เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 5

สรุปบท เล่ม 5 บทที่ 180.1: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

อ่านสรุป เล่ม 5 บทที่ 180.1 จาก เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet

บทที่ เล่ม 5 บทที่ 180.1 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายแฟนตาซี เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เล่ม 5 บทที่ 180.1

ตอนที่ 180

“สิ่งที่ข้าต้องการ…….”

เฟเรสตั้งสมาธิจับจ้องอยู่บนมือของเทียที่กำลังเอื้อมตรงไปหากล่องแหวนสองกล่องที่วางอยู่ข้างกัน

ราวกับปลายนิ้วขาวเนียนของหญิงสาวกำลังกุมหัวใจของตนอยู่

ถึงแม้จะพูดออกไปอย่างใจกว้างว่า ‘ทำตามที่เจ้าอยากทำเถอะ’ แต่ที่จริงแล้วเฟเรสลุ้นมากเสียจนลืมหายใจด้วยซ้ำ

ได้โปรดเถอะ

ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย

หญิงสาวลังเลไม่นาน

เทียเลือกแหวนเพชรสีใสที่ตัวนางเป็นคนเตรียมมา

ฮู่ว

เฟเรสลอบถอนหายใจหนักอึ้งอยู่ในใจ

อันที่จริงเขาก็พอจะคาดเดาได้อยู่แล้วว่าเทียจะเลือกทางไหน แต่ก็ยังอดที่จะรู้สึกผิดหวังไม่ได้อยู่ดี

“เจ้าเองก็รู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าข้าจะเลือกทางไหน เฟเรส”

เทียกล่าวเช่นนั้นในขณะที่ตั้งใจจะหยิบแหวนมาสวมด้วยตัวเอง

“เดี๋ยวก่อน”

เฟเรสรับเอาแหวนเพชรจากมือหญิงสาวมาถือเอาไว้เอง

แล้วค่อยๆ สวมแหวงวงนั้นลงบนนิ้วเรียวอย่างช้าๆ

เพชรเม็ดงามและแข็งแกร่งยิ่งกว่าอัญมณีชนิดใดส่องประกายเจิดจ้าเมื่ออยู่บนนิ้วเรียวที่ควรค่า

“เหมาะกับเจ้ามาก เทีย”

คำชมของเฟเรสทำให้นัยน์ตาสีเขียวกระจ่างใสคู่นั้นหันกลับมามองชายหนุ่ม

“อันนี้ข้าขอฝากเอาไว้ก่อนนะ จนกว่าทุกอย่างจะเตรียมพร้อมแล้ว”

ตึ้กตั้ก ตึ้กตั้ก

ได้ยินเสียงจังหวะหัวใจเต้นดั่งเสียงดนตรีบรรเลงอันแสนหอมหวาน

แต่มันไม่ได้ดังมาจากเฟเรส

เสียงหัวใจเต้นที่ได้ยินมันดังมาจากเทีย

เวลาแบบนี้นี่แหละนี่เขารู้สึกพอใจในความสามารถทางร่างกายของตัวเองที่โดดเด่นเกินขีดจำกัดของมนุษย์จากการใช้ออร่ามากเหลือเกิน

ตึ้กตั้ก ตึ้กตั้ก

มันเป็นเสียงที่อบอุ่นและอ่อนโยน

เสียงที่ดังเป็นจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามความแนบชิดจากการที่เขาเขยิบกายเข้าไปใกล้ มันทำให้ร่างกายของเฟเรสรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา

ความจริงที่ว่าหัวใจของเทียมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเขา มันทำให้เขารู้สึกดีใจมากจริงๆ จนหัวสมองขาวโพลนไปหมด

เฟเรสขยับเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง

เวลาที่ปฏิบัติต่อเทีย เขามักจะเป็นแบบนี้อยู่เสมอ

เพราะเกรงว่าจะเผลอทำให้คนที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของเขาต้องบาดเจ็บ

กระทั่งลมหายใจยังระมัดระวังยิ่ง

ในที่สุดระยะห่างระหว่างทั้งสองคนก็ขยับเข้าใกล้กันจนลมหายใจสอดประสาน

หญิงสาวหลับตาลง

เฟเรสเกร็งมือที่หยัดกายพยุงน้ำหนักของตัวเองเอาไว้จนเส้นเลือดสีเขียวอมฟ้าปูดโปนขึ้นบนหลังมือและท่อนแขนแกร่ง

และในวินาทีที่ริมฝีปากของพวกเรากำลังจะสัมผัสกัน

ก๊อก ก๊อก

“เจ้าชาย สหายจากอะคาเดมีมาขอเข้าพบ…ขะ…ขออภัยเพคะ!”

แคทเธอรีนเปิดประตูเข้ามาเจอทั้งสองคนที่กำลังเอนกายนัวเนียกันอยู่บนโซฟาเข้าพอดี นางสะดุ้งตกใจ รีบหมุนตัวหันหลังให้กับฉากตรงหน้าทันที

“เทีย เดี๋ยวก่อน…!”

เฟเรสที่วิ่งตามออกมาก็พบเข้ากับบรรดาสหายของเขา

แต่สำหรับเฟเรสแล้วมันไม่ใช่เรื่องสำคัญ

“เดี๋ยวข้าไปส่งนะ”

เทียส่ายหน้าปฏิเสธ

“แขกรออยู่ไม่ใช่หรือไง เฟเรส ไว้ค่อยเจอกันใหม่เถอะ”

ใบหน้ายังคงยิ้มแย้มเหมือนเคย แต่เทียกลับปฏิเสธอย่างหนักแน่น แล้วเบือนหน้าหันไปพูดกับคาอิลรัสแทน

“ช่วยเตรียมรถม้าให้ข้าหน่อยได้มั้ยคะ คาอิลรัส”

“ครับ ท่านฟีเรนเทีย”

“บ๊ายบาย เฟเรส”

หญิงสาวโบกมือให้เฟเรสเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินจากไปไกล

สายตาของเฟเรสเหม่อมองตามแผ่นหลังของเทียไปไม่ละสายตา จนกระทั่งหญิงสาวเดินเลี้ยวผ่านหัวมุมจนมองไม่เห็นอีกต่อไป

แต่เทียกลับไม่แม้แต่จะเหลียวหลังหันกลับมามองเขาเลยสักครั้ง

* * *

วันถัดมาหลังจากแวะไปเยือนพระราชวัง

หลังจากร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับลอรีล เธอก็ออกมาเดินเล่นรอบคฤหาสน์โดยอ้างว่าจะออกมาเดินย่อย

กรอบ แกรบ

ใบไม้ร่วงโรยลงบนพื้นถนนก่อให้เกิดเสียงดังทุกย่างที่ก้าวเดิน

ทุกครั้งที่บรรดาลูกจ้างมีเวลาว่าง พวกเขาก็จะคอยกวาดถนนกันอย่างขยันขันแข็ง แต่ก็ยังไม่อาจขวางไม่ให้ใบไม้ร่วงโรยลงมากองสุมกันได้อยู่ดี

เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้คิดอะไรอยู่สักพัก ก็มาถึงเรือนกระจกของลาลาเน่จนได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]