เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 5

เล่ม 5 บทที่ 174.1

ตอนที่ 174

“ข้าไม่นึกเลยว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์กันเช่นนั้น”

เป็นเพราะทั้งคู่มาพบพระองค์ตั้งแต่เช้าตรู่ ใบหน้าของจักรพรรดิโยบาเนสจึงยังมีแต่ความง่วงงุน

แต่ถึงอย่างนั้นข้างในนัยน์ตายามมองหน้าเธอกับเฟเรสก็ยังคงสั่นไหวไปด้วยความตกใจและความสงสัยอยู่เล็กน้อย

เธอรู้สึกสังหรณ์ใจว่า ถ้าหยุดนิ่งอยู่แค่นี้ เดี๋ยวก็คงต้องเมคสตอรี่ร่ายเรื่องราวความรักที่ไม่มีอยู่จริงออกไปให้ฟังแหงๆ

แบบนั้นน่ารำคาญแย่ สงสัยคงต้องเสแสร้งเล่นละครให้เห็นแทนแล้วละ

เธอเอื้อมมือไปกุมมือของเฟเรสที่วางนิ่งอยู่บนหน้าตัก

รู้สึกได้ทันทีเลยว่า มือของเฟเรสที่ถูกเธอกอบกุมเอาไว้กระตุกเกร็งไปเล็กน้อย ร่างกายของเด็กหนุ่มเองก็เกร็งจนแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด

“หุหุ”

เธอแสร้งทำเป็นหัวเราะ ในขณะที่เอนคอเล็กน้อยถลึงตาจ้องเฟเรสเขม็ง

เฮ้ ทำตัวให้มันดีๆ หน่อยได้มั้ยยะ

พอโดนเธอจ้องเข้าหน่อย เฟเรสจึงเริ่มตั้งสติได้

มือของเฟเรสที่นอนนิ่งอยู่ใต้ฝ่ามือของเธอจึงเริ่มขยับ ก่อนจะเป็นฝ่ายดึงมือเธอไปกุมไว้แทน

หนักแน่นมั่นคงเสียจนต้องถามว่าเคยลังเลไม่ยอมจับมือเธอตอบเมื่อครู่นี้ไปเมื่อไหร่

มือใหญ่หยาบกร้านที่กอบกุมมือของเธอเอาไว้ให้ความรู้สึกอบอุ่นมากจนรู้สึกดีจัง

และก็รู้สึกได้ว่า สายตาของโยบาเนสจับจ้องค้างอยู่ที่มือของเธอกับเฟเรสที่กอบกุมกันไว้

เธอจงใจส่งสายตาแห่งความรักมองหน้าเฟเรสเพื่อให้จักรพรรดิได้เห็น

“พอดีหม่อมฉันเป็นพวกขี้อายน่ะเพคะ ฝ่าบาท”

ใต้ตาเฟเรสกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ

ทำไมอีก? อะไรกันเล่า?

“เพราะอย่างนั้นถึงได้ขอร้องเจ้าชายให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับจากทุกคนสักระยะเพคะ”

“มีเหตุผลใดเป็นพิเศษหรือ”

ถึงแม้เธอจะอธิบายไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็นเพราะ ‘เธอค่อนข้างขี้อาย’ แต่โยบาเนสก็ยังดึงดันถามไม่หยุด

บางทีคงตั้งใจจะล้วงความลับนั่นแหละ

แต่เธอก็แค่ยิ้มสดใสตอบกลับไปง่ายๆ

“เพราะยังไม่ได้เตรียมใจเพคะ”

“เตรียมใจ?”

“เตรียมใจที่จะบอกคนในครอบครัวเพคะ ฝ่าบาทเองก็คงทราบความรักที่มีต่อคนในครอบครัวของคนตระกูลลอมบาร์เดียดีอยู่แล้วใช่มั้ยเพคะ”

“อืม ก็จริง”

ดูสิ

ความรักในสายเลือดของลอมบาร์เดียโด่งดังมากขนาดไหน ขนาดองค์จักรพรรดิผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ยังหลงเชื่ออย่างสนิทใจเลย

เรื่องเบเจอร์เองก็เหมือนกัน ถ้าหากไม่ใช่เพราะธรรมเนียมที่สืบต่อกันมาในตระกูลลอมบาร์เดีย และท่านปู่ที่คิดว่าสายเลือดเป็นสิ่งสำคัญแล้วละก็ ป่านนี้คงโดนเฉดหัวขับไสไล่ส่งออกจากตระกูลไปเป็นร้อยรอบแล้ว

“ฝ่าบาท”

เฟเรสที่นั่งฟังบทสนทนาระหว่างเธอกับจักรพรรดิอยู่ข้างๆ เงียบๆ เปิดปากพูดขึ้น

“คุณหนูลอมบาร์เดียกับกระหม่อมอาจจะรู้จักกันมานานแล้วก็จริง แต่ความสัมพันธ์ของพวกเราเพิ่งเริ่มพัฒนามาได้ไม่นานพ่ะย่ะค่ะ เพราะอย่างนั้นจึงต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะมั่นใจในความรู้สึกของกันและกันจนถึงจุดนี้ได้ ขอฝ่าบาททรงเข้าใจพวกกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

คิ้วข้างหนึ่งของโยบาเนสเลิกขึ้นมองเฟเรสยามได้ยินคำกล่าวของเขา

“ทั้งหมดเป็นเพราะกระหม่อมขี้ขลาดเองพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสกล่าวพลางจับมือเธอเอาไว้แน่นกว่าเดิม

รอยยิ้มจางแต่งแต้มอยู่บนริมฝีปาก

ต้องอย่างนั้นสิ! เยี่ยมมาก เฟเรส!

ค่อยสมกับที่เธออุตส่าห์เลี้ยงดูฟูมฟักมาหน่อย!

“โอ้ เพิ่งเคยเห็นเจ้าชายลำดับที่สองเป็นแบบนี้ครั้งแรกเลยนะเนี่ย”

โยบาเนสเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกทึ่งที่ได้เห็นเฟเรสทำตัวเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]