการประชุมขุนนางในครั้งนี้
กฎการสืบทอดตระกูลด้วยบุตรชายคนโต
“เรื่องใหญ่เลยนะครับ”
เครย์ลีบันยกมือลูบใบหน้าและเอ่ยขึ้น
“หากเดินหมากพลาดละก็ ท่านเบเจอร์คงได้ตระกูลไป…”
ไวโอเล็ตพึมพำเสียงแผ่ว ในขณะที่ส่ายหน้าไปมาราวกับแค่จินตนาการก็รู้สึกสยองขึ้นมาแล้ว
ส่วนเธอน่ะเหรอ
“มีหัวคิดเหมือนกันนะเนี่ย”
ยอมรับเลยจริงๆ คราวนี้จักรพรรดินีเดินหมากได้เยี่ยมมาก
เธอเองก็รู้อยู่หรอกว่า ทางฝ่ายนั้นจะต้องวางแผนอะไรเอาไว้แน่ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะคิดผลักดันให้มีการร่างกฎหมายแบบนี้ขึ้นมา
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทางขัดขวางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี่หรอก
“คงคิดว่าวางกับดักไว้แล้ว ลอมบาร์เดียจะไม่มีทางหนีรอดไปได้สินะ”
แต่ขอโทษทีเถอะ เธอยังมีวิธีการเอาชนะจักรพรรดินีอยู่เหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...